posttoday

มติศาลชี้พรบ.ขายตรงฯมาตรา54ขัดรธน.

28 มีนาคม 2555

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ4วินิจฉัย พรบ.ขายตรงฯมาตรา54ขัดรธน. เหตุสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยมีความผิด

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ4วินิจฉัย พรบ.ขายตรงฯมาตรา54ขัดรธน. เหตุสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยมีความผิด

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มี นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธาน ได้มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียงวินิจฉัย ว่า พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 54 ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่ผู้กระทำผิดซึ่งต้องรับโทษตาม พ.ร.บ.นี้เป็นนิติบุคคล ให้กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น” ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 39 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า “ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด”

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นบทบัญญัติที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยที่เป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น ต้องรับผิดตามนิติบุคคลจึงเป็นอันใช้บังคับมิได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 45 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตราอื่นใดอีก

อนึ่งการพิจารณาดังกล่าวมาจากคำร้องของศาลฎีกา ที่ส่งคำโต้แย้งของจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ คดีหมายเลขดำที่ 229/2547 หมายเลขแดงที่ 824/2548 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 211 กรณี พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 54 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 39 วรรคสอง มาตรา 40(5) ประกอบมาตรา 30 หรือไม่