ผ่า 73 สว.สรรหาคานอำนาจ หลังรัฐบาลใหม่

โดย ...ทีมข่าวการเมือง
         
ในที่สุดก็ได้ สว.สรรหาจำนวน 73 คน อย่างเป็นทางการแล้วหลังจากปล่อยให้ สว.สายเลือกตั้งต้องนั่งตบยุงมานานกว่า 2 เดือนเพราะ สว.สรรหารชุดเดิมต้องพ้นจากวาระการดำรงตำแหน่งไปตามกำหนด 3 ปีตามรัฐธรรมนูญ
         
ทั้งนี้ตลอดกระบวนการสรรหา สว. ถูกจับตามองจากสังคม เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านที่จะมีการเลือกตั้ง ที่สำคัญ สว.สรรหาชุดใหม่นี้จะอยู่ยาวถึง 6ปี ต่างจาก สว.ชุดแรกที่มีวาระเพียง 3 ปีเท่านั้น
         
ก่อนที่ผลจะออกมา "ชัช ชลวร"ประธานศาลรัฐธรรมนูญในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาถูกจับจ้องอย่างหนัก เพราะปัญหาเก่าในศาลรัฐธรรมนูญจากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ส่งผลกระทบมายังการสรรหา สว.ชุดนี้
         
ขณะที่หลายฝ่ายไม่มั่นใจว่า การสรรหาครั้งนี้จะได้ สว.ที่หลากหลาย เพราะเป็น "ระบบการสรรหา" ที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ 2550 ในยุค คมช. จนคาดการณ์ว่ารายชื่อส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่เป็นขั้วตรงข้ามกับฝั่งทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเอามาตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลเพื่อไทยหากได้กลับมาหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้าย มีการปล่อยชื่ออย่าง "นาม ยิ้มแย้ม"อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) "อุดม เฟื่องฟุ้ง"อดีต คตส. ผู้ทำคดีที่ดินรัชดาฯ "สัก กอแสงเรือง"อดีต คตส. อีกรายที่รับบทสอบสวนคดีการซื้อหุ้นของครอบครัวชินวัตร พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. ว่าจะได้รับเลือกเป็น สว. ยังรวมไปถึงกระแสข่าว ว่ากลุ่ม40 สว. ในสายสรรหาเดิมจะกลับเข้ามาในตำแหน่งด้วยกันยกแผง
         
พลันที่ชื่อเหล่านี้ปรากฏ มีเสียงต่อต้านจากขั้วทักษิณอย่างรุนแรงโดยพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีว่า นี่เป็นการสืบทอดอำนาจให้กับกลุ่มอำมาตยาธิปไตย จนผลการคัดเลือกรอบสุดท้ายกลับไม่ปรากฏชื่อหลายคนตามที่เป็นข่าว   อาจมองได้ว่าแรงต่อต้านที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลให้ตัวเต็งที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งต้องหลุดวงโคจรไป
         
สำหรับโครงสร้างของ สว.ใหม่ชุดนี้ สามารถจำแนกออกมาได้เป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1.กลุ่ม สว.สรรหาชุดเก่า 31 คน โดยในส่วนนี้มีกลุ่ม 40 สว.เดิมถึง 23 คน แน่นอนว่ากลุ่มนี้ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการตามติดกลิ่นตุๆ ในโครงการยักษ์ที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบ นำโดย "คำนูณ สิทธิสมาน" "สมชาย แสวงการ" "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" "ตรึงใจ บูรณะสมภพ" "ตวง อันทะไชย"
         
2.กลุ่มอดีตข้าราชการ 35 คนในสัดส่วนนี้มาจากทหารตำรวจ 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ คมช. และกลุ่มทหารบูรพาพยัคฆ์ เช่น พล.อ.สมเจตน์ บุญถอนม อดีตกลไกสำคัญของ คมช. พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก กรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 2549 เตรียมทหารรุ่น 6 รุ่นเดียวกับแกนนำ คมช.
        
อย่างไรก็ตาม มีจุดที่น่าสนใจ คือ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตรอง ผบ.ตร. สามีของนางศิริกร มณีรินทร์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ สมัยรัฐบาลทักษิณได้รับเลือกหลุดเข้ามาด้วย ส่วนบุคคลในสายข้าราชการพลเรือนที่น่าสนใจ อาทินายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ พี่ชายของสามีนางนาตยา เบ็ญจศิริวรรณ สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์
         
3.กลุ่มนักกฎหมายและภาควิชาชีพอื่นๆ ถือว่าเป็นกลุ่ม สว.สรรหาหน้าใหม่ที่หลุดเข้ามาน้อยที่สุด แต่เมื่อดูชื่อแล้วถือว่าไม่ได้เป็นมือในทางการเมือง เช่น เดชอุดม ไกรฤทธิ์ อดีตนายกสภาทนายความ ซึ่งเคยมีบทบาทสำคัญในการแสดงความเห็นคัดค้านการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทักษิณ
         
สัก กอแสงเรืองแค่เห็นชื่อคนนี้แล้วก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นมือปราบทักษิณในคดีซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น วันชัย สอนศิริ ทนายความรู้ทันทักษิณ และผู้จัดรายการคลายปมทางช่อง 11 ร่วมกับ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
         
สุธรรม พันธุศักดิ์ เจ้าของทิฟฟานี่ บิดา น.ส.อริสา พันธุศักดิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรีของพรรคประชาธิปัตย์ นรีวรรณ จินตกานนท์ พี่สาว พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ

สม จาตุศรีพิทักษ์พี่ชายของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย  ประสงค์ศักดิ์ บุญเดช  พี่ชายประสพสุข บุญเดชอดีตประธานวุฒิสภา
โครงสร้าง สว.ใหม่ ยังขาดกลุ่มเอ็นจีโอชื่อดังที่ได้รับการยอมรับ เช่น โสภณ สุภาพงษ์ วัลลภตังคณานุรักษ์ เตือนใจ ดีเทศน์ ขวัญสรวง อติโพธิ
         
แหล่งข่าวจาก สว.สรรหารายหนึ่ง เปิดเผยว่า สว.สรรหาชุดใหม่ หลายคนทำงานด้านความมั่นคง และงานมวลชนเชิงพัฒนาในพื้นที่เป็นหลัก อาจเป็นเพราะคณะกรรมการสรรหาฯ ต้องการวางบทบาทให้วุฒิสภาชุดนี้ช่วยดูแลสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ซึ่งมีการต่อสู้ห้ำหั่นกระทบกับสถาบันหลักของประเทศ
         
งานแรกที่จะเห็นบทบาทอย่างเป็นการของสว.สรรหาชุดใหม่นี้ คือ การเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาในเร็วๆ นี้ ถึงเวลานั้นคงได้เห็นกันคร่าวๆ แล้วว่า 73 สว.นี้ใครอยู่กลุ่มไหนอย่างไร
         
ถึงที่สุดแล้วการทำงานของ สว.สรรหาชุดนี้ที่มีเวลาถึง 6 ปี กำลังจะกลายเป็นหมากการเมืองตัวหนึ่งที่สำคัญในช่วงที่การเมืองกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐบาลในอนาคต จึงต้องรอดูว่า สว.สรรหาที่เข้ามาเหล่านี้จะทำงานได้สมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงตำแหน่งต่างตอบแทนเท่านั้น