posttoday

ค้นเหตุผล... ทำไม? 'มงไม่ลง' นางงามไทยสักที?

09 ธันวาคม 2560

ในที่สุด “วันมงลง” ก็มาถึง เป็นวันที่แฟนนางงามไทยรอคอย เวทีอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2017

 ในที่สุด “วันมงลง” ก็มาถึง เป็นวันที่แฟนนางงามไทยรอคอย เวทีอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2017 (Miss Universe 2017) การประกวดปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 66 มีสาวงามจาก 92 ประเทศ เข้าร่วมประกวดที่เดอะ เพลนเน็ต ฮอลลีวู้ด รีสอร์ทแอนด์กาสิโน ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

 หญิงสาวคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไปครอง เดมี่ ลีห์ เนล ปีเตอร์ส สาวแอฟริกาใต้ วัย 22 ปี หุ่นกะทัดรัดกำลังงามๆ เอกฉันท์ไม่ค้านสายตา "มงไม่งง"

 ส่วนตัวแทนประเทศไทย มารีญา พูลเลิศลาภ เข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย โดยในโลกออนไลน์ก็มีการพูดถึงกันในหลายๆ ประเด็น "งงไม่มง" ที่ไม่สามารถคว้ามงกุฎมาครองได้

 โดยเฉพาะเรื่องของคำถามจากกองประกวด และเรื่องชุดราตรีสีน้ำเงินแบรนด์ อาซาว่า ซึ่งอะไรที่เป็นบวก ก็จะไม่ค่อยมีคำวิพากษ์วิจารณ์ตามมากันอยู่แล้ว แต่ถ้าประเด็นลบ เสียงวิจารณ์กระหึ่มแน่เสียยิ่งกว่าแน่

 ทำไม “มารีญา” จึงไม่ได้ครองมงกุฎมิกิโมโต้?!!! มารีญา มีศักยภาพสูงมากโดยเฉพาะเรื่องทัศนคติ นางงามคนนี้ครบเครื่องที่สุดของไทยแล้ว ในช่วงเก็บตัวที่ผ่านมา มารีญา ทำให้คนไทยลุ้นได้ในทุกๆ รอบ เริ่มที่รอบ Preliminary Competition & National Costume มารีญา ทำได้ดีมากๆ ขึ้นแท่นอันดับ 1 เกือบทุกโพลมีชื่อของเธอติดท็อป 10 และ ท็อป 3 เป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ เตรียมซิวมงกุฎปี 2017   

 เรียกว่า สร้างความสุข ความลุ้น ให้เหล่าแฟนๆ นางงามได้เชียร์นางงามตัวเก็งของเรากันแบบลุ้นตัวโก่ง และเป็นช่วงเดือนผ่านมา ที่บรรดาเวทีการประกวด รวม 4 เวทีระดับโลก มิสยูนิเวิร์ส มิสเวิลด์ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล มิสเอิร์ธ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ทยอยเปิดเวทีชิงมงกุฎกันคึกคัก

แต่นางงามไทยคว้ามงกุฎไม่ได้เลยสักเวที??? จึงเกิดคำถามทำไม “มงไม่ลง” นางงามไทยสักที?!!! ทั้งที่สาวงามของไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก? เราจะเทรนด์นางงามไทยอย่างไร? ให้คว้ามงกุฎ กรรมการเวทีระดับโลกต้องการคนสวยในแบบไหน? ทุกๆ คำตอบล้วนน่าค้นหาเสียยิ่งนัก

ค้นเหตุผล... ทำไม? 'มงไม่ลง' นางงามไทยสักที?

สวยแบบไหน? พร้อมส่งออกสู่สากล

 ปีนี้จัดการประกวดนำร่องก่อนใคร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2017 คงยึดคอนเซ็ปต์เดิมเหนียวแน่น คือ Stop the War เพื่อรณรงค์การยุติสงครามไม่ให้มีอีกต่อไปในอนาคต และนับเป็นเวทีประชันขาอ่อนสัญชาติไทยเวทีแรก กับการประกาศความมุ่งมั่นสู่แกรนด์สแลมใหม่ของโลกให้ได้

 เป้าหมายคือการสร้างเวทีให้มีมาตรฐานเทียบเท่ามิสยูนิเวิร์ส  มิสเวิลด์ และมิสเอิร์ธ

 เวทีนี้นำโดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นประธานและผู้ก่อตั้งการประกวดเวทีใหม่ แม้อายุเวทีเพียง 5 ปี แต่คนสร้างเวทีนี้ มีพยายามสูงเพื่อผลักดันพัฒนาการประกวดไปในระดับมาตรฐานนานาชาติ

 ณวัฒน์ ที่คนวงในคลั่งไคล้ชมประกวดนางงามเวทีนี้ เรียกขานเขากันว่า “บอส” คือเสาหลักผู้คัดเลือกผู้สวมมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์

 การจัดการประกวดสาวงามระดับประเทศครั้งแรก มีขึ้นเมื่อปี 2013 สาวงามผู้ได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวดเวทีระดับนานาชาติ คือ "มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล" โดยมีศัพท์วงในอีกเช่นกันว่า "นางงามพร้อมใช้

 พวกเธอพร้อมรับโอกาสได้เป็นนักแสดง หรือนักร้องที่เวทีนี้เน้นลูกทุ่งจ๋าๆ สร้างตลาดชัดเจน นางงามคงได้รับการปูทางก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในลำดับต่อไป

 “เสียงไพเราะเป็นคุณสมบัติแรกๆ ด้วยครับ ในการคัดเลือกนางงาม” ณวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงเปิดเวทีประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปีนี้ ซึ่งเป็นบริบทที่แตกต่างเรียกได้ว่า "เฉพาะเวที" นี้เลยก็ว่าได้

ค้นเหตุผล... ทำไม? 'มงไม่ลง' นางงามไทยสักที?

 สุภาพร มะลิซ้อน ตัวแทนสาวงามแกรนด์ไทยส่งออกไปประกวดเวที มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2016  ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา จัดเป็นนางงามของบอสณวัฒน์ที่เข้ารอบลึกที่สุด สามารถผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายได้สำเร็จ คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 ไปครอง

 ผู้ชนะการประกวดในปีนั้นคือ อาริสกา ปุตรี เปอร์ตีวี จากอินโดนีเซีย ที่เล่าขานกันว่า “อย่าให้เธอจับไมค์” คำตอบภาษาอังกฤษพ่นเป็นไฟ ช่วง 4-5 ปีมานี้ นางงามบุหงามาแรงบนเวทีอินเตอร์ฯ

 ส่วนปีนี้ "แพม" ปาเมล่า ปาสิเนตตี้  มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 ได้รับคัดเลือกไปประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2017 ที่ประเทศเวียดนาม ทำได้ดีที่สุดกับการผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย

 “แพมเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี ปีนี้ลูกครึ่งมาแรง ได้เปรียบเรื่องภาษาที่เป็นเรื่องสำคัญกับเวทีสากล ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ เราเคยส่งนางงามที่หน้าตาสวยมาก อกเอวมีครบ มิสแกรนด์อุบลราชธานีเคยส่งออกไปประกวดเวทีระดับชาติ ภาษาไม่ได้เลย ทีมก็ต้องปวดหัวกันกลับมา

 ในปีของ "ฝ้าย" สุภาพร ต้องบอกว่าเป็นคนสวยมีครบรูปสมบัติ คุณสมบัติ วงการนางงามไม่มีใครไม่รู้จักเธอ ฝ้ายเป็นนางงามเดินสายมาแล้วทั่วประเทศ ตั้งแต่อายุ 16 ปี ทำให้ได้ทั้งจริตนางงาม แล้วอายุ 18 ปี ก็ได้สังกัดโมเดลลิ่งนางแบบระดับอินเตอร์ฯ ทำงานที่เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง ช่วง 18 ปี ก็ได้ความทันสมัยสไตล์นางแบบมาอีก สำหรับผมนี่คือการตอบโจทย์นางงาม ที่มีสิทธิสวมมงกุฎที่สุด”  

 สวยครบเครื่องแต่ก็ไม่คว้ามงกุฎ ณวัฒน์ ไขข้อข้องใจนี้ว่า นางงามไทยเรามี “กรอบ” ที่ก้าวไม่พ้นที่บอสเวทีนี้ใช้คำว่า “...คงเป็นโปรดักต์ไทย” เมื่อยืนเทียบกับนางงามชาติอื่นๆ ซึ่งอาจจะด้วยพื้นฐานความเป็นอาชีพนางงามไม่มีจริงในเมืองไทย การประกวดจำกัดในกลุ่มสาวงามไม่กว้างนัก ตัวเลือกเราจึงมีไม่มากไปด้วย

 “การประกวดผลประโยชน์ไม่มากเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ จะต้องมาเวทีระดับประเทศที่มีมงกุฎเกียรติยศ บ้าน รถยนต์ เงินรางวัล 7 หลัก และอื่นๆ สมทบให้อีก ซึ่งก็จะมีผู้ได้รับเพียง 2-3% เท่านั้นครับต่อการประกวดแต่ละปี มาประกวด 70 คนได้รางวัล 5 คน คนตกรอบแทบไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปเลยนะครับ

 จึงต้องพูดว่านางงามคือการปูทางไปสู่อาชีพอื่น หรือประกวดเพราะเป็นความฝันอย่างหนึ่งในชีวิต หรืออาจเป็นหาประสบการณ์ใหม่ เป็นงานอดิเรกแบบกิจกรรม หรือกีฬาสมัครเล่น ขึ้นเวทีเพื่อค้นหาหรือเติมเต็มอะไรบางอย่างให้ชีวิต

 การทำเป็นอาชีพ ทำให้นางงามเชี่ยวชาญทั้งบนเวที การไปประกวดบ่อยๆ เจอคำถามบนเวทีมากๆ การตอบก็จะประเมินผลเร็ว หรือที่เรียกกันว่า ปฏิภาณ นางงามต่อให้สวยมากอย่างไร ภาพดีสวยเป๊ะทุกองศา ก็แพ้ทางสู้คนช่างพูดไม่ได้หรอกครับ

ค้นเหตุผล... ทำไม? 'มงไม่ลง' นางงามไทยสักที?

 ผมยกตัวอย่างมิสแกรนด์ศรีสะเกษปีนี้ "แป้งหอม" กมลรัตน์ ทานนท์ รองอันดับ 4 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประกวด Miss Tourism International 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย หน้าตาสวยมากสวยเด่นเอ็กโซติกผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้ารูปไข่สวยหวานแบบสาวไทยแท้ มีออร่า แต่ต้องเทรนเรื่องการพูดอีกเยอะครับ”

 ณวัฒน์ ย้ำการประกวดอาวุธต้องมาเต็มมือ นางงามหน้าใหม่ไม่เคยขึ้นเวทีประกวดมาก่อน ก็จะสู้คนเจนเวทีไม่ได้ ทั้งเรื่องการแต่งหน้า ทำผม ที่บางครั้งก็ไม่ได้มีช่างแต่งหน้าให้ทุกครั้ง นางงามต้องดูแลความสวยด้วยตัวเองอีกด้วย

 ถามย้ำอีกว่ามีสิทธิมงลงสาวไทยหรือไม่? ณวัฒน์ บอกว่าแม้เป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องเป็นไปได้สักวัน

 "ประกวดไปทุกๆ ปีก็ต้องมีพัฒนาการทั้งความงาม ความสามารถเราต้องสร้างภาพความสำเร็จนั้นให้ได้ แล้วก็อย่าท้อใจ ที่เห็นนางงามแต่ละชาติสวยสยบครบเครื่อง เพราะไม่ว่ามงกุฎเวทีไหน เวทีใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่มีใครยอมใครอยู่แล้ว"

เส้นทางสวมมงกุฎ... ไปทางไหนดี

 ชาติมหาอำนาจด้านนางงามอย่าง "เวเนซุเอลา" มักจะคว้าตำแหน่งชนะเลิศเกือบทุกเวที โดยเฉพาะมิสยูนิเวิร์ส เพราะต้องยอมรับว่าประเทศนี้มีการเปิดโรงเรียนสอนนางงามตั้งแต่วัยเยาว์ ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่หลายๆ เวทีได้เดินเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย

 การเปิดโรงเรียนโดยทำธุรกิจด้านการเทรนผู้หญิงรุ่นใหม่เพื่อก้าวสู่เวทีเป็นมิสยูนิเวิร์ส ล่าสุด นาตาลี เกลโบวา มิสยูนิเวิร์ส ปี 2005 ปัจจุบัน นาตาลี กำลังจะเปิดคลาสสอนให้สาวๆ มีความมั่นใจมากขึ้น จัดคลาสบอกกลยุทธ์ถึงการจะคว้ามุงกฎมิสยูนิเวิร์ส รวมทั้งการเวทีประกวดอื่นๆ ระดับสากลมาครอบครองได้อย่างไร?

 “ฉันมั่นใจว่า ปีหน้าหากมีคนมาเรียนและฉันสอน มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 ได้อย่างแน่นอนค่ะ ฉันการันตี เพราะการเรียนการสอนเรื่องนี้ ใครสอนจะดีไปกว่านางงามอย่างฉันที่อยู่ในเมืองไทยและรู้เรื่องเมืองไทยดี”

 แฟนนางงามยอมรับในความงามระดับโลกและในความสามารถของนางงามจักรวาลคนนี้ นาตาลี ต้องขึ้นเวทีการประกวดซ้ำมาแล้วถึง 2 ครั้ง กว่าจะได้เป็นมิสแคนาดา เส้นทางการเป็นตัวแทนสาวงามมีทั้งผิดหวังและสมหวังในที่สุด และในวันนี้เธอพร้อมถ่ายทอดทุกประสบการณ์ การสนับสนุนสายสะพายไทยแลนด์ก้าวสู่จักรวาล

 การประกวดนางงามนับเป็นความบันเทิง เป็นนาทีที่มีความสุขให้แก่ประเทศไทยของเรา มารีญา เดินเข้ารอบ 16 สาวงาม โดยเป็นคนแรกที่ได้เดินประชันโฉมในรอบชุดว่ายน้ำ Swimsuit Competition สวยโดดเด่นมากในชุดวันพีซเพียงคนเดียวจาก 16 สาวงามเข้ารอบลึก

 และในที่สุดก็มีชื่อ "มารีญา" เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย และเดินเข้า 5 คนสุดท้าย สง่างามที่สุด แต่ตัวเต็ง ทำไมตุ๊บ!!!? ทำไมสาวงามไทยไม่เข้า 3 คนสุดท้าย กลายเป็นคำถาม???

 สำหรับโปรไฟล์ตัวแทนสาวไทย มารีญา คือนางงามป้ายแดง แน่นอนถ้าเวทีเดินแบบแฟชั่น ไม่มีใครเทียบสเต็ปสวยสับระดับโมเดลแถวหน้าไปได้ แต่ปีนี้ก็ชัดเจนขึ้นว่านางงามต้องตอบคำถามเรียกคะแนน การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไม่ใช่การประกวดนางงามสวยพิมพ์นิยม มีอก เอว สะโพก อีกต่อไปแล้ว

 เรื่องตอบคำถามกลายเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคำถามเมื่อปี 2016 ได้สร้างความทรงจำไว้ให้แฟนๆ นางงามไทยไม่มีวันลืมเลือน กับคำถามที่ว่า... “ระบุชื่อของผู้นำโลกในปัจจุบันหรืออดีตที่คุณชื่นชอบพร้อมให้เหตุผล?”

 หลายคนก็ได้ฟังคำตอบของ "น้ำตาล" ชลิตา ส่วนเสน่ห์ สาวงามตัวแทนประเทศไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งก็เป็นคำตอบซึ้งๆ ของนางงามไทยและได้ใจแฟนนางงามไปอีก

ค้นเหตุผล... ทำไม? 'มงไม่ลง' นางงามไทยสักที?

 ล่าสุดคำถามปีนี้ที่ว่า Social Movement ซึ่งแปลว่า ความเคลื่อนไหวทางสังคม กำลังกลายเป็นความทรงจำใหม่ ของแฟนๆ นางงามไทย หลังจาก สตีฟ ฮาร์วีย์  ส่งคำถามให้มารีญาตอบ

 “คุณคิดว่าอะไรคือความเคลื่อนไหวทางสังคม สำคัญที่สุดในยุคของเรา?”

 มารีญาตอบว่า “การเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการที่เรามีสังคมสูงวัย แต่ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดก็คือเยาวชน เยาวชนคืออนาคต คือสิ่งที่เราควรลงทุน เพราะว่าพวกเขาคือคนที่ต้องดูแลโลกที่เราอยู่”

 ในขณะที่ เดมี เล นีล-ปีเตอร์ส มิสแอฟริกาใต้ ผู้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สปีนี้ ตอบคำถามในรอบ 5 คนสุดท้าย กับคำถามว่า "ผู้หญิงคิดเป็น 49% ของแรงงานในโลก คุณคิดว่าอะไรคือประเด็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ผู้หญิงเผชิญ" เดมีตอบอย่างมั่นใจชัดเจนตรงประเด็น  “ผู้หญิงได้รับค่าแรงแค่ 75% ของผู้ชาย ทั้งที่ทำงานเหมือนกัน ชั่วโมงทำงานเท่ากัน ฉันคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เราควรต้องมีความเท่าเทียมในการทำงานและรายได้ทั่วทั้งโลก”

 ปีนี้มีการรณรงค์เรื่อง "สิทธิสตรี" การเปิดคำถามรอบตัดสิน วัดกึ๋นมิสยูนิเวิร์ส การประกวดมิสยูนิเวิร์สประจำปี 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ผู้เข้าประกวดตอบคำถาม 2 รอบเหมือนทุกๆ ปี คือรอบ 5 คนสุดท้าย และรอบ 3 คนสุดท้าย โดยคำถามที่เป็นที่จับตามอง คือคำถาม

รอบ 5 คนสุดท้าย เนื่องจากจะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาสังคมและการเมืองโลก ในขณะที่คำถามรอบ 3 คนจะเป็นการเปิดโอกาสให้นางงามได้โชว์วิสัยทัศน์ต่อตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สมากกว่าประเด็นทั่วๆ ไป

 ความงามโชนแสงทันทีที่ เดมี ตอบคำถามจบ ปีนี้รณรงค์เรื่องสิทธิสตรี ก็เรียกว่า “คำตอบเรียกมง” บนเวทีการประกวดนางงามจักรวาล ซึ่งความเห็นของนางงามรุ่นพี่ ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าหน้าจอเป็นผู้บรรยายให้กับทีวีช่องหนึ่ง “ไข่มุก” ชุติมา ดุรงค์เดช เธอคือผู้ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2009 ให้ความเห็นว่า สาวไทยได้คำถามยาก บวกกับความกดดันบนเวทีที่ต้องตอบภายใน 30 วินาที อย่างไรก็ตามต้องบอกว่านางงามรุ่นน้องทำดีมาก

 “การมอนิเตอร์บรรยายหน้าจอทีวี มุกแปลคำนี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวทางสังคม แปลได้ทันทีก็เพราะเราอยู่ด้านล่างเวที (หัวเราะ) ไม่ได้อยู่บนเวทีประกวดไม่มีความกดดันแบบน้อง คำที่เราแปลได้ก็เพราะมาจากประสบการณ์ วุฒิภาวะ มุกซาบซึ้งคำนี้ก็เพราะในปีที่เราได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นปีที่มีการโพสต์ลงโซเชียลกันแล้วค่ะ ในบอร์ดพันทิป เกี่ยวกับกิจกรรมกองประกวด โดยพี่ๆ แฟนนางงามที่รวมตัวกันกลุ่มใหญ่เลยค่ะ โพสต์เชียร์เรา พลังมวลชนยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้จริงค่ะ

 ถ้าเป็นเรื่องโททัลลุคความเป็นนางงาม มุกไม่ใช่คนสวยโดดเด่น แต่พอมีคนรวมตัวกันหนุนเรา เราก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า มุกได้รางวัล Miss Photogenic (ขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน ) และรางวัลขวัญใจมหาชน People's Choice Award จากการโหวตโดยแฟนคนไทย ผ่านเว็บไซต์ Missosology.org ทำให้พอได้ยินคำว่า Social Movement มุกเก็ตศัพท์คำนี้ทันทีค่ะ

 แล้วมาตระหนักยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ก็คือปีของน้องน้ำตาล การรวมพลังนางงามไทยยิ่งใหญ่มาก ปีนี้พลังนี้ก็มาซ้ำอีก ซึ่งอีกกี่สิบปีที่จะหานางงามสมบูรณ์แบบได้ในแบบมารีญา มิสไทยแลนด์ประสบความสำเร็จได้ความรักมากมายจากแฟนนางงาม การโหวตแบบเรียลไทม์ ทีมไทยแลนด์แข็งแกร่งส่งพลังให้นางงามได้ไปสุดทางมาก ทำให้เรามองว่าการรวมตัวรูปแบบนี้ ถ้าเกิดจากความรักที่แท้จริง รักที่ถูกต้อง ก็จะกลายเป็นพลังยิ่งใหญ่เปลี่ยนแปลง และแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคมไทยเราได้อีกด้วยนะคะ”   

 ชุติมา แสดงความเห็นว่าความฉลาด ฉับไว ในการตอบคำถามบนเวที แสดงได้ถึงความสวยจากภายใน ซึ่งยากกว่ามาก กับการกรูมมิ่งความสวยภายนอก

 “การตอบคำถามมีผลอย่างรุนแรง มีผลมากกว่าชุดราตรีซึ่งกลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กัน และมีผลมากกว่าความสวยความงาม คำตอบสวยงามต้องมาจากทัศนคติด้านบวก ที่จะต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ ตอนนี้มุกเรียนปริญญาเอก สาขาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ต้องอ่านตำราเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพมนุษย์หลายๆ เล่ม น่าเซอร์ไพรส์มาก ความเก่งความฉลาดของคน มีจุดเริ่มต้นจากการคิดบวก

แต่ก่อนพอได้ยินคำคิดบวก ก็จะคิดถึง นาตาลี ที่โฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง พูดว่าผู้หญิงสวยเพราะคิดบวก เราก็โห...นางง้ามนางงาม (หัวเราะ) แต่วันนี้บอกเลยค่ะ นี่คือเรื่องจริงค่ะ"

 จากประสบการณ์การประกวด ชุติมา แจกแจงว่า ถ้าเราคิดว่าเราจะได้เข้าหรือเปล่านะ เราจะไม่ได้เข้า

 "If I can see it then I can do it. แต่ถ้าเราคิดว่าเราต้องได้ๆๆ เราจะทำได้ดีที่สุดค่ะ แนวคิดนี้มีผลมากคือความเชื่อมั่นในตัวเรา มองทุกอย่างคิดบวกไปทั้งหมด จะนำพานางงามไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ

 สำหรับชุดก็เกี่ยวแต่ไม่เกี่ยวมากค่ะ รอบชุดราตรี  Evening Gown มารีญา มีความเอเลเกนต์เดินเฉิดฉายบนเวทีมากๆ ค่ะ แต่ความโชคดีเกิดจากความเตรียมพร้อม เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้นางงามรุ่นต่อรุ่น ทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากนางงามสู่นางงาม จากแฟนคลับสู่นางงาม หรือการมี Advicer จะทำให้เราได้นางงามที่แกร่งยิ่งขึ้น

 สาวไทยเพิ่งเข้ารอบจริงๆ 3 ปีล่าสุด และเพิ่งได้เข้าไปตอบคำถามก็แค่ 2 ปีมานี้เองนะคะ เรากำลังไต่เต้าขึ้นเป็น Powerhouse ด้านนางงาม มันก็ค่อยๆ เรียนรู้ค่อยๆ ปรับกันไป เมื่อปรับได้ลงตัว เราก็จะกลายเป็น Powerhouse สมบูรณ์แบบค่ะ”

 ส่วนแพตเทิร์นนางงามสวยในแบบ “นางงามจักรวาล” ปีนี้มิสแอฟริกาใต้ ชุติมา มองว่าโททัลลุคสวยงามมาก ตั้งแต่ผมทรงหม้อตาลเกล้าสูง โชว์รูปหน้าสวยไร้ที่ติ

 "ไม่นับสีผมบลอนด์แฮร์ ยิ้มสวยฟันเรียงเป็นระเบียบโชว์เหงือกสีชมพูสวยอีก มีอก มีเอวหักเป็นตัวเอส ใส่ชุดราตรีสะโพกบานผาย รูปสมบัติคือแบบแผนแพตเทิร์นมิสยูนิเวิร์สสิ่งแรกที่กรรมการพิจารณา"

 ชุติมา กล่าวทิ้งท้ายในฐานะเคยเป็นกรรมการตัดสินความงามมาแล้วหลายๆ เวที เรื่องวัดกันที่ความสวย 10 กรรมการ ก็ 10 รสนิยมแตกต่างกันไป ของอย่างนี้ต้องวัดดวงไปด้วย

 ปีหน้าเชียร์กันต่อไป ด้วยความหวังว่าที่สุดสาวไทยจะสามารถเข้ารอบไปยืนตอบคำถามสุดท้ายในรอบ 3 คน หรือ Final Words และขอสำทับด้วยคำตอบในรอบตัดสิน ได้งดงามไม่แพ้หน้าตา เดมี เล นีล-ปีเตอร์ส นางงามจักรวาลคนล่าสุด ตอบคำถามก่อนมงลงว่า

 "สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมั่นใจในตัวเอง ต้องก้าวข้ามความกลัวหลายๆ อย่าง จึงจะสามารถนำพาผู้หญิงคนอื่นให้ก้าวข้ามความกลัวได้เช่นกัน สำหรับฉัน ไม่เคยมีอะไรยากเกินไป และนั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น”