สปาย vs สปาย (3)

โดย...ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์

*******************

ผู้อ่านบทความนี้ในสองตอนแรก หารือว่า หากจะดูการ์ตูนฝรั่ง Spy vs Spy จะหาดูได้ที่ไหน ขอแนะว่าให้เปิดดูในกูเกิ้ล จะพบการ์ตูนดังกล่าวซึ่งเป็นการเชือดเฉือนกันระหว่างนกสองตัวสีขาวกับสีดำ ใครดูแล้วจะติดใจ และชมคนเขียนการ์ตูนว่าคิดมุกพวกนี้ขึ้นมาได้อย่างไร

ผู้อ่านอีกท่านหนึ่งบอกว่า อ่านบทความสองตอนที่ผ่านมาทำให้รู้เรื่องหน่วยข่าวของโลกมากมาย และอยากให้ใช้คำว่า “หน่วยสืบราชการลับ” แทนเพราะดูเท่ ตื่นเต้น ลึกลับมากกว่า อีกทั้งชอบใจหน่วยมอสสาดของอิสราเอล ซึ่งไทยน่าจะเรียนรู้จากหน่วยนี้มากกว่า เพราะเป็นประเทศขนาดเล็กทีมีทรัพยากรจำกัดคล้ายกัน แต่เราต้องปรับคุณภาพของคนกันอีกมาก

ผู้อ่านอาจสงสัยว่า ผู้เขียนไม่มีอะไรจะเขียนแล้วหรืออย่างไร จึงหากินกับการเขียนเรื่องหน่วยข่าวกรองของโลกสามสัปดาห์ต่อเนื่องกัน ขอเรียนว่า ที่เขียนหัวข้อนี้เป็นเรื่องยาวเพราะมีผู้อ่านบางคนอยากรู้ สำหรับผู้เขียนเองเห็นว่า “การข่าวกรองเป็นพลังอำนาจแห่งชาติ” อย่างหนึ่งนอกเหนือจากการทหาร เศรษฐกิจ การทูต สังคมวัฒนธรรม ฯลฯ

การข่าวกรองแปลมาจาก Intelligence ในภาษาอังกฤษ ซึ่งคำนี้มีความหมายพื้นฐานคือ สติปัญญา ความเฉลียดฉลาด ความรอบรู้ ดังนั้น ข่าวกรองจึงมาจากการใช้ความรอบรู้ ความเฉลียวฉลาด เข้าต่อสู้หรือเชือดเฉือนกันโดยมีผลประโยชน์และความมั่นคงแห่งชาติเป็นเดิมพัน ใครมี “หู ตา” ดีกว่าก็ชนะไป ฝ่ายไหนหูไม่ดี ตาฝ้าฟาง มองภัยคุกคามไม่ออก ไร้สติปัญญา บ้านเมืองก็ไปไม่รอด

ชนะโดยไม่ต้องใช้กำลัง ไม่มีการสูญเสีย ถือว่าสุดยอดของชัยชนะ

แล้วจะทำได้อย่างไร

วันนี้จะเขียนถึงหน่วยข่าวกรองดังระดับโลกอีกสองหน่วย คือ เค.จี.บี. หน่วยข่าวกรองของสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นคู่รักคู่แค้นกับ ซี.ไอ.เอ.ของสหรํฐ และ เอ็ม.ไอ.6 ที่ปัจจุบันเรียกว่า “เอส.ไอ.เอส.” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ หรือต้นสังกัดของพระเอกภาพยนต์ เจมส์ บอนด์ ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองขนาดเล็กหรือ “จิ๋วแต่แจ๋ว” ที่เป็นตัวอย่างอันดีสำหรับประเทศเล็ก ๆ แบบไทย

ในสมัยสงครามเย็นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง การแข่งขันสร้างและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกันและสหภาพโซเวียตเป็นไปอย่างเข้มข้น ฝ่ายไหนทำอะไร อีกฝ่ายต้องรู้ ฝ่ายไหนพัฒนาก้าวหน้ากว่า

อีกฝ่ายต้องหาทางขโมยสูตรลับมาให้ได้ผ่านการ “จารกรรม “ ช่วงนั้น “จารชน” อเมริกันและโซเวียตทำงานหนักมาก เรียกว่าแทบเดินกระทบไหล่กัน มีข่าวสหรัฐจับกุมจารชนโซเวียตซึ่งเป็นทั้งคนโซเวียตปลอมตัวมาและคนอเมริกันที่ขายตัว ได้หลายราย เช่นเดียวกัน โซเวียตก็จับกุมจารชนอเมริกันได้หลายราย จารชนที่ถูกจับมีทั้งถูกขังคุกจนตายคาคุก หรือใช้ “แลกเปลี่ยน” กันเป็นครั้งคราวหลังจากรีดเอาความลับจากจารชนจนหมดแล้ว เพราะขังเอาไว้ก็เปลืองขนมปัง ส่วนพวกที่ “ทรยศ” เป็น “สายลับซ้อน” หรือสายลับสองหน้าก็ต้องถูกกำจัด

เค.จี.บี.เป็นทั้งหน่วยจารชนและหน่วยไล่ล่าจารชน เมื่อพูดถึง เค.จี.บี. ก็ต้องพูดถึง จี.อาร์.ยู ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองทางทหารของโซเวียตควบคู่กันไป ในช่วงสงครามอินโดจีน เจ้าหน้าที่เค.จี.บี.และ จี.อาร์.ยู เคลื่อนไหวในไทยมาก แต่เป้าหมายอยู่ที่ฐานทัพอเมริกันเป็นสำคัญ ต่อมา เมื่อสหภาพโซเวียตแปรสภาพเป็นรัสเซีย เค.จี.บี. ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารในรัสเซียถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เอส.วี.อาร์ เจ้าหน้าที่หลายคนถูกปลดออก คนหนึ่งในนั้น คือ ประธานาธิบดีปูติน นี่เอง บางคนกลายมาเป็นมาเฟียที่พัทยาหรือเป็นมือปืนรับจ้าง อาจกล่าวได้ว่า ใครเป็นประธานาธิบดีรัสเซียก็ต้องพึ่ง เค.จี.บี. มีบุคลากร เค.จี.บี.อย่างน้อยสองคนคือ อันโดรปอฟ และปูติน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำของรัสเซีย

ปูติน กลายเป็นตำนานที่อดีตหัวหน้าข่าวกรองดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศ นานที่สุดเขาทำให้รัสเซียพ้นจากความล่มจมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นมหาอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน

หน่วยงานซึ่งเป็นตำนานข่าวลับระดับโลกอีกหน่วยหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ หน่วยข่าวกรองทางทหาร แผนก 6 หรือ เอ็ม.ไอ.6 ของอังกฤษ ปัจจุบันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “องค์การข่าวกรองลับ” (เอส.ไอ.เอส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กๆ แต่มีประสิทธิภาพสูงยิ่ง ผลิตทรัพยากรบุคคลชั้นเยี่ยม มีวิธีคิดและและวิธีทำงานที่ “คลาสสิค” มาก เป็นหน่วยงานที่สามารถบอกผู้นำได้ล่วงหน้าว่าฮิตเลอร์เตรียมจะทำสงครามใหญ่ หน่วยงานนี้มีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยเป็น เอ็ม.ไอ.6 สู้กับฮิตเลอร์ในสงครามโลกครั้งที่สอง และมีประสบการณ์โชกโชนช่วงสงครามเย็นในการสู้กับ เค.จี.บี.

เมื่อพูดถึงหน่วยข่าวอังกฤษ จะไม่พูดถึงอีกหน่วยหนึ่งคงไม่ได้ นั่นคือ หน่วยสื่อสารของอังกฤษซึ่งมีประวัติเด่นที่สามารถถอดรหัสลับ “อีนิกม่า” ของเยอรมันฮิตเลอร์ได้ ทำให้อังกฤษล่วงรู้แผนลับต่างๆของฮิตเลอร์ และทำให้เกาะอังกฤษที่ถูกฮิตเลอร์ถล่มจนยับเยินพลิกกลับมาชนะได้ในที่สุด (มีคนแปลหนังสือเล่มนี้แล้ว)

วันหนึ่ง หน่วยงานนี้สามารถถอดรหัสจนรู้ว่า ฮิตเลอร์จะส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดกรุงลอนดอน วันเวลาที่ระบุชัดเจน หากท่านเป็นนายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลขณะนั้น ท่านจะตัดสินใจอย่างไรเพราะท่านกำลังเล่นกับความเป็นความตายของประชาชนและประเทศชาติ หากประกาศให้คนในกรุงลอนดอนอพยพหนีภัย ข้อดีคือสามารถรักษาชีวิตคนอังกฤษได้เป็นร้อยเป็นพันคน แต่ฮิตเลอร์ก็จะรู้ว่ารหัสลับของตนถูกอังกฤษถอดได้เสียแล้ว และเปลี่ยนรหัสใหม่ อังกฤษต้องใช้เวลาอีกนานในการถอดรหัส ในช่วงนี้ คนอังกฤษคงถูกระเบิดตายอีกมาก แต่ถ้าเฉยเสีย คนอังกฤษจำนวนมากจะตายและบาดเจ็บ แต่ข้อดีคือ ยังคงสามารถรู้แผนลับของฮิตเลอร์ต่อไปเพื่อวางแผนตอบโต้และเอาชนะทางยุทธศาสตร์ นี่เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่งของเชอร์ชิล เพราะมีคนอังกฤษและประเทศเป็นเดิมพัน

ถ้าเป็นท่านผู้อ่าน ท่านจะตัดสินใจอย่างไร

ผู้อ่านท่านใดอยากอ่าน “เรื่องจริง” คดีจารกรรมระหว่าง เอ็ม.ไอ. 6 อังกฤษ + ซี.ไอ.เอ อเมริกัน สู้กับ เค.จี.บี. ของโซเวียต ลองไปติดต่อห้องสมุดที่วังปารุสกวันซึ่งรวบรวมหนังสือเรื่องจริงคดีจารกรรมไว้มากมาย เรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้อ่าน คือ “เพนกอฟสกี้ เปเปอร์ส” ซึ่งเป็นเรื่อง “สายลับซ้อน” ชาวรัสเซียที่แปรพักตรทำงานให้อังกฤษ และหนังสืออีกหลายเล่มที่คนอเมริกัน คนอังกฤษ หลายคนที่เป็นจารชนให้ เค.จี.บี.

หน่วยงานสุดท้ายที่จะเขียนถึงอันเป็นการปิดบทความชุดนี้ คือ หน่วยข่าวกรองของจีน ซึ่งผงาดขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ และใหญ่โตไม่แพ้ ซี.ไอ.เอ. จะเรียกว่าเป็น “เสือเงียบ” ก็คงได้ อย่าลืมว่า ชนชาตจีนคือลูกหลานขงเบ้ง ที่มีกลอุบายมากมายในการชนะศึกสงคราม คนจีนมีอารยธรรมสูงเหนือกว่าฝรั่ง วิธีคิดของคนจีนแหลมคม ยอกย้อน อีกทั้งเทคโนโยลีของจีนในปัจจุบันที่ถูกนำมาใช้ในงานข่าวกรองก้าวหน้าไม่แพ้อเมริกัน ไม่ว่าจะเป็น “ตาทิพย์” และ “หูทิพย์” ที่สำคัญคือ มีคนจีนโพ้นทะเลกระจายอยู่ทั่วโลกรวมทั้งในไทยที่สามารถเป็นหูตาให้กับหน่วยข่าวของจีนได้ เท่ากับหน่วยข่าวจีนมีแหล่งข่าวอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก

เมื่อสองสามวันมานี้ มีพรรคพวกส่งวิดีโอมาให้ดูซึ่งน่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นของจีน ที่ถ่ายภาพวิดิโอได้ทุกแห่งในโลกด้วยความแม่นยำและความละเอียดสูงมาก ( ผู้อ่านหลายท่านคงได้ดูแล้ว ) ถ้าเป็นไปตามวิดิโอ แสดงว่า เวลานี้ เราจะดูสถานที่ไหนในโลก จากแง่มุมไหนก็ได้ ทั้งมุมสูง มุมล่าง ฯลฯ เพียงแค่ปลายนิ้วแตะเท่านั้น กล่าวกันว่าเป็นดาวเทียมระบบนำร่อง “เปยโต่ว” ที่พร้อมให้บริการทั่วโลกแข่ง จี.พี.เอส.ของสหรัฐ แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้โทรศัพท์ระบบ 5 จี. ของจีน ซึ่งเวลานี้หาซื้อได้ง่าย “กูเกิล เอิร์ธ” ที่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณะชิดซ้ายไปเลย

เวลานี้ จีนมีทั้ง “ตาทิพย์” และ “หูทิพย์” บนท้องฟ้าและในอวกาศ ส่วนบนพื้นดิน จารชนจีนกับจารชนฝรั่ง รัสเซีย คงเดินชนไหล่กันให้วุ่นไปหมด

ชีวิตพวกเราคงอยู่ยากขึ้น ความเป็นส่วนตัวของเราถูกท้าทาย ข้างบนก็มีทั้งตาทิพย์และหูทิพย์คอยเฝ้าดู เฝ้าฟัง ส่วนบนพื้นดินรอบตัวเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็น “จารชน” บ้าง ขณะเดียวกัน ก็ต้องระวังไวรัสโควิด 19 ซึ่งยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือทำขึ้นโดยมนุษย์ในสงครามเชื้อโรค (จบ )