posttoday

"บิ๊กตู่" เก็บทุกเม็ด ปูทางรีเทิร์นการเมือง

09 สิงหาคม 2561

การขยับของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยและหวังผลทางการเมืองที่ชัดเจน ​​

การขยับของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยและหวังผลทางการเมืองที่ชัดเจน ​​

*****************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เส้นทางเลือกตั้งเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามกรอบเวลาที่เดินหน้าไปตามโรดแมป

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งสัญญาณว่าที่ประชุม คสช.เตรียมดำเนินการในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการปลดล็อก​ซึ่งจะต้องมีการหารือ เพื่อนำไปสู่แนวทางมาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการ

นับเป็นความคืบหน้าที่สำคัญหลังพรรคการเมืองต่างๆ พยายามเรียกร้องให้ คสช.ยกเลิกคำสั่งเพื่อเปิดให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรม รวมทั้งเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้ง ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งการจัดประชุมใหญ่ ไปจนถึงการทำไพรมารีโหวต

แต่ปรากฏการณ์ที่น่าจับตาในเวลานี้ คือ ท่าทีการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ กับการเดินสายลงพื้นที่อย่างหนักในช่วงเวลาโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง จนถูกมองว่าไม่ต่างกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่หวังเร่งทำคะแนนทิ้งทวน เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

ไล่มาตั้งแต่การปูพรมจัดคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรไปยังหัวเมืองหลัก ต่อด้วยหัวเมืองรอง พร้อมอนุมัติหลักการโครงการต่างๆ ที่พื้นที่เสนอขึ้นมารวมแล้ว 4 ปี กว่าแสนล้านบาท

นับจาก ครม.สัญจรนัดแรกเมื่อ วันที่ ​21-22 ส.ค. 2560 ที่ จ.นครราชสีมา รัฐบาลอนุมัติ 2,600 ล้านบาท ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย. 2560 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี วงเงิน 8.7 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 3 วันที่ 27-28 พ.ย. 2560 ที่ จ.ปัตตานี และสงขลา 2,800 ล้านบาท ​ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-26 ธ.ค. 2560 ที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย 1,900 ล้านบาท

ครั้งที่ 5 ในระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ. 2561 ที่ จ.จันทบุรี และตราด 7.73 หมื่นล้านบาท และเห็นชอบการพัฒนาระบบขนส่งทางรางที่มีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบ ไร้รอยต่อ 2.36 แสนล้านบาท

ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 5-6 มี.ค. 2561 ที่ จ.เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ 573 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 7,400 ล้านบาท จะมีการเสนอเป็นโครงการขนาดใหญ่ต่อไป ครั้งที่ 7 วันที่ 7-8 พ.ค. 2561 ที่ จ.บุรีรัมย์ และสุรินทร์ 3,400 ล้านบาท

ครั้งที่ 8 วันที่ 11-12 มิ.ย. 2561 ที่ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ 1.33 แสนล้านบาทล่าสุดครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค. 2561 ที่ จ.อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ 5.9 หมื่นล้านบาท และยังมีแผนเตรียมประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ชุมพร และระนอง วันที่ 20-21 ส.ค.นี้

"บิ๊กตู่" เก็บทุกเม็ด ปูทางรีเทิร์นการเมือง

นอกจาก ครม.สัญจรแล้ว จะเห็นว่ารัฐบาล คสช.พยายามอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ผ่านโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกับการตั้งไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร ต่างจากก่อนหน้านี้ที่มีการออกมาเคลื่อนไหวให้รัฐบาลช่วยเหลือหลายรอบแต่รัฐบาลพยายามชี้แจงว่าไม่มีงบประมาณ

หากจำได้โครงการแก้จนของเฟส 1 ของรัฐบาลตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2559 ที่เปิดโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจนนำไปสู่การแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ทั้งหมด 8.3 ล้านราย ​ต่อเฟส 2 ด้วย 6 มาตรการ 18 โครงการ งบประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท

ตามด้วยตั้งงบกลางปี 2561 จำนวน 1.5 แสนล้านบาท เพื่อจัดทำ “โครงการไทยนิยมยั่งยืน” ​ก่อนปิดท้ายด้วยการพักหนี้เกษตรกรรอบที่ 2 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ใน 2 โครงการใหญ่ คือ 1.โครงการขยายเวลาชำระหนี้เงินต้นให้แก่เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.จำนวน 3.81 ล้านคน และ 2.โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยลูกค้า ธ.ก.ส.ครอบคลุมเกษตรกร 10 ล้านคน

สอดรับกับการลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาผู้เดือดร้อนตามพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการช่วยเหลือ 13 หมูป่าที่ติดถ้ำ จ.เชียงราย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปยังพื้นที่ด้วยตัวเอง

ล่าสุดยังพาคณะลงพื้นที่ ​จ.เพชรบุรี หลังสถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจานอยู่ในขั้นวิกฤต น้ำล้นสปิลเวย์ และมีแนวโน้มว่าจะไหลบ่าท่วมขังใน 5 อำเภอ พร้อมย้ำว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ร่วมกับทหาร และ คสช. ไม่ได้มาเพื่อหวังผลทางการเมือง

ต่างจากในอดีตซึ่งหากจำได้เมื่อประมาณต้นปี 2560 ในช่วงที่น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุหลังลงพื้นที่ว่า แม้ที่ผ่านมาไม่ได้ลงไปพื้นที่ก็ทำงานช่วยเหลือตลอด เพราะอยู่ที่ไหนก็ทำได้ ไม่ต้องการให้ลงไปแล้วเป็นภาระเจ้าหน้าที่

การขยับของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงนี้จึงถือเป็นการขยับที่มีนัยและหวังผลทางการเมืองที่ชัดเจน ​​

คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวอีกฟากหนึ่งที่มีกลุ่มสามมิตรเป็นกำลังหลักในการจัดเตรียมความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐอันจะเป็นฐานทางการเมืองที่สำคัญต่อไปในอนาคต