posttoday

ศรัทธาและการเปลี่ยนแปลง

08 กรกฎาคม 2560

"ทำไมเดี๋ยวนี้พระเขายืนบิณฑบาตกัน ไม่เดินกันแล้วหรือ" "พระอยู่หน้าเซเว่นเต็มไปหมด รออยู่ปากซอยก็มี เรียงแถวรอตามร้านข้าวแกงเลย”

โดย...ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

"ทำไมเดี๋ยวนี้พระเขายืนบิณฑบาตกัน ไม่เดินกันแล้วหรือ"

"พระอยู่หน้าเซเว่นเต็มไปหมด รออยู่ปากซอยก็มี เรียงแถวรอตามร้านข้าวแกงเลย”

"บิณฑบาตมันไม่เหมาะสมนะครับ ยืนอย่างนั้น บิณฑบาตคือการออกไปโปรดสัตว์"

"อย่าคิดมาก อกุศลจิตหรือเปล่า ว่าร้ายกับพระท่านเดี๋ยวเหาจะกินหัวนะ"

วงสนทนาปรารภขึ้นคงเพราะในสังคมเมืองที่เร่งรีบ พระสงฆ์จึงต้องอำนวยความสะดวกตามญาติโยมยุคไลฟ์สด สายเดินก็ยังมีอยู่ สายยืนรอประจำจุดก็เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะตามตลาด ร้านค้า ญาติโยมซื้อกับข้าว แกงถุงเสร็จ ก็ตักบาตรกันตรงนั้น ถ้าช้าพระกลับวัดก่อน บางรูปรับบาตรจนล้น หิ้วถุงพะรุงพะรัง ดูไม่น่าเลื่อมใส เพราะเกินพอดี บ้างว่าเพราะญาติโยมใส่เยอะเอง เลยต้องรับมาเผื่อแผ่แบ่งให้ลูกวัด ทั้งหมดอยู่ที่พระเองว่าเท่าไรถึงจะพอ หรือจะปฏิเสธในการรับ

ไม่มีวินัยข้อใดระบุว่าพระจำเป็นต้องเดินบิณฑบาตเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ควรยืนแช่อยู่กับที่ ดูแล้วไม่เหมาะ ปัจจุบันยิ่งไปกันใหญ่ พระบางวัดแบ่งสัมปทาน ห้ามทับสายเดินบิณฑบาต เกรงจะไม่ได้อาหารและปัจจัย ถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้ง ใครมาบวชใหม่ พระพี่เลี้ยงต้องคอยบอกให้เดินบิณฑบาตตามไว้ อย่าริฉายเดี่ยวออกนอกเส้นทางเด็ดขาด

ตามท้องถนนเราพบเห็น "พระนอกรีต" มากมาย พวกโกนหัวนุ่งผ้าเหลืองแสวงหาผลประโยชน์เดินหรือปักหลักเรี่ยไร กางเต็นท์นอน ถือซองผ้าป่า อาศัยศรัทธาคนไทยเมืองพุทธ ประเทศแห่งการทำบุญ และถือธรรมเนียมห้ามวิจารณ์ผู้ที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองว่าจะบาปบ้าง พวกเหลือบเหลืองนี้เลยหากินกับ "เงินบุญ" อย่างสบายใจ ไม่มีใครตรวจสอบ หรือคิดกล้าตรวจสอบ

ระบบดูแลกันเองของสงฆ์ก็ไม่ทันการณ์ ตามโครงสร้างระดับรากหญ้าเรามี "พระตำรวจ" หรือ พระวินยาธิการ ทำหน้าที่เป็นสายตรวจ แต่ก็ตรวจจับอะไรไม่ได้มาก เมื่อเทียบกับปัญหาที่พบร้อยแปดพันเก้า นั่นแสดงว่าระบบที่มีมานี้ไม่เวิร์ก จำเป็นต้องปรับปรุงด่วน เว้นแต่จะเจอปัญหาทางโลกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับเป็นคดีอาญาพระเสพยาบ้าทั้งวัด เมาเหล้า อาละวาด

ในระดับวัดจนยกระดับเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติ กรณีธรรมกายสะท้อนปัญหาทางโลกและทางสงฆ์ที่สะสมมายาวนาน เจ้าอาวาสและทีมบริหารทั้งคณะ รองเจ้าอาวาส พระผู้ใหญ่ของวัด ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาแผ่นดินโทษฐานร่วมกันฟอกเงินรับของโจร พัวพันคดีทุจริตยักยอกเงินคนเกษียณที่ฝากในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเกลี้ยง ทางสงฆ์คำสอนของธรรมกายผิดเพี้ยนหลักธรรมพุทธศาสนา ทำให้เกิดความงมงาย ยิ่งถวายเงินมากยิ่งได้บุญมาก ไปกันใหญ่แล้ว

ระบบตรวจสอบของคณะสงฆ์ก็ล้มเหลวจริง ปล่อยให้ปัญหานี้สะสมเรื้อรังมานานจนธรรมกายแผ่อิทธิพลเติบโตแข็งแกร่งขยายสาขาไปทั่วโลก มีศิษยานุศิษย์ทุกวงการ ดารา นายทุนใหญ่ บิ๊กการเมือง กระทั่งลามมาที่พระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมด้วยกัน คอยปกป้องอุ้มชู จนวันนี้ทางการไม่สามารถจับกุมธัมมชโยมาดำเนินคดีฟ้องศาลได้

ปัญหาแบบธรรมกายไม่ใช่มีที่เดียว ในสเกลที่ย่อยลงไปพบเห็นหลายที่ เช่น โล้นห่มเหลืองนามหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อนด้านการสั่งสอน ที่สุดถูกตั้งข้อหากระทำชำเราเด็ก ฉ้อโกง ฟอกเงิน หอบเงินญาติโยมร้อยล้านปรนเปรอความสุขตัวเอง

ยังมีอีกหลายวัด เราๆ ท่านๆ พุทธศาสนิกชนทั้งหลายย่อมรู้ดี แต่ไม่อยากพูด รู้แต่ว่ายิ่งสาวก็ยิ่งเจอเรื่องผลประโยชน์เงินๆ ทองๆ  ถึงขั้นฆ่าเณร แย่งทรัพย์สินเงินบริจาคประชาชน ถึงบอกคนส่วนใหญ่ไม่คิดกล้าตรวจสอบวัด หรือพระสงฆ์องค์เจ้า เพราะถูกสอนให้ต้องกราบไหว้ผ้าเหลืองโดยดุษณี โดยไม่แยกแยะไตร่ตรองแต่ละองค์ แต่ละรูปทั้งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้นั้นดูน่าเชื่อถือ ถ้าไม่รู้จักแยกแยะนั่นแหละงมงาย

มหาเถรสมาคม ระบบตรวจสอบสูงสุดในวงการสงฆ์ก็อ่อนล้า ถูกวิจารณ์จากวงการผ้าเหลืองด้วยกัน ต้องเร่งปฏิรูป มิฉะนั้นพุทธศาสนาในไทยจะพังครืน

ปัญหาที่หมักหมมในวงการสงฆ์ มีเพียงรัฐฝ่ายเดียวที่ต้องนำการปฏิรูป เพราะถืออำนาจอยู่ แต่อำนาจทำไม่ได้ ต้องอาศัยบารมี การได้รับการยอมรับ และการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนทั้งสงฆ์และประชาชน 

ความจริงทุกรัฐบาลก็ไม่กล้าแตะ เพราะเรื่องสงฆ์ถูกหยิบมาบิดเบือนโจมตีเป็นประเด็นการเมือง เสียคะแนนนิยมได้ ยิ่งปัจจุบันการจะผ่าตัดเรื่องใด หากถูกมองด้วย “แว่นสี” ทางการเมืองด้วยแล้ว การจะแก้ปัญหาก็จะซับซ้อนกว่าเดิม

จุดประสงค์ของผู้ทำบุญบริจาคควรไปถึงเป้าหมาย มิควรถูกบิดเบือนหรือให้ผู้หนึ่งผู้ใดเอาไปแสวงหาประโยชน์โภคทรัพย์ให้กับตัวเอง