posttoday

"สุชัชวีร์" ลั่นพร้อมแก้น้ำท่วมกทม. "เมธี ลาบานูน"ยก"เอ้"เทียบ"คล็อปป์"มีความพากเพียร

19 พฤษภาคม 2565

"เมธี ลาบานูน" ขึ้นเวทีปราศรัย ยก "เอ้ สุชัชวีร์" ไม่ต่างจาก "เจอร์เกน คล็อปป์"ในเรื่องความพากเพียร ด้าน "สุชัชวีร์" ลั่นจะแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยหลักวิชา หมดเวลาโชว์ ได้เวลาทำ พร้อมเป็นผู้ว่าฯ "นักแก้ปัญหาเมือง"

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 ที่เวทีปราศรัยของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ หรือเอ้ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 ซึ่งจัดขึ้นที่ ลานสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ซอยบางขุนเทียน 14 ได้มีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก. 6 เขต ประกอบด้วย นายสารัช ม่วงศิริ ผู้สมัครส.ก.บางขุนเทียน เบอร์ 4 นายณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ผู้สมัครส.ก.บางบอน เบอร์ 3 ดร.ฮารูน มูหมัดอาลี ผู้สมัคร ส.ก. หนองแขม เบอร์ 6 นายสุนทร ทุ้ยมาก ผู้สมัคร ส.ก. ราษฎร์บูรณะ เบอร์ 4 นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ก. ทุ่งครุ เบอร์ 6 นายศิริชัย เกียรติศิริลักษณ์ ผู้สมัคร ส.ก. จอมทอง เบอร์ 2

นายเมธี อรุณ (เมธี ลาบานูน) ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อให้กำลังใจ ส.ก. และ “เอ้ สุชัชวีร์” โดยหวังว่าพี่น้องประชาชนจะเลือกให้ทำงานให้คน กทม. พร้อมกับเปรียบเทียบ “เอ้ สุชัชวีร์” กับ เจอร์เกน คลอปป์ จากลิเวอร์พูล ในเรื่องความพากเพียร เพราะคนระดับ ดร.เอ้ จะอยู่พรรคไหนก็ได้ แต่เลือกจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์

“ทำไมต้องมาอยู่ประชาธิปัตย์ ทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าองค์กรบางองค์กรมีช่วงที่ต่ำลง แต่ช่วงที่คนๆ นึงพร้อมรับภารกิจที่จะทำให้ขึ้นมา มันเหนือกว่าชัยชนะ และเหนือกว่าชัยชนะคือความพากเพียร วันนี้การเมืองประเทศไทยถึงเวลาแล้ว ผมกับ ดร.เอ้ ทำไมต้องมาเล่นการเมือง เป็นลาบานูนอยู่ดีๆ ร้องเพลงก็สบายอยู่แล้ว แต่วันนี้ไม่ได้มาเล่นการเมือง และเชื่อว่า ดร.เอ้ ก็ไม่ได้มาเล่นการเมือง แต่มาอาสามาทำการเมืองให้คนกรุงเทพมหานคร วันที่ 22 พ.ค. มีความหมายมากสำหรับ กทม. 4 ปีอาจจะดูไม่นาน ถ้า ดร.เอ้ ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ เราก็เสียดายไป 4 ปี นโยบายที่เราคิดก็ทำไม่ได้ ดังนั้นถึงเวลาทุกคนหยิบโทรศัพท์ แล้วก็โทรไปเลย ฝากเบอร์ 4 อย่าลืม ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ด้วย วันนี้ถึงเวลาให้นักพัฒนาต้องเกิดขึ้น ถึงเวลาที่เราต้องไม่เล่นการเมือง แต่ต้องอาสาทำการเมืองต่อไป หวังเหลือเกินว่าทุกคนจะเลือก ดร.เอ้ เบอร์ 4 และ ส.ก. ประชาธิปัตย์”

"สุชัชวีร์" ลั่นพร้อมแก้น้ำท่วมกทม. "เมธี ลาบานูน"ยก"เอ้"เทียบ"คล็อปป์"มีความพากเพียร

ทั้งนี้ไฮไลท์สำคัญในเวลาประมาณ 19.05 น. “เอ้ สุชัชวีร์” ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงเชียร์เบอร์ 4 ดังกึกก้องยาวนานจากผู้ร่วมฟังการปราศรัย โดย “เอ้ สุชัชวีร์” ได้ปราศรัยถึงปัญหาน้ำท่วม จากคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักมากจนน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ ก่อนวันเลือกตั้ง 4 วัน มันเหมือนสัญญาณที่ส่งจากท้องฟ้า บอกพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ว่า ท่านจะเลือกผู้ว่าฯ ผิดคนไม่ได้ เพราะนี่คือสัญญาณของธรรมชาติจากท้องฟ้า บอกคนกรุงเทพฯ ทุกคนว่า วันนี้ธรรมชาติจะเอาคืน หมายความว่าจากนี้ไปฝนจะไม่ตกน้อยลง ปัญหาน้ำท่วมจะไม่น้อยลง ถ้าไม่ได้ผู้นำที่ชื่อ สุชัชวีร์ เบอร์ 4

เรื่องน้ำท่วมหลายคนบอกว่าเราจะหมดหวัง แต่ขอบอกกับทุกคนว่า มาอยู่ที่นี่โดยเฉพาะชาวบางขุนเทียน จะหมดหวังไม่ได้ เพราะถ้าหมดหวังคนที่ลำบากคือลูกหลานของท่าน หลักหมุดที่ 28 – 29 ที่ชายทะเลบางขุนเทียน ได้บอกทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคต วันนี้เสาไฟฟ้าอยู่กลางทะเล แสดงว่าวันนี้ธรรมชาติรุกคืบท่านไม่ใช่ทุกปี แต่เป็นทุกวันๆๆ กรุงธนใต้ นั่นคือปราการด่านสุดท้ายของกรุงเทพมหานคร

“ขอให้ท่านเลือกผู้ว่าฯ ที่เป็นคนที่มีความรู้จริงๆ มีความเข้าใจกับเรื่องกรุงเทพฯ กับเรื่องสัญฐานดิน และน้ำของกรุงเทพจริงๆ ไม่เช่นนั้น ถ้าคิดอย่างเดิม ทำแบบเก่า 4 ปี กรุงเทพฯ จะสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ หรือวิกฤตอาจจะแก้ไม่ได้ สายเกินไปก็เป็นไปได้ ผมมีความตั้งใจจะขออาสามาทำงานนี้ตั้งแต่เรียนวิศวะ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และจุดนั้นเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้ผมมีความตั้งใจว่าวันนึงจะกลับมาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน”

"สุชัชวีร์" ลั่นพร้อมแก้น้ำท่วมกทม. "เมธี ลาบานูน"ยก"เอ้"เทียบ"คล็อปป์"มีความพากเพียร

“เอ้ สุชัชวีร์” ได้กล่าวถึง ปัญหากรุงเทพฯ ในวันนี้คือปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งพระนครหรือฝั่งธนบุรี เป็นดินแดนปากแม่น้ำ ที่มีความยุบตัวลงทุกวัน ที่ผ่านมาอัตราการทรุดตัวของกรุงเทพฯ มากขึ้น วันนี้ถ้าผู้ว่าฯ ไม่รู้เรื่องนี้ก็จะใช้เงินของพี่น้องประชาชนผิดไปทุกปี แต่ละปีสำนักระบายน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เงินไปมากกว่า 10 ล้านต่อปี 10 ปี มากกว่าแสนล้าน น้ำก็ยังท่วมกรุงเทพฯอยู่ แสดงว่าคิดแบบเดิม มันใช้ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่ต้องกล้าคิดสิ่งใหม่ แต่เมื่อไปดูผู้สมัครไม่มีใครกล้าออกมาพูดว่าวันนี้การระบายน้ำของกรุงเทพฯ มันตกยุคแล้ว กรุงเทพปัจจุบันเป็นแอ่งกระทะสมบูรณ์แบบ ฝนตกมาน้ำก็ท่วม และหน้าฝนปัจจุบันไม่เหมือนฝนในอดีต เพราะตกมาทีเดียวท่วมตูม เพราะภาวะโลกร้อน เมื่อวานฝนตกมากกว่า 136 มิลลิเมตรในจังหวะเดียวกรุงเทพฯไม่รอด ซึ่งจุดที่ต่ำที่สุดคือท่อระบายน้ำ ถัดมาเป็นซอย ถนน คลอง และที่อยู่สูงที่สุดคือแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯ มีทางรอดทางเดียวในปัจจุบันคือสูบน้ำขึ้น เพื่อไปทิ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลออกอ่าวไทย

“ผมไม่กล้าเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ แล้วมาบอกว่า เป็นผู้ว่าฯ แล้ว เดี๋ยวเรามาลอกท่อกันต่อนะ เดี๋ยวเรามาลอกคลอง ผมไม่กล้าหาเสียงเรื่องนี้ เพราะการลอกท่อลอกคลองเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่หนทางดับทุกข์ แต่กรุงเทพฯ คือเมืองปั๊มสมบูรณ์แบบ ปั๊มกรุงเทพฯ เหมือนปั๊มหัวใจ แสดงว่าผู้ว่าฯ กรุงเทพ วันนี้ถ้าไม่เข้าใจสันฐานดินและน้ำกรุงเทพฯ ก็ใช้เงินท่านไปในทางที่ผิดๆๆ อย่างที่เห็นอยู่เสียเงินเป็นแสนล้านเปล่าประโยชน์ ผมเป็นผู้ว่าฯ เมื่อไหร่สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกสิ่งที่ต้องทำให้คือต้องมั่นใจว่าปั๊มน้ำที่อยู่ในกรุงเทพฯนั้นยังทำงาน”

“เอ้ สุชัชวีร์” จึงได้ขออาสาสังคายนาระบบเปิด-ปิดระบายน้ำเครื่องสูบน้ำเสียใหม่ ด้วยการเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ เมื่อฝนตกเครื่องสูบน้ำประตูระบายน้ำทำงานทันที แต่เรื่องน้ำท่วมรอระบายยังไม่หายไป เพราะแม้จะเปลี่ยนระบบปั๊มให้ดีขึ้นก็ยังเป็นเพียงการประทัง เนื่องจากยังมีน้ำเหลือมากขึ้นทุกวัน และจากการที่ตนได้พบกับผู้ว่าฯ กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองที่ประสบปัญหาหนักหนาสาหัสมากที่สุดในโลก และได้รับคำตอบว่าวันนี้โตเกียว ไม่ว่าจะเจอพายุฝนแค่ไหนน้ำก็ไม่ท่วมเพราะเขาใช้ความรู้ทางด้านวิศวกรรมมาแก้ปัญหาของบ้านของเมือง ดังนั้นหากต้องการให้ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เป็นผู้ที่มีความรู้ทางด้านวิศวกรรมมาแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ วันที่ 22 ต้องเลือกผู้ว่าฯ เบอร์ 4 สุชัชวีร์

พร้อมกับการเสนอแนวคิดการสร้าง แก้มลิงใต้ดิน ซึ่งกรุงเทพฯ ทำได้ โดยสามารถทำที่สวนจตุจักร เพื่อให้เป็นบ่อพักน้ำรอระบาย ขนาด 50 x 100 เมตร ลึก 20 เมตร ซึ่งก่อสร้างง่ายกว่าการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับเก็บน้ำฝนให้ไหลลงตามธรรมชาติมาที่บ่อพัก เมื่อหยุดตกจึงค่อยสูบน้ำออก การคิดวิธีใหม่ๆ เป็นความกล้าหาญและวิธีใหม่นี้ไม่ใช่กรุงเทพฯ หรือ สุชัชวีร์คิดเป็นคนแรก แต่กรุงโตเกียว ฮ่องกง สิงคโปร์ ทำสำเร็จมาแล้ว และวันนี้มีตัวอย่างที่วัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งตนเป็นที่ปรึกษา ได้สร้างแก้มลิงใต้ดินสำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบแล้ว

"สุชัชวีร์" ลั่นพร้อมแก้น้ำท่วมกทม. "เมธี ลาบานูน"ยก"เอ้"เทียบ"คล็อปป์"มีความพากเพียร

“เอ้ สุชัชวีร์” ยังกล่าวถึงปัญหาของพี่น้องกรุงธนใต้ ไม่ใช่มีแค่น้ำฝน แต่ยังประสบปัญหาน้ำทะเลหนุน และน้ำทะเลกัดเซาะ โดยเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นของจริง ดูได้จากน้ำประปาตอนนี้ดื่มไม่ได้เพราะเค็มไปถึงปทุมธานี แสดงว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยารวมทั้งบางขุนเทียนได้ไหลย้อนร่วม 100 กม.

“หากวันนี้ยังไม่มีผู้ว่าฯ ที่คิดเรื่องการป้องกันน้ำทะเลหนุน ผมขอได้มั้ย ขอเป็นผู้ว่าคนแรกที่จะทำโครงการเริ่มสักที นับ 1 สักที โครงการป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำทะเลกัดเซาะบางขุนเทียน เพราะบางขุนเทียนคือด่านหน้า ถ้าบางขุนเทียนยังไม่ทำกันคลื่น กันน้ำทะเลหนุนน้ำจะซัดเข้าไป จากบางขุนเทียนก็ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ชุดท้ายน้ำก็ท่วมตลอดแนวจนถึงบางพลัด จนถึงบางซื่อ นี่คือจุดประจัญบาน กรุงเทพฯ เราต้องสู้ให้ได้ เราต้องชนะได้ที่เขตบางขุนเทียน”

ทั้งนี้ “เอ้ สุชัชวีร์” ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำเน่าในคลอง ที่วันนี้น้ำในคลองฝั่งธนเน่า ซึ่งสิ่งที่ต้องเป็นมรดกที่ให้ลูกหลานนั้น มี 2 อย่าง อย่างแรกคือการศึกษา ถ้าการศึกษาที่ดีมีคุณภาพก็ทำให้ลูกหลานมีโอกาสมากกว่าเรา สมบัติข้อที่ 2 คือสิ่งแวดล้อมแม่น้ำลำคลอง ซึ่งกรุงเทพฯ ฝั่งธน ถือเป็นดินแดนสุดท้ายที่เราจะพอรักษาคลองใสคลองสะอาดไว้ได้แต่วันนี้ไม่มีเหลือแล้ว ซึ่งตนนั้นฝันจะให้วันหนึ่งเมื่อตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็อยากจะพาคุณพ่อคุณแม่และลูกนั่งเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาไปตามคลองต่างๆ และไม่ใช่การขายฝันแต่เชื่อว่าเปลี่ยนกรุงเทพฯ #เราทำได้

“วันนี้ไม่ว่าท่านจะมีวิธีการเลือกตั้งแบบไหนก็ตาม จะวิเคราะห์กันแบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่นักการเมือง เพราะต้องเลือกผู้ว่าฯ กทม. มาเป็นนักแก้ปัญหาเมือง และการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือแก้ปัญหาด้วยความรู้ วันนี้ผมเอ้ สุชัชวีร์ มาพร้อมกับความรู้ หลักวิชาการที่แม่นเป๊ะ มาพร้อมกับประสบการณ์ที่ทำมาทั้งชีวิต ทั้งด้านวิศวกรรม การศึกษา สาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงองค์กร มาพร้อมวิสัยทัศน์เปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นเมืองที่ทันสมัยต้นแบบอาเซียน มุ่งมั่นทำได้จริง และผมไม่ได้มาคนเดียว มาพร้อมกับความชัดเจนของ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ 50 เขต 50 คน วันที่ 22 พ.ค. ต้องเข้าคูหา กาเบอร์ 4”