posttoday

ปั้น สุดารัตน์ รับไม้ต่อคุมเพื่อไทย สยบศึกใน ลุยศึกนอก

09 มิถุนายน 2560

หลังรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้พรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งมานานกว่า 3 ปี เริ่มออกมายืดแข็งยืดขาวอร์มข้างสนาม รอสัญญาณนกหวีดให้กระโดดลงสู่สมรภูมิเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดในปี 2561

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

หลังรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้พรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งมานานกว่า 3 ปี เริ่มออกมายืดแข็งยืดขาวอร์มข้างสนาม รอสัญญาณนกหวีดให้กระโดดลงสู่สมรภูมิเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดในปี 2561

ยิ่งในช่วงนี้ ​ที่ “กลไก” ต่างๆ เริ่มมีความชัดเจนตามกฎหมายลูกที่​กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ​ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังเร่งเครื่องจัดทำให้ออกมาได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด

หลายพรรคการเมืองจึงเริ่มออกมาขยับตั้งแต่การปรับโครงสร้างพรรคที่จะต้องมาวางระบบกันใหม่ให้สอดรับกับ พ.ร.บ.พรรคการเมืองที่มีความแตกต่างจากในอดีตหลายจุดตั้งแต่จำนวนสมาชิก การจัดเก็บเงินค่าสมาชิก ​ไปจนถึงกลไกการมีส่วนร่วมที่หวังให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

ก่อนหน้านี้ พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์มีความเคลื่อนไหวมาแล้วรอบหนึ่ง เมื่อแกนนำ กปปส. ตัดสินใจเคลียร์ใจกลับคืนรัง ประสานรอยร้าว สยบกระแสข่าว ความพยายาม​ ปลดหัวหน้ามาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเทกโอเวอร์พรรคก่อนลุยศึกเลือกตั้งรอบใหม่   

ไม่ต่างจากฝั่ง “เพื่อไทย” แชมป์เก่าที่ออกมาโอดครวญว่าถูกเลือกปฏิบัติไม่ได้รับความเป็นธรรม

เวลานี้ ภายในพรรคเพื่อไทยเริ่มเห็นการขยับ​จัดวางกลไกภายในกันใหม่ เริ่มตั้งแต่การวางตัวหัวหน้าพรรคที่จะมารับงานใหญ่คุมประสานกลุ่มมุ้งต่างๆ ให้กลับมาเป็นปึกแผ่นลงสนามเลือกตั้ง

ด้านหนึ่งแม้จะมีกระแสแอบลุ้นอยู่ลึกๆ ให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมากุมบังเหียนนำทัพเพื่อไทยขายความน่าสงสารในฐานะเป็นผู้ถูกกระทำลงสนามเลือกตั้ง แต่ด้วยบาดแผลในอดีต และกฎระเบียบที่เข้มงวดคงทำให้กลับคืนสนามการเมืองได้ยาก ​

ดังนั้น จึงเริ่มเห็นรายชื่อแคนดิเดตทั้งหมดที่ถูกโยน ถูกดันออกมา วัดกระแสสังคม มีทั้งคนนอก และคนในพรรคที่มีจุดแข็งจุดอ่อนแตกต่างกันไป ยังไม่รวมกับเสียงสนับสนุนที่แต่ละฝั่งต่างก็มีกองเชียร์

ไล่เรียงจากแต่ละชื่อปรากฏออกมาเวลานี้ ​​คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดูจะมาแรงกว่ารายชื่ออื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็น สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ที่มีเสียงสนับสนุนอยู่ไม่น้อยด้วยภาพลักษณ์นักการเมืองน้ำดี แถมยังไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง แถมยังเป็นคนเก่าคนแก่เคยรั้งตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถมผ่านงานบริหารเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ก่อนที่​เจ้าตัวจะออกมาชี้แจงว่าไม่เคยได้รับการติดต่อจากคนในพรรคเพื่อไทย รวมทั้งไม่มีความสนใจการเมืองใดๆ ไม่มีความสนใจในการรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ มานานแล้ว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองของเอเชีย (ARPC)

บางกระแสมีความพยายามผลักดันวีรบุรุษนาแก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ​อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาเป็นอีกทางเลือกแต่แรงสนับสนุนดูจะยังเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ ยากจะทำให้ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในพรรค

ไม่ต่างจาก โภคิน พลกุล ที่แม้จะเป็นมือกฎหมายคนสำคัญของพรรครั้งตำแหน่งอดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เสียงสนับสนุนจากภายในพรรคยังไม่เพียงพอจะผลักดันให้ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในช่วงนี้

คล้ายกับ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองหน้าพรรคไทยรักไทย ผ่านงานการเมืองมาโชกโชน เคยรับตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรี รมว.ศึกษาธิการ รมว.ยุติธรรม แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ที่ต้องการคนที่มีบุคลิกประนีประนอมมากกว่า

แม้แต่​ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยได้ทำงานในทำเนียบรัฐบาลเพราะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมมาตั้งแต่รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ด้วยดีกรี อดีตผู้พิพากษา อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน แต่เหมือนยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมในเวลานี้

สถานการณ์และเงื่อนไขต่างๆ จึงมาลงตัวที่ ​คุณหญิงสุดารัตน์ แม้จะมีแรงต้านเสียงค้านจากบางกลุ่มในพรรค ทั้งคนฝั่งบางบอนและบางมุ้งของกลุ่มชินวัตร แต่ด้วยประกาศิตที่ได้ “ไฟเขียว” จากคนแดนไกลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เส้นทางสู่ตำแหน่งนี้ไม่น่าจะมีอุปสรรคมากมาย

ไม่แปลกที่เวลานี้ คุณหญิงสุดารัตน์จะเป็นคนนั่งหัวโต๊ะนำการพูดคุยวางยุทธศาสตร์เป็นการภายในทุกวันอังคารร่วมกับ โภคิน จาตุรนต์ ชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายของพรรค ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค รวมไปถึงแกนนำคนอื่นๆ ทั้ง ชัยเกษม นิติสิริ พงศ์เทพ เทพกาญจนา วัฒนา เมืองสุข และนพดล ปัทมะ

ในแง่ “บารมี” ชื่อชั้นของคุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้เป็นรองใครในพรรค มีเสียงสนับสนุนเข้มแข็งจากฝั่ง กทม. แถมยังมีคอนเนกชั่นที่ดีกับพรรคอื่นๆ และยังพูดคุยกับ คสช. ผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้

ที่สำคัญที่ผ่านมาคุณหญิงสุดารัตน์วางตัวไม่เป็นคู่ขัดแย้งออกมาต่อปากต่อคำ​ เน้นทำกิจกรรมงานบุญ จน​เอื้อต่อการปรองดอง สมานฉันท์ ในอนาคต​ไม่ต้องพูดถึงภารกิจสำคัญเรื่องการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล หรือเลือกนายกรัฐมนตรีในอนาคต​

อยู่ที่ว่านับจากนี้ต่อไปหากไม่มีเหตุปัจจัยให้ต้องสะดุดขาตัวเอง หรือมีคนมาขัดแข้งขัดขา​ในอนาคตหรือไม่