posttoday

รัฐบาลปล่อย'มงคลกิตติ์'เป็นฝ่ายค้านเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง

14 สิงหาคม 2562

การที่พปชร.ปล่อย'มงคลกิตติ์'เป็นฝ่ายค้านย่อมไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาลเป็นการผลักมิตรไปเป็นศัตรูที่เร็วเกินไป

การที่พปชร.ปล่อย'มงคลกิตติ์'เป็นฝ่ายค้านย่อมไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาลเป็นการผลักมิตรไปเป็นศัตรูที่เร็วเกินไป

การแถลงถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลของ "มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์" หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ ย่อมมีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะจะทำให้รัฐบาลมีจำนวนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรลดลงโดยเหลือเพียง 253 จากเดิม 254 ที่นั่ง

ทั้งนี้ ในจำนวน 253 เสียงของรัฐบาล นั้น ยังไม่นับเสียง"ชวน หลีกภัย"ประธานสภา ที่จะวางตัวเป็นกลาง และ 3 ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ"วิรัช รัตนเศรษฐ -ทัศนียา รัตนเศรษฐ-ทัศนาพร เกษเมธีการุณ" ที่อาจจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับคดีไว้พิจารณา ในคดีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด คดีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน จำนวน 56 แห่ง ในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา

หากเป็นไปตามนี้เสียงรัฐบาลจะหายไปอีก 4 เสียง เหลือเพียง 249 เสียง ส่วนฝ่ายค้านเดิมมี 246 เสียง แต่ "ธนาธร จึ่งรุงเรืองกิจ"หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หยุดฏิบัติหน้าที่ จึงเหลือแค่ 245 เสียง และฝ่ายค้านอิสะของ"มงคลกิตติ์"อีก 1 เสียง ซึ่งจะทำรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมากยิ่งขึ้น

ความจริงการที่พรรคพลังประชารัฐยอมมอบตำแหน่งทางเมืองให้ 9 พรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลไว้ต่อไปโดยไม่สนใจง้องอน"มงคลกิตติ์"ให้อยู่กับรัฐบาลต่อไป ซึ่งในทางกลยุทธการเมือง ถือว่าพรรคพลังประชารัฐเดินเกมทางการเมืองผิดพลาดอย่างยิ่ง เพราะการปล่อย"มงคลกิตติ์"ออกมาเป็นฝ่ายค้านนั้น รัฐบาลมีแต่เสียกับเสีย เพราะจะกลายเป็นเม็ดกรวดในรองเท้ารัฐบาล

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าแม้"มงคลกิตติ์"จะมีเสียงเดียว ดูไม่มีพิษสงอะไร เหมือนหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่บทบาทในเชิงการตรวจสอบขุดคุ้ยการทุจริตคอรัปชั่นและฝีปากการอภิปรายในสภาของ"มงคลกิตติ์"ไม่ธรรมดา

ทั้งนี้ก่อนได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส."มงคลกิตติ์"เป็นถึง เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.)ซึ่งภาคีเครือข่ายดังกล่าวนี้ก่อตั้งขึ้นโดย พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เป็นอดีตผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำรมว.กลาโหม (นายชวน หลีกภัย) และร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายภตช.ก็มีคณะกรรมการที่ปรึกษาที่เป็นคนดัง อาทิ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ประธานกรรมการที่ปรึกษา พล.อ.สำเริง พินกลาง
กรรมการที่ปรึกษา พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน กรรมการที่ปรึกษา และ น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า "มงคลกิตติ์"มีแบ็คดีไม่ธรรมดา เพราะขนาด"ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า"มือประสานพรรคพลังประชารัฐยังเคลียร์ไม่ลง และยังบอกว่าต้องปล่อยให้น้องเต้ไปทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

ที่สำคัญนอกจากเป็นจอมขุดคุ้ยแล้ว"มงคลกิตติ์"นั้น มีแฟนคลับมากพอสมควรโดยเฉพาะในทางโซเชียล เขาเป็นนักดราม่าคนหนึ่ง ที่สามารถใช้โซเชียลในการเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ซึ่งแทนที่รัฐบาลจะเอาไปใช้งานเพื่อต่อสู้กับพรรคฝ่ายค้าน เสมือนเอาไว้ตัดแต้มฝ่ายค้าน แต่กลับปล่อยให้มายืนคนละฝากกับรัฐบาล เท่ากับเป็นการผลักมิตรออกไปเป็นศัตรูเร็วเกินไป ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตามจากนี้ต้องติดตามบาทบาทของ"มงคลกิตติ์"ในฐานะฝ่ายค้านอิสระว่า จะโชว์บทบาทได้ดีแค่ไหน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์