posttoday

สวนดุสิตโพลฟันธงการเมืองร้อนหลังศาลยึดทรัย์แม้ว

28 กุมภาพันธ์ 2553

สวนดุสิตโพลเผยคนเชื่อการเมืองไทยร้อนหลังศาลตัดสินยึดทรัพย์ทักษิณคนทะเลาะเบาะแว้งกันมากขึ้น

สวนดุสิตโพลเผยคนเชื่อการเมืองไทยร้อนหลังศาลตัดสินยึดทรัพย์ทักษิณคนทะเลาะเบาะแว้งกันมากขึ้น

สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 1,256 คน ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2553ต่อกรณีการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในด้านการเมือง อันดับหนึ่ง ร้อยละ52.64 เห็นว่าคดีดังกล่าว จะส่งผลให้การเมืองไทยร้อนแรง และนักการเมืองทะเลาะเบาะแว้งกันมากขึ้น รองลงมาร้อยละ63.63 เห็นว่า ฝ่ายค้านจะนำประเด็นการยึดทรัพย์มาขยายผลในเรื่องความไม่เป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง และอันดับสุดท้ายร้อยละ10.73 เกิดการผลักดันให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

ด้านเศรษฐกิจ อันดับ 1 ร้อยละ 45.70 ทำให้รัฐบาลมีรายได้เพื่อนำไปบริหารประเทศเพิ่มขึ้นจากเงินที่ถูกยึดคืนมา อันดับ2 ร้อยละ 35.09 เศรษฐกิจจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองเป็นสำคัญ อันดับ 3ร้อยละ 19.21 ส่งผลต่อการลงทุนและตลาดหุ้นขยับตัวขึ้นเล็กน้อย ด้านสังคม อันดับ 1 ร้อยละ 41.91 ทำให้ประชาชนกังวลกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะการวางระเบิด อันดับ 2 ร้อยละ35.57 เป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์หรือพูดถึงกันอย่างมาก ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารการเมืองมากขึ้น และอันดับ 3 ร้อยละ22.52 อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือมีการชุมนุมมากขึ้น

เรื่องการตัดสินคดียึดทรัพย์มีผลต่อคะแนนนิยม ของ “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร" อย่างไร อันดับ1ร้อยละ 44.90 เห็นว่าลดลงเพราะแสดงให้เห็นว่าอดีตนายกฯ ทักษิณมีความผิดจริงตามกระแสข่าวต่างๆที่ออกมาก่อนที่จะมีการตัดสินคดี ฯลฯ อันดับ2ร้อยละ 30.28% เห็นว่าเท่าเดิม เพราะยังมีผู้ที่ชื่นชอบและรักท่านอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดง ฯลฯ อันดับ 3 ร้อยละ 24.82เห็นว่า เพิ่มขึ้น เพราะได้รับคะแนนสงสารและความเห็นใจจากประชาชน อีกทั้งยังเห็นลูกๆต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ฯลฯ

เรื่องหลังจากการตัดสินคดียึดทรัพย์แล้ว “อดีตนายกฯ ทักษิณ" ควรวางตัวอย่างไร อันดับ1 ร้อยละ52.82 ยอมรับคำตัดสินและมุ่งหน้าทำธุรกิจที่ตนเองถนัดต่อไป อันดับ2 ร้อยละ22.32 อยู่เฉยๆสักพักเพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมา /อยากให้นึกถึงครอบครัวเป็นสำคัญ อันดับ 3 ร้อยละ18.05 หยุดการกระทำต่างๆที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ/หยุดเคลื่อนไหวและหยุดสนับสนุนกลุ่มเสื้อแดง อันดับ 4 ร้อยละ6.81 ยืนหยัดเดินหน้าต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป

เรื่องการตัดสินคดียึดทรัพย์มีผลต่อคะแนนนิยม ของ “นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" อย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 53.50 เห็นว่าเท่าเดิม เพราะการตัดสินคดีนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับนายกฯ,ยังคงไว้วางใจและเชื่อมั่นในตัวท่านฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 26.08 เห็นว่าเพิ่มขึ้น เพราะวางตัวเป็นกลาง ไม่ชี้นำ ประชาชนมองว่าเป็นความหวังหรือที่พึ่งให้กับประชาชนได้ ฯลฯ อันดับ3ร้อยละ 20.42 เห็นว่าลดลงเพราะผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ฯลฯ

เรื่องการตัดสินคดียึดทรัพย์มีผลต่อคะแนนนิยม ของ “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร" อย่างไร อันดับ1ร้อยละ 44.90 เห็นว่าลดลง เพราะ แสดงให้เห็นว่าอดีตนายกฯ ทักษิณมีความผิดจริงตามกระแสข่าวต่างๆที่ออกมาก่อนที่จะมีการตัดสินคดี ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ30.28 เห็นว่าเท่าเดิม เพราะยังมีผู้ที่ชื่นชอบและรักท่านอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดง ฯลฯ อันดับ3ร้อยละ 24.82 เห็นว่า เพิ่มขึ้น เพราะได้รับคะแนนสงสารและความเห็นใจจากประชาชน อีกทั้งยังเห็นลูกๆต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ฯลฯ

เรื่องหลังจากการตัดสินคดียึดทรัพย์แล้ว “นายกฯ อภิสิทธิ์" ควรวางตัวอย่างไร อันดับ 1 ร้อยละ 49.41 เดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไปตามปกติด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส อันดับ2ร้อยละ29.23 ควรออกมาแจกแจงถึงเงินที่ยึดคืนว่าจะนำไปใช้อะไรบ้าง อันดับ 3 ร้อยละ21.26 ไม่พูดหรือแสดงความเห็นในทางยั่วยุ / ให้ข่าวอย่างยุติธรรม เป็นกลาง