แดงกระเพื่อม พท.สะเทือน
คําสั่งศาลอาญาที่ให้ถอนประกันจตุพร พรหมพันธุ์ และ นิสิตสินธุไพร สองแกนนำเสื้อแดง
คําสั่งศาลอาญาที่ให้ถอนประกันจตุพร พรหมพันธุ์ และ นิสิตสินธุไพร สองแกนนำเสื้อแดง
โดย...ทีมข่าวการเมือง
คําสั่งศาลอาญาที่ให้ถอนประกันจตุพร พรหมพันธุ์ และ นิสิตสินธุไพร สองแกนนำเสื้อแดง จนถูกเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อาจเป็น“จุดเปลี่ยน” ที่ส่งผลกระเทือนต่อพรรคเพื่อไทยในช่วงเลือกตั้ง
แกนนำเพื่อไทยต่างบ่นอุบว่า อุตส่าห์ประคองสถานการณ์ให้นิ่ง ลดดีกรีความรุนแรงของเสื้อแดงเพื่อกลับมาชู “จุดเด่น” เรื่องนโยบายประชานิยมฉบับนายห้างดูไบ
ขนาด “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ยังกดปุ่มสั่งการให้แนวรบเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะในช่วงที่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งเพื่อลดภาพความเข้มข้นของเสื้อแดง หวังดึงคะแนนจาก “คนกลางๆ” ที่ไม่เอาสีไหน ให้มาเลือกพรรคเพื่อไทย
แต่จนแล้วจนรอด ก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เมื่อผู้นำแดงฮาร์ดคอร์ จตุพร ถูกศาลอาญาถอนประกันจนต้องเข้าคุกตามรอยแกนนำ นปช.ก่อนหน้านี้ ซึ่งย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับคนเสื้อแดงจนอาจลุกฮือขึ้นอีกรอบ และเกิดปฏิกิริยาต่อต้านพรรคการเมือง คู่แข่งในสนามเลือกตั้งพื้นที่ต่างๆ
เป็นธรรมดาที่มวลชนแดงจะแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจ แต่ในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสถานการณ์พิเศษ ที่ทุกพรรคต่างระมัดระวังทั้งเรื่องกระแสไม่ให้แรงเกิน จนตกเป็นฝ่าย “เพลี่ยงพล้ำ” และยังเป็นช่วงที่มีกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมืองมาจับพรรคการเมือง ผู้สมัคร สส. ใครออกนอกลู่ก็เสี่ยงโดนใบแดง
ยิ่งเสื้อแดงเป็นขบวนการใหญ่โต แผ่ขยายมวลชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หากออกมาต่อต้าน ทำอะไรนอกกรอบกฎหมายในช่วงหัวเลี้ยวสำคัญนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยในทางอ้อมไม่น้อย
โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเมือง อย่างกรุงเทพฯ และกลุ่มก้อนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใดประมาณ 50% ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ย้อนอีกที คดีนี้สืบเนื่องจากพนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาประกอบการเปลี่ยนแปลง เงื่อนไข การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 9 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย วีระกานต์ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ ก่อแก้วพิกุลทอง ขวัญชัย สาราคำ ยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นิสิต สินธุไพร วิภูแถลง พัฒนภูมิไท จำเลยคดีก่อการร้าย หลังจากที่แกนนำทั้ง 9 ขึ้นเวทีปราศรัยหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ในงานรำลึกครบรอบเหตุการณ์สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ศาลพิเคราะห์เห็นว่า เมื่อพิจารณาคำปราศรัยตามคำฟ้องของอัยการเห็นว่า มีคำพูดของจตุพร และนิสิต บางตอนส่อนัยไปให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมืองผิดเงื่อนไขประกันที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย จึงให้ถอนประกันจำเลยทั้งสอง
“จตุพร” ติดคุก เป็นภาพที่ฝั่งตรงข้ามอยากเห็นมากที่สุด และอาจรวมถึง สส.พรรคเพื่อไทยหลายคนที่สะใจ เพราะเห็นว่าจตุพรกร่างเกินไป พูดท้าตีท้าต่อย สั่งการ สส.ในพรรค เพราะถือว่าคุมมวลชนเสื้อแดง และที่ผ่านมาแกนนำ นปช.ถูกคุมขังไปก่อนในคดีก่อการร้าย ส่วน “จตุพร” แม้จะเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย แต่การได้เป็น สส. จึงได้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่ต้องคุมขังในสมัยประชุมสภา
วันนี้เมื่อบรรยากาศเริ่มคลี่คลาย แกนนำ นปช.ได้รับการปล่อยตัว พร้อมเงื่อนไขที่ศาลสั่งห้ามปลุกระดมยั่วยุให้เกิดความวุ่นวาย แต่ นปช.กลับเลือกยุทธศาสตร์สร้างแรงกดดันต่อเนื่อง ใช้ผนังเสื้อแดงเป็นเกราะกำบังให้ตัวเอง ปลุกระดม พูดคาบลูกคาบดอก เพื่อเป็นแรงกดดันฝั่งตรงข้าม
ทว่า เมื่อมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นับหนึ่งสู่การขายของ ขายนโยบาย ทักษิณให้แดงหลบเพราะกลัวเพื่อไทยคะแนนตกในเขตเมือง
เมื่อ “ผู้นำแดง” ไปอยู่ในคุกจะเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศจะกลับมาตึงเครียด วุ่นวายเหมือนตลอดช่วงที่แกนนำ นปช. “ณัฐวุฒิวีระนพ.เหวง” ถูกคุมขังหรือไม่
แน่นอนนี่อาจเป็นมุมกลับของสถานการณ์ ที่เพื่อไทยก็กระอักกระอ่วนไม่อยากให้มวลชนออกมาชุมนุมในช่วงเลือกตั้ง ลุกฮือไม่พอใจที่ผู้นำของเขาต้องเข้าคุก
มิฉะนั้น อาจเข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่จะกระตุกภาพความวุ่นวายของเสื้อแดง ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนึกถึงภาพเดิมๆ ในช่วงประเทศเกิดวิกฤตกับเหตุการณ์พฤษภาเลือด 2553
สำหรับเพื่อไทยการสูญเสียจตุพรในช่วงนี้นับว่าสำคัญ เพราะเป็นขุนพลหลักที่ใช้เดินสายปราศรัย กับ ณัฐวุฒิ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่ไม่เสียหายมาก เนื่องจากเพื่อไทยและเสื้อแดงยังมีมือปราศรัยตัวตายตัวแทนรองรับ
ในระยะยาวจตุพรเองก็ไม่ได้อยู่ในเรือนจำนานครึ่งปีเหมือนแกนนำรุ่นแรกคงแค่ 2 เดือนจากนี้จนถึงวันที่เขาได้เป็นสส. บัญชีรายชื่อ และสภาเปิดประชุม เขาก็จะได้รับเอกสิทธิ์ไม่ต้องถูกคุมขัง
ทว่า ปมใหญ่ที่ต้องจับตา คือ การชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค.นี้ รำลึก 1 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุมซึ่งแกนนำได้แถลงเดินหน้าพร้อมจัดชุมนุมใหญ่ที่แยกราชประสงค์เลิกเที่ยงคืน
เวทีนี้ไม่เฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่จะบันทึกเทปละเอียดยิบว่า จะมีใครออฟไซด์บนเวทีอีกหรือไม่ แต่ สส.พรรคเพื่อไทยในกรุงเทพฯ ก็ยังหัวใจเต้นแรง กลัวเสื้อแดงจะซ้ำรอย ปราศรัยหมิ่น กระทบยังพรรคเพื่อไทยอีก
ยังไม่นับการชุมนุมคู่ขนานของคนเสื้อแดงที่จะเกิดขึ้นตามจังหวัดต่างๆ แม้แกนนำสั่งให้เบาลงไม่ให้เพื่อไทยถูกจับฟาวล์ แต่มวลชนแดงที่หลากหลายก็ยากที่จะคุมกันอยู่
คดี “ก่อการร้ายหมิ่นสถาบัน” ที่ผูกกับแกนนำ นปช. เมื่อมาลงเพื่อไทย จึงมีทั้งบวกและลบ เป็นเหรียญสองด้าน
ช็อตจตุพรจึงรุนแรง ซึ่งสายพิราบในเพื่อไทยเคยเตือนไว้แล้ว ระวังจะพังกันทั้งบาง
ต้องติดตามจากนี้แกนนำ นปช.และเพื่อไทยจะแก้ปมอย่างไรให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง
ระเบิดลูกแรกแค่นี้ ระเบิดลูกที่สองที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร...!!