ศอ.รส.เล็งออก4กฏประกอบกม.มั่นคงคุมเสื้อแดงชุมนุม12-14มี.ค.

โฆษกศอ.รส.เผยผ่านรายการพิเศษเอ็นบีทีเตรียมออก4กฏประกอบพ.ร.บ.มั่นคงคุมเข้มแดงชุมนุม

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเหนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวผ่านรายการพิเศษทางสถานีข่าวเพื่อประชาชน ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ถึงแผนอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.นี้ ว่า  ทหารได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าพนักงาน ตามพ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทำงานร่วมกับตำรวจ โดยจะมีการออกข้อกำหนด ตามมาตรา 18 ของกม.ดังกล่าวประกอบด้วย

1.การออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ในกรณีต่างๆ
2.การออกคำสั่งห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในสถานที่ราชการ หรืออาคารตามแต่เจ้าหน้าที่จะกำหนด
3.การออกคำสั่งห้ามมิให้มีการพกพาอาวุธในเขตที่มีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
4.การออกคำสั่งห้ามมิให้มีการใช้เครื่องมือสื่อสารในกรณีที่เจ้าหน้าที่กำหนด

"การปฎิบัติหน้าที่ของทหารในการรักษาความปลอดภัยระหว่างการชุมนุม จะไม่มีการพกพาอาวุธใดๆ นอกจากกระบองโล่ห์ และเครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลเท่านั้น" พ.อ.สรรเสริญกล่าว

นอกจากนี้ยังมีข้อบังคับในการเดินทางเข้ากทม.ที่ผู้ชุมนุมต้องปฎิบัติตาม คือ 1.ห้ามนำรถอีแต๋นเข้ามาเด็ดขาด หากพบมีการนำมาวิ่งเจ้าหน้าที่จะสกัดทันทีตั้งแต่พื้นที่ต้นทาง 2.ห้ามนำรถกระบะทะเบียนต่างจังหวัดที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมเข้ามาในกทม. โดยต้องจอดไว้ในสถานที่ที่กำหนดบริเวณชานเมือง โดยหากรถกระบะทะเบียนต่างจังหวัดที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมแต่ต้องการเข้ามาทำธุระก็สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่อำเภอที่อาศัยเพื่อขอใบรับรองมาแสดงกับเจ้าหน้าที่

3.ผู้ชุมนุมจะต้องพกบัตรประชาชน เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อถูกเรียกตรวจ เนื่องจาการชุมนุมจะกระทำได้เฉพาะผู้ที่เป็นคนไทยเท่านั้น  

พ.อ.สรรเสริญกล่าวอีกว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเขตพระราชฐานนั้น จะมีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยสั่งห้ามยานพาหนะทั้งทางบกทางน้ำเข้าเขตโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด เช่น รถไฟก็จะห้ามไม่ให้เข้าจอดที่สถานีบางกอกน้อย

ด้านพล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมความพร้อมเพื่อการชุมนุมครั้งนี้มาเป็นอย่างดี มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ตำรวจเองได้เตรียมการฝึกกำลังพลมาแล้วเช่นกัน โดยเป็นสนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน เพื่อรับมือกับสถานการณ์การชุมนุมอย่างไรก็ตามในการทำงานตำรวจ จะยึดหลักการดูแล และควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่าการใช้กำลังหรือความรุนแรง โดยในแต่ละขั้นตอนการปฎิบัติจะมีการรายงานผู้บังคับบัญชาเป็นลำดับชั้น

"การตั้งด่านตรวจไม่ได้หมายความว่าจะไปสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เดินทางเข้ามา แต่เป็นการดูแลป้องกันการพกพาอาวุธของกลุ่มคนไม่หวังดี หรือกลุ่มขบวนการยาเสพติด ที่อาจฉวยโอกาสแฝงตัวเข้ามากับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งตำรวจจะปฎบัติต่อประชาชนด้วยความสะมุนละหม่อม อดทน และดำเนินการจากเบาไปหาหนัก" พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าว