'มาร์ค' เหนือเมฆ ยกระดับลุ้นนายกฯ
สถานการณ์ตอนนี้ หากมองให้ลึกประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่อยู่บนสถานการณ์ที่ตัวเองได้เปรียบพอสมควร ซึ่งไม่ใช่เรื่องคะแนนเลือกตั้ง แต่เป็นท่าทีทางการเมืองต่างหาก
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
"ชัดๆ เลยนะครับ ผมจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อแน่นอน เพราะการสืบทอดอำนาจเท่ากับสร้างความขัดแย้ง และขัดกับอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่าประชาชนเป็นใหญ่ 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่ ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว หมดเวลาเกรงใจแล้วครับ"
เป็นคำพูดของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเผยแพร่ผ่านคลิปวิดีโอทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แคนดิเดต นายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกฯ
การขยับตัวของอภิสิทธิ์ครั้งนี้ นับว่ามีนัยทางการเมืองพอสมควร เพราะการทำเช่นนั้นแทบไม่ต่างอะไรกับการประกาศสงครามกับ คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์
ส่งผลให้มีคำถามตามมาว่าอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์กำลังคิดการใหญ่อยู่ใช่หรือไม่?
นับตั้งแต่เข้าสู่ฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าอภิสิทธิ์เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ที่มีคะแนนความนิยมอยู่ในลำดับต้นๆ มาโดยตลอด ตีคู่มากับทั้ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์
ที่สำคัญการเลือกตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ แม้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้ชนะเลือกตั้งเป็นที่หนึ่ง แต่การหายใจรดต้นคอพรรคเพื่อไทยมาเป็นที่สองได้นั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าฐานคะแนนของพรรคมีความเข้มแข็งพอสมควร
มองลึกลงไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่อยู่บนสถานการณ์ที่ตัวเองได้เปรียบพอสมควร ซึ่งไม่ใช่เรื่องคะแนนเลือกตั้ง แต่เป็นท่าทีทางการเมืองต่างหาก
การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นอยู่ในเวลานี้อยู่ภายใต้ความหวาดระแวงและการถูกตั้งคำถามพอสมควรว่าถ้าเลือกตั้งไปแล้ว ประเทศจะสงบหรือไม่ โดยเฉพาะหากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมาจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชารัฐ
ในกรณีของพรรคเพื่อไทยปฏิเสธไม่ได้ว่าหากขึ้นมาเป็นรัฐบาล อาจมีผลให้การเมืองทวีความดุเดือดมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เพิ่งมีวิวาทะกันจนเป็นที่มาของคำว่า "หนักแผ่นดิน"
ดังนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพสั่นคลอนอีกครั้ง เพราะกองทัพและ คสช.เองก็ยังไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยมากนัก
ส่วนสถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ถึงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคส่วนต่างๆ แต่ภายในพรรคนั้นก็มีสนิมเกาะอยู่ไม่น้อย
โครงสร้างของพรรคพลังประชารัฐเป็นการเกาะตัวกันหลวมๆ ของกลุ่มการเมือง ได้แก่ กลุ่มอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มสามมิตรที่เป็นนักเลือกตั้งอาชีพ กลุ่มอดีตแกนนำ กปปส. เป็นต้น
ถามว่ากลุ่มการเมืองเหล่านี้มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันที่พร้อมลงเรือลำเดียวกันไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ คำตอบ คือ "ไม่มีทางแน่นอน"
ความระหองระแหงภายในพรรคเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่การจัดลำดับ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อที่มีความไม่ลงรอยกันระหว่างกลุ่มสามมิตรและกลุ่มอดีต กปปส. จนมาถึงการยกเลิกการปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งๆ ที่พรรคเคยหวังว่าจะเป็นไม้เด็ดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง
ปัญหาอย่างหลังนั้นดูเหมือนว่าจะคาราคาซังมากที่สุด เนื่องจากนักเลือกตั้งของพรรคเริ่มยอมรับแล้วว่ากระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ดีและไม่ได้โดดเด่นอย่างที่เคยคิดกันไว้
ตรงนี้เองที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์และอภิสิทธิ์เริ่มมองเห็นโอกาสของตัวเองในการกลับมาเป็นรัฐบาลมากขึ้น ด้วยหลักคิดที่ว่า "กองทัพไม่ไว้ใจพรรคเพื่อไทยและสังคมเบื่อบิ๊กตู่"
ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่อยู่ตรงกลางก็อาจมีโอกาสรวมเสียงเพื่อตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้เสียงเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งก็ตาม
โจทย์แรกที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำให้ได้ คือ การทำให้พรรคมี สส.มากกว่า 100 คนขึ้นไป เพื่อให้ได้เสียง สส.ที่ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยมากที่สุด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับหนึ่งที่ไม่ได้เสียงเด็ดขาดจะรวมเสียงเพื่อตั้งรัฐบาลก็มีความเป็นไปได้ยาก
เท่ากับว่าโอกาสจะกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ทันที
แม้พรรคประชาธิปัตย์จะมีวิวาทะกับ คสช.อยู่หลายครั้ง แต่ถ้าให้ คสช.เลือกระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย คำตอบที่ได้ทุกคนย่อมเป็นประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะอย่างน้อย ผบ.ทบ.คนนี้เคยทำงานกับอภิสิทธิ์เมื่อครั้งเป็นนายกฯ มาก่อน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้นำ ตั้งรัฐบาล บรรดา สส.พรรคการเมือง อื่นๆ หรือแม้แต่จากพรรคพลังประชารัฐเองพร้อมจะเข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ สว.ของ คสช.ยินดียกมือให้พรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน เพราะเมื่อพรรคพลังประชารัฐพาบิ๊กตู่ไปไม่ถึงดวงดาว ก็ไม่ควรให้พรรคเพื่อไทยไปถึงเส้นชัยได้เช่นกัน
หมากเกมนี้ของคนหน้าหล่อ ล้ำลึก และเหนือเมฆขนานแท้


