posttoday

ชวน หวด คสช. กู้ความเชื่อมั่นฟื้นคะแนนคนใต้

14 ธันวาคม 2560

สัญญาณชัดเจนเมื่อ นายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงด้วยตัวเองทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงสภาพปัญหารายได้ครัวเรือนประชาชนภาคใต้ลดลง

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

สัญญาณชัดเจนเมื่อ​นายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงด้วยตัวเองทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงถึงสภาพปัญหารายได้ครัวเรือนประชาชนภาคใต้ลดลง

สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล คสช. ยืนยันด้วยผลสำรวจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2558 ซึ่งโดยรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25,194 บาท เป็น 26,915 บาท แต่ในรายละเอียดพบว่าพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ มีรายได้ลดลงจากปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ

โดยเฉพาะภาคใต้พบว่ามี 3 จังหวัดที่รายได้ลดลง คือ จ.ระนอง รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนลดลงจาก 32,292 บาท เหลือ 22,035 บาท ลดลง 10,258 บาท จ.ตรัง ลดลงจาก 33,270 บาท เหลือ 23,309 บาท ลดลง 9,961 บาท ส่วน จ.ยะลา ลดลงจาก 22,483 บาท เหลือ 15,584 บาท ลดลงไป 6,999 บาท

สวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศว่าจะข้ามพ้นประเทศผู้มีรายได้ปานกลาง

“ช่วง 3 ปีมานี้รายได้ประชาชนลดลงอย่างน่าตกใจ เห็นข่าวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะไม่มีคนจนแล้ว แต่จริงๆ บริหารมาเกือบ 4 ปี รายได้ประชาชนลดลง ตรงนี้คิดว่าผู้ใหญ่คงไม่เห็น เพราะคงไม่มีเวลามานั่งดูรายละเอียด แต่พวกเรา สส.จะนั่งดูรายละเอียดของทุกจังหวัด ผมดูภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด”

​จึงอยากให้นายกฯ ดูให้ถี่ถ้วนว่าต้องมีนโยบายพิเศษสำหรับจังหวัดที่มีรายได้ลดลงมากเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น การเร่งปรับรายได้เสริมด้านการท่องเที่ยว เร่งทำให้อาชีพเสริมอื่นที่เขาทำอยู่ เดี๋ยวจะหาว่าเห็นปัญหาแล้วทำไมไม่บอก แต่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เสนอไปรัฐบาลจะตอบสนองหรือไม่ แต่เป็นหน้าที่ของเราเพราะเห็นอยู่ตำตาว่าชาวบ้านประสบปัญหาก็นิ่งเฉยไม่ได้ ถึงแม้ไม่มีสภาแต่เราก็เป็นผู้แทนของเขา

ไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีต สส.ในพรรคประชาธิปัตย์ จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของรัฐบาล คสช. ดังจะเห็นว่าก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคหลายคนได้ออกมาสะท้อนปัญหาจุดอ่อนของการบริหารงานในหลายส่วนอยู่เป็นระยะ ยิ่งในช่วงหลังสมาชิกพรรคเรียงหน้าออกมาถี่และหนักขึ้น

​โดยเฉพาะ​ปัญหาเรื่องพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำที่รัฐบาล คสช.​ยังไม่สามารถแก้ไขได้ พุ่งเป้าไปที่เรื่องยางเป็นพิเศษเพราะถือเป็นพืชเศรษฐกิจประจำภูมิภาค และเป็นอาชีพสำคัญของคนในพื้นที่

ทว่า ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะมีมาตรการแก้ปัญหาในหลายส่วนแต่ก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาในภาพรวม ทำให้ราคายางขยับขึ้นมาอย่างที่ชาวสวนยางต้องการได้ 

ยังไม่รวมกับปมสำคัญเรื่องรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ ที่ประชาธิปัตย์ออกมาประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเพราะเห็นว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดี และมีเนื้อหาหลายประเด็นที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นชนวนสร้างปัญหาในอนาคต

การออกโรงของบุคคลระดับ “ชวน” จึงมีนัยสำคัญทางการเมือง หลังเก็บเนื้อเก็บตัว ปล่อยให้ลูกพรรคออกมาทำหน้าที่หัวหมู่ทะลวงฟันก่อนหน้านี้

​ด้านหนึ่งชัดเจนว่า “ประชาธิปัตย์” ต้องการลบภาพความสัมพันธ์ในอดีตที่ถูกมองว่าอิงแอบแนบชิดทหาร ตั้งแต่เมื่อครั้งไปจัดตั้งรัฐบาลในทหาร จนกลายเป็นจุดอ่อนให้ถูกโจมตีเรื่อยมา

การเปิดฉากไม่เห็นดีเห็นงามไปกับรัฐบาลทหารทุกเรื่องย่อมลบภาพลักษณ์ที่มีทหารคอยสนับสนุนออกไปได้ไม่มากก็น้อย ​ยิ่งในวันที่คะแนนเสียงรัฐบาลทหารกำลังลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ

อีกด้านยังเป็นการสะท้อนสภาพสัมพันธ์ระหว่าง ประชาธิปัตย์ และ กปปส. ที่ดูจะเดินกันไปคนละทิศละทาง จนยากจะสมานกลับมาเป็นเนื้อเดียวกันได้ดังเดิม

ที่ผ่านมาถึงจะเห็นแกนนำ กปปส.​ตบเท้าเดินกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ดังเดิม แต่ความคิดความเห็นที่ยังไม่อาจปรับจูนกันได้ชัดเจน

สะท้อนผ่านเรื่องรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่ กปปส.ประกาศชัดว่าสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้แบบเต็มตัว ยังไม่รวมกับจุดยืนที่ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยเพื่อสานต่อภารกิจปฏิรูปและเรื่องอื่นๆ ที่เริ่มต้นไว้ให้ลุล่วงเห็นผลไม่ต้องสูญเปล่า

ที่สำคัญแม้จะประกาศตัววางมือไม่กลับคืนสนามการเมือง แต่ก็ยังแทงกั๊กพร้อมตั้งพรรคการเมืองในอนาคต จนห่วงกันว่าอาจจะกระทบกับฐานเก่าของประชาธิปัตย์จนต้องมาแย่งคะแนนกันเอง

​การขยับของนายหัวชวนช่วงนี้จึงมองว่าเป็นการเร่งกอบกู้ความเชื่อมั่นและเรียกคะแนนกลับคืนมาดังเดิม หลังสั่นคลอนไปไม่น้อยช่วง กปปส.ออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ไม่เพียงแค่การเปิดหน้าชน คสช.เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาจะเห็นนายหัวชวนลงพื้นที่เยี่ยมเยียนช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านเห็นว่าแม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ ถูกคำสั่ง คสช.บังคับไม่ให้เคลื่อนไหว แต่ประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ละทิ้งพื้นที่

ล่าสุด ชวนยังออกมากำชับ ลูกพรรคไม่ให้ออกมาเรียกร้องให้ปลดล็อกให้พรรคการเมือง เพราะกลัวกระแสตีกลับเบื่อหน่ายการเมือง แต่โยนให้เป็นเรื่องของ คสช.ที่จะต้องรับผิดชอบหากทำอะไรล่าช้าจนสร้างปัญหาด้วยตัวเอง 

ทิศทางการเมืองระหว่างประชาธิปัตย์ กปปส.และ คสช.​นับจากนี้จึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะเดินไปอย่างไรต่อไป