posttoday

‘พลังดูด’แค่อุ่นเครื่อง ของจริงรอปลดล็อก

19 กรกฎาคม 2561

สถานการณ์การเมืองขณะนี้คงไม่มีประเด็นไหนน่าสนใจเท่ากับว่าความคึกคักของการดูดอดีต สส. นับตั้งแต่กลุ่ม “สามมิตร” เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์ 

สถานการณ์การเมืองขณะนี้คงไม่มีประเด็นไหนน่าสนใจเท่ากับว่าความคึกคักของการดูดอดีต สส. นับตั้งแต่กลุ่ม “สามมิตร” เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ

แกนนำกลุ่มสามมิตรที่เปิดตัวออกมาให้เห็นบ้างนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นคนหน้าเดิมที่คอการเมืองรู้จักกันอยู่แล้ว หนำซ้ำยังเป็นกลุ่มคนที่เคยทำงานร่วมกับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจเมื่อกว่าทศวรรษก่อนหน้านี้มาแล้วทั้งนั้น เรียกได้ว่า “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” รู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี

การเดินเกมของกลุ่มสามมิตรเวลานี้ พุ่งเป้าไปที่พรรคเพื่อไทยเป็นหลัก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ครองอิทธิพลในภาคอีสานและภาคเหนือ ภายใต้หลักการที่กลุ่มสามมิตรเชื่อว่าถ้าแชร์ส่วนแบ่ง สส.อีสานและภาคเหนือมาจากพรรคเพื่อไทยได้เกิน 50-60% ก็เพียงพอที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่มีจำนวน สส.มากพอในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

ดูๆ ไปแล้วเหมือนกับโมเดลเมื่อครั้งที่ สส.พรรคพลังประชาชนโดนดูดออกมามากกว่า 30 คน เพื่อมาสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ จนพรรคพลังประชาชนกลายเป็นฝ่ายค้านมือสมัครเล่นในเวลานั้น 

ส่วนภาคอื่นๆ ยกเว้นภาคใต้น่าจะพอมีโอกาสเจาะได้บ้าง หากบรรยากาศทางการเมืองในช่วงก่อนลงคะแนนเป็นใจให้กับกลุ่มสามมิตร

ด้วยเหตุนี้ จึงได้ปรากฏข่าวว่ากลุ่มสามมิตรเปิดหน้าทาบทามอดีต สส.พรรคเพื่อไทย แบบเต็มที่ ซึ่งล่าสุดไม่เว้นแม้แต่การเจาะฐานมวลชนเสื้อแดงให้เอาใจออกห่างพรรคเพื่อไทย

“กลุ่มสามมิตรได้พยายามเดินสายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายต่างๆ หลายกลุ่ม โดยเฉพาะกับกลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในภาคอีสาน หากได้หลอมรวมความคิดเรื่องการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนาได้ ก็จะเป็นแนวทางการปรองดองเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ” การเปิดเผยจาก “ภิรมย์ พลวิเศษ” เลขากลุ่มสามมิตร

เพียงแค่ขยับตัวทำลายฐานเสื้อแดงของกลุ่มสามมิตร ดูเหมือนว่าจะเริ่มเห็นผลระดับหนึ่ง หลังจากบรรดาแกนนำเสื้อแดงในภาคอีสานมีท่าทีตอบรับกลุ่มสามมิตร พร้อมกับดิสเครดิตแกนนำเสื้อแดงส่วนกลาง

“การเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมที่จะสนับสนุนใครก็ได้ที่พูดจริง ทำจริง ใกล้ชิดกับประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้ามาอย่างถูกต้องจากการเลือกตั้ง

สิ่งที่พวกผมเสียใจที่สุดก็คือการสูญเสียชีวิตของพี่น้องคนเสื้อแดงที่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับปากว่าจะเร่งดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว แต่ผ่านไปกว่า 3 ปี ก็ยังไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้เลย” เทพพนม นามลี แกนนำเสื้อแดงสุรินทร์ ระบุ

เรียกได้ว่ากลุ่มสามมิตรกำลังบุกใส่พรรคเพื่อไทยทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านกันเลยทีเดียว

แต่กระนั้น ถ้าจะมองกันจริงๆ แล้ว ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการดูดอดีต สส.และกลุ่มการเมืองตอนนี้ ยังคงเป็นเพียงการอุ่นเครื่องเบื้องต้นเท่านั้น 

กล่าวคือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 กำหนดว่าบุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง 

ประกอบกับการจะลงรับสมัครเลือกตั้ง สส.ได้นั้นยังต้องผ่านกระบวนการทำไพรมารีโหวตของพรรคการเมืองอีก มิเช่นนั้นจะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ได้

เท่ากับว่าความชัดเจนและการจะลงหลักปักฐานของพวกนักเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ต่อเมื่อมีวันเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อน จากนั้นค่อยมาหาทางลงพรรคการเมืองเพื่อให้ครอบคลุมเวลา 90 วันตามรัฐธรรมนูญ และการทำไพรมารีโหวตตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 

เมื่อความชัดเจนยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้น หากจะบอกว่าการพยายามดูดอดีต สส.และกลุ่มการเมืองขณะนี้ เป็นการกำหนดราคาทางการเมืองคงไม่แปลกนัก

ระบบการเลือกตั้งที่จะนำมาใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้นจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างที่หลายฝ่ายทราบกันดีที่มีชื่อ “ระบบจัดสรรปันส่วนผสม”

วิธีการเลือกตั้งดังกล่าวส่งผลให้คะแนนของผู้แพ้ในอันดับสองหรือสามมีความหมายขึ้นมาทันที เพราะจะถูกนำไปคำนวณเพื่อหาจำนวน สส.บัญชีรายชื่อ

นักเลือกตั้งเกรดเอ เกรดบี หรือแม้แต่เกรดซี จึงเป็นคนที่มีราคาทางการเมืองขึ้นมาทันที จะมีราคามากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปตามราคาค่างวดและผลงานที่ผ่านมา

กลุ่มสามมิตรก็รู้ถึงตรรกะนี้ ถึงได้พยายามทาบทามล่วงหน้าอดีต สส.ที่พอจะมีราคาอยู่บ้างเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ถูกโก่งราคาจนเกินไป โดยกลุ่มสามมิตรมีแรงดึงดูดน่าสนใจตรงที่มีท่อต่อไป คสช. ทำให้นักเลือกตั้งที่เข้ามาอยู่กับกลุ่มสามมิตรน่าจะพอวางใจได้ว่าจะไม่ถูกปรับทัศนคติเหมือนกับเมื่อครั้งอยู่กับพรรคเพื่อไทย

แต่กระนั้น การเมืองไทยมีพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปัจจัยและเงื่อนไขหลายประการ ตอนนี้นักเลือกตั้งอาจมีใจให้กับ คสช.ในฐานะเป็นผู้ทรงอิทธิพล แต่เมื่อวันใดที่ฟ้าเปิดแล้ว พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ มีความเป็นไปได้ที่สายน้ำย่อมไหลย้อนกลับได้เหมือนกัน

อย่าได้แปลกใจว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงนิ่งกับพลังดูดในเวลานี้ เพราะเข้าใจถึงสัจธรรมข้อนี้เป็นอย่างดี