posttoday

สุเทพเชื่อเสื้อแดงป่วนเมืองไม่ถึงแสน 26 ก.พ.

22 กุมภาพันธ์ 2553

สุเทพเผย ใช้วิธีสลายชุมนุมแบบใหม่ สั่งซื้อแกสน้ำตาแบบขว้างแทนใช้ปืนยิงแก้ปัญหาเสียชีวิต เชื่อเสื้อแดงป่วนไม่ถึงแสนคน

สุเทพเผย ใช้วิธีสลายชุมนุมแบบใหม่ สั่งซื้อแกสน้ำตาแบบขว้างแทนใช้ปืนยิงแก้ปัญหาเสียชีวิต เชื่อเสื้อแดงป่วนไม่ถึงแสนคน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ในรายการเช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า ช่วงตอมแมลงวันสัญจร สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ถึงสถานการณ์ในวันที่ 26 ก.พ.53 ว่า  คาดการณ์ว่าหากมีการชุมนุมซึ่งเป็นไปอย่างที่กลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวอ้าง ย่อมต้องมีคนจำนวนมาก แต่แน่นอนคงไม่มีจำนวนถึงล้านตามที่ได้ประกาศไว้

“ผม คิดว่าไม่น่าเกินแสนคน แต่แสนคนก็มากและทำอะไรได้เยอะ ดังนั้นเวลาเราจะไปรักษาความสงบเรียบร้อย ที่จะเกิดปัญหาจากคนหนึ่งแสนคนนั้นเราก็ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่เป็นหมื่นคน เราจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่ เพราะจะไม่ให้เจ้าหน้าที่พกอาวุธเลย แต่ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันตัวเองได้ ยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎสากลของการควบคุมฝูงชนที่เขาทำกันทั่ว โลก”นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า หากผู้ชุมนุมอยู่ในระดับที่ไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่แล้ว มีการบุกหรือทำลายสถานที่ราชการ ในลักษณะตามที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ปลุกระดมทุกวันก็มีความจำเป็นต้องจับกุม ทั้งนี้หากมีจำนวนคนมากๆ ก็อาจต้องใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำควบคุม หรือต้องใช้แก๊สน้ำตาในท้ายที่สุด

“แก๊ส น้ำตาครั้งนี้มีการจัดซื้อมาใหม่ซึ่งจะแตกต่างกับครั้งก่อนๆ คือ ครั้งก่อนๆ เป็นการยิงด้วยปืน ซึ่งก็มีผู้กล่าวหาว่าปืนนี้มีความรุนแรงมาก แรงระเบิดทำให้คนแขนขาขาด อันใหม่นี้เราก็เลยใช้แบบขว้างด้วยมือ จะดีกว่าโดยไม่รุนแรงในแง่ของระเบิด แต่ประสิทธิภาพเท่ากัน”นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าช่วงเดือนเม.ย.52 เพราะในเดือนเม.ย.นั้นไม่ได้ตั้งหลัก จึงเป็นเหตุที่นำทหารออกมาอย่างเดียว เพราะต้องรีบแก้สถานการณ์จากการถูกเผาบ้านเผาเมือง เนื่องจากทหารมีกฎระเบียบและควบคุมได้ง่าย  

“ผม ติดตามสถานการณ์ในขณะนี้ พบว่ามีบางฝ่ายต้องการจะยั่วยุให้เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ ชุมนุม เพื่อต้องการนำไปขยายผลว่าทหารปราบประชาชน ผมจึงต้องระมัดระวัง จะเห็นได้ว่าจะรายงานกับประชาชนเสมอว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกำลังหลัก ทหารเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ผมจะไม่ยอมให้ใครอ้างได้ว่าทหารนำอาวุธมาปราบประชาชน”นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า  คิดว่าคนไทยด้วยกันน่าจะเข้าใจกันได้ โดยวิงวอนขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง อย่าเอาเรื่องของตัวเองเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้หากจะกระทำสิ่งใดไปขอให้รู้ว่าบ้านเมืองนี้เป็นของเราทุกคน อย่าคิดว่าเมื่อไม่ได้ดังใจแล้วต้องเอาให้เละเทะกันไปข้างหนึ่ง

“สิ่ง ที่ผมเป็นห่วงคือขณะนี้มีทั้งข่าวลือ ข่าวปล่อย เว็บไซต์ ซึ่งจะทำให้คนงุนงงลำบากใจและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแน่ จึงอยากขอให้ประชาชนมีความหนักแน่นเอาไว้ และในฐานะที่ผมเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ผมจะพูดความจริงและรายงานข้อเท็จจริงต่อพี่น้องประชาชนโดยไม่ปิดบังอะไร ดังนั้นสิ่งที่ผมรายงานไปย่อมเชื่อถือได้ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปมากกว่านั้น อย่าไปกังวลกับวันที่ 26 ก.พ.มาก นัก ขอให้ทำใจว่าเราต้องยึดเอาหลักการของบ้านเมืองเอาไว้ เรื่องที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ซึ่งมีคณะผู้พิพากษา 9 คน ที่มีความอาวุโสและผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ดังนั้นเมื่อท่านตัดสินไปซ้ายหรือขวาย่อมมีเหตุผลและข้อกฎหมายรองรับ ทั้งนี้ยืนยันว่าระบบศาลประเทศไทยมีมาตรฐานสากลสูงสุด จึงขอให้เชื่อมั่น ซึ่งเมื่อวานก็มีการปล่อยข่าวว่ามีการติดสินบนผู้พิพากษาเป็นพันล้าน อย่างนี้เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของคน จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหวั่นไหว”นายสุเทพกล่าว