7 ตราบาปในโลกหลังโควิด
โดย...ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์
เมื่อผมได้มีโอกาสอ่านวาทะของมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่างมหาตมะ คานธี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “บาป 7 ประการในทัศนะของคานธี” (โดยท่านอาจารย์เรืองอุไร กุศลาสัย ได้กรุณาถอดเป็นภาษาไทยอย่างสละสลวย) ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการเขียน “ 7 ตราบาปในโลกหลังโควิด” (Post-Covid 7 Deadly Sins) ขึ้น โดยหวังว่าโรคระบาดโควิด-19 จะเป็น “สิ่งนำโชคในสถานการณ์ที่เลวร้าย” (Blessing in Disguise) ที่ก่อให้เกิด “โลกปรับ คนเปลี่ยน” ครั้งใหญ่อีกครั้ง เป็นการร่วมสร้าง “ชีวิตวิถีใหม่สู่ความยั่งยืน” อย่างแท้จริง แม้ว่าโรคระบาดโควิด 19 จะยังอยู่กับพวกเราอีกนานมากน้อยเพียงใด
“บาป 7 ประการในทัศนะของคานธี”
• เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการPolitics without principles
• หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิดPleasure without conscience
• ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงานWealth without work
• มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดีKnowledge without character
• ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลหลักธรรมCommerce without morality
• วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์Science without humanity
• บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละWorship without sacrifice
“7 ตราบาปในโลกหลังโควิด”
• ไม่มีสันติภาพในโลกอย่างถาวรหากผู้คนยังไร้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินNo global peace without human security
• ไม่มีระบบทุนนิยมที่ยั่งยืนหากไม่มีการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรมNo capitalism without human capital development
• ความร่ำรวยทางวัตถุจะไร้ประโยชน์หากบกพร่องความรุ่มรวยทางจิตใจNo material wealth without mental wealth
• งานที่ทำจะไร้ผลหากขาดซึ่งนัยแห่งความหมายNo work that matters without meaningful life
• มีผลประกอบการที่ดีก็ไร้ค่าหากไม่สามารถเป็นผู้ประกอบการที่ดีได้No value in being well without being good entrepreneurs
• จะเพรียกหาเจตจำนงร่วมจากที่ใดหากไม่คิดเปิดพื้นที่ให้ร่วมอย่างจริงใจNo common goal without common ground
• อย่าหวังการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังหากปราศจากการเปิดหู เปิดตา และเปิดใจNo inclusiveness of the people without openness to the people**
**จากหนังสือ “โลกเปลี่ยน คนปรับ : รวมไทยสร้างชาติ วิถีใหม่สู่ความยั่งยืน” และ “The Seven Shifts: How “We” can thrive in the Post-Covid-19 World” โดย สุวิทย์ เมษินทรีย์