posttoday

แบงก์ตุนเงินฝาก รอจังหวะปล่อยสินเชื่อ

15 เมษายน 2560

ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีการออกแคมเปญเงินฝากในช่วงนี้ โดยมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น

โดย...ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีการออกแคมเปญเงินฝากในช่วงนี้ โดยมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น จูงใจผู้ออมเงินที่ต้องการฝากเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังไม่มีสัญญาณว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือมีเงินทุนไหลออกกลับไปตลาดหลัก เช่น สหรัฐ จนสภาพคล่องในระบบเหือดหาย แต่เป็นการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระดมเงินฝาก เพื่อเตรียมรับมือกับโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อของแต่ละธนาคาร

อนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ สายการเงิน ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ไทยมีสภาพคล่องส่วนเกินสูงมาก แม้ว่าจะมีแนวโน้มเงินทุนไหลออกจากการที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐปรับขึ้น แต่ไม่มากจนเงินในประเทศแห้งเหือด อีกทั้งสัญญาณดังกล่าวเห็นมาสักพักแล้ว ทุกธนาคารจึงเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า

สำหรับธนาคารธนชาตก็มีการปรับตัว เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยของธนาคารมาจากสินเชื่อเช่าซื้อที่คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ ขณะที่เงินฝากส่วนใหญ่เป็นเงินฝากประจำ อัตราดอกเบี้ยคงที่และระยะสั้น จึงได้ปรับเงินฝากให้เป็นระยะยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการล็อกต้นทุนทางการเงินไว้ด้วย

ขณะที่ธนาคารไม่มีปัญหาสภาพคล่อง เห็นได้จากสินทรัพย์ธนาคารที่สัดส่วนของสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 70-80% อีก 20% เป็นการลงทุน คือมีสภาพคล่องเหลือจากการปล่อยสินเชื่อได้ไม่เต็มที่

“ดอกเบี้ยที่ขึ้นไม่ได้มาจากการที่ธนาคารต้องการระดมสภาพคล่อง อย่างธนชาตสภาพคล่องค่อนข้างสูง เพราะสินเชื่อยังทรงตัว แต่เงินฝากที่หาได้ รอจังหวะเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น สภาพคล่องที่มีอยู่จะเพียงกับการปล่อยสินเชื่อที่ขยายตัวได้” อนุวัติร์ กล่าว

อดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การดำรงสภาพคล่องของธนาคารจะเปลี่ยนไป จากการที่ธนาคารเปลี่ยนวิธีทำธุรกิจที่เน้นที่ปรึกษาและการบริการ ไม่พึ่งเฉพาะการรับฝากเงินและปล่อยกู้ ทำให้แนวโน้มอัตราเติบโตของเงินฝากทั้งระบบไม่สูงเกินกว่าการเติบโตของจีดีพี ขณะที่ตราสารการลงทุนจะเติบโตสูงกว่าจีดีพี

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อไปว่าแนวโน้มดอกเบี้ยตลาดหลักอย่างสหรัฐที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น จะกดดันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมากน้อยเพียงใด เพราะตามเครดิตเรตติ้งของไทยและสหรัฐนั้น ไทยมีความเสี่ยงมากกว่า ซึ่งควรจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า หากสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแผน จนปลายปีนี้ขึ้นไปแตะ 1.5% ก็อาจจะเห็นดอกเบี้ยนโยบายไทยปรับขึ้นในปีนี้ก็ได้ ไม่เช่นนั้นเงินจะไหลออกแรงจนกดดันสภาพคล่องที่มีอยู่จริง

สำหรับสถาบันการเงินของไทยนั้น แม้ว่าสภาพคล่องจะล้น แต่ด้วยผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดเงินปรับขึ้นไปแล้ว จึงเห็นการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากในขณะนี้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดเงิน รวมทั้งเป็นการรักษาฐานผู้ฝากเงิน และเตรียมรองรับการขยายสินเชื่อที่น่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีสัญญาณว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาดโลก ทำให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งปรับการบริหารเงินฝากเพื่อรับมือด้วยการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาวขึ้น เช่น 1 ปี เพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ยไว้ รวมทั้งเตรียมไว้ปล่อยสินเชื่อที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น