กต.ชี้ปล่อยวีระ-ราตรีอยู่ที่เขมร

คณะทูตอาเซียนเข้าคารวะสุรพงษ์ในฐานะรมต.คนใหม่ ยํ้าเขมรปล่อยวีระ-ราตรีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณา

เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโมฮัมหมัด ฮัตตา เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย นำคณะทูตอาเซียนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล  รมว.ต่างประเทศ โดยภายหลังการเข้าพบ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รมว.ต่างประเทศ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการสานสัมพันธ์กับประเทศอาเซียนในระดับทวิภาคี และความมุ่งมั่นในการสร้างประชาคมอาเซียน ทั้งในมิติของการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะเครือข่ายคมนาคมระหว่างกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกันสำหรับในระดับทวิภาคีนั้น รมว.ต่างประเทศ ได้เล่าถึงการเดินทางเยือนบรูไน และอินโดนีเซีย ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี และจะมีกำหนดการเยือนกัมพูชาและสปป.ลาว ในประเทศต่อไปในปลายสัปดาห์นี้  โดยจะหาโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศอาเซียนอื่นอีก 

นายธานี กล่าวต่อว่า จากนั้นเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะและแนะนำตัวต่อ รมว.ต่างประเทศ พร้อมกับได้แสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่รมว.ต่างประเทศ ได้แสดงความยินดีผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่เช่นกันด้วย  ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือให้แน่นแฟ้น และพัฒนาร่วมกันในด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะญี่ปุ่นมีสัดส่วนการลงทุนในไทยมากถึง 40% นอกจากนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นยังได้แสดงความซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาล และประชาชนไทย ที่ให้ความช่วยเหลือต่อญี่ปุ่นในช่วงที่ประสบภัยพิบัติ  ซึ่งทางญี่ปุ่นก็พร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์การบริหารจัดการกับภัยพิบัติ รวมถึงการบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

นายธานี กล่าวว่า ส่วนกำหนดการเยือนกัมพูชาของนายกฯนั้น ในช่วงบ่ายนี้ รมว.ต่างประเทศ จะบรรยายสรุปให้กับนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงรายละเอียดในภาพรวม และสารัตถะของการเดินทางเยือนกัมพูชาและลาว อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวที่ทางการกัมพูชาจะมีการอภัยโทษให้กับนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองแกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ ซึ่งทั้งสองได้ขอพระราชทานอภัยโทษตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว  ขณะนี้คงต้องรอฟังทางฝ่ายกัมพูชาพิจารณา ซึ่งการเดินทางไปเยือนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ก็จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือ ซึ่งเป็นไปตามปกติที่การเดินทางเยือนก็จะติดตามสารทุกข์สุขดิบของคนไทย