posttoday

ดิ้นสู้จำนำข้าว ‘ยิ่งลักษณ์’ ยังจุดไม่ติด

26 ตุลาคม 2559

ส่อเค้า “จุดไม่ติด” สำหรับความพยายาม “ปลุกกระแส” ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องช่วยเหลือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ส่อเค้า “จุดไม่ติด” สำหรับความพยายาม “ปลุกกระแส” ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องช่วยเหลือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลังจาก วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ​ลงนามในหนังสือคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท จากกรณีปล่อยปละโครงการรับจำนำข้าวจนนำไปสู่ความเสียหาย

สะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวที่ดู “เบาบาง” และ “ไร้พลัง” และ “ทิศทาง” แตกต่างจากก่อนหน้านี้

รอบนี้จะเห็นว่ามีเพียงแค่การออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่ปกติของกระบวนการ ตามที่ ยิ่งลักษณ์ อธิบายว่า “กระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ...เรียนว่าใครเป็นอย่างดิฉันก็คงรู้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน”

พร้อมปล่อยให้การต่อสู้ตามกระบวนการเป็นเรื่องของ นพดล หลาวทอง ทนายความ รวบรวมเอกสารและหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายในเดือน พ.ย.นี้

ไม่ต่างจากคดี บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกเรียกค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ​(จีทูจี) ซึ่งเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองให้พิจารณาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

อีกด้านหนึ่งได้ประกาศเตรียมฟ้องกลับทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะคำสั่งดังกล่าวถือว่าเป็นคำสั่งที่ออกมาโดยมิชอบ

ในขณะที่การออกมาปลุกกระแสขอความเห็นใจก็ยังนิ่งเงียบ มีเพียงแค่การออกมาส่งเสียงแสดงความคิดความเห็นเป็นรายบุคคล แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เคยออกเป็นแถลงการณ์ หรือจุดยืนของพรรค เพื่อแสดงความไม่ถูกต้องตามกระบวนการและการเลือกปฏิบัติ

สาเหตุประการแรกเพราะบรรยากาศขณะนี้ยังอยู่ในช่วงความโศกเศร้าของประชาชนทั่วทั้งประเทศ การออกมาแสดงความคิดความเห็น หรือปลุกระดมเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้ย่อมเป็นการมิบังควร

ดีไม่ดีการออกมาดำเนินการใดๆ ในช่วงเวลาเช่นนี้ แทนที่จะได้รับกระแสความเห็นใจจากประชาชนอาจจะเกิดกระแสตีกลับกลายเป็นการสร้างผลเสียหนักกว่าเดิม

ดังนั้น หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงไม่กล้าผลีผลามออกมาดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นการสุ่มเสี่ยง สิ่งที่ทำได้ ​จึงคอยดูทิศทางลมรอให้ทุกอย่างนิ่งกว่านี้ค่อยออกมาเคลื่อนไหวย่อมจะเป็นผลดีมากกว่า

แม้แต่ทางพรรคเพื่อไทยที่ก่อนหน้านี้เคยออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการเอาผิดด้วยวิธีการใช้คำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหาย รวมทั้งใช้มาตรา 44 ให้อำนาจกรมบังคับคดีเข้ามาดำเนินการติดตามทวงเงินในขั้นตอนสุดท้าย ​

แต่รอบนี้กลับยังเงียบไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ จะเห็นว่ามีเพียงแค่ ​ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเห็นใจ​ยิ่งลักษณ์ ที่กำลังเผชิญกับความกดดันครั้งสำคัญของชีวิต กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ​

“ผมเห็นว่าถึงเวลาที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจผนึกกำลังความคิดและสติปัญญา โดยวิถีทางแห่งอารยชนช่วยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ให้รอดพ้นจากอันตรายใดๆ ผมเชื่อว่าท่านมิได้ทำอะไรผิด แต่ตกเป็นเหยื่อของการทำลายล้างบนความแตกแยก ร้าวฉานของสังคมไทยที่มีมาโดยช้านานนั่นเอง”

ทว่า การปลุกกระแสแนวร่วมออกมาช่วยอดีตนายกฯ ซึ่งเริ่มมีการขยับแล้ว แต่กลับยังไม่มีสัญญาณตอบรับ ​แนวร่วมหลายฝ่ายยังคงสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ รวมทั้งบางฝ่ายประกาศตัวไม่ร่วมสนับสนุน

ล่าสุดกับแคมเปญทางโซเชียลมีเดียที่เริ่มมีการระดมเงิน เพื่อช่วยชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวมูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ให้อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ​โดยมีผู้เสนอประกาศพร้อมสละเงินส่วนตัวจำนวน 1 แสนบาท เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการช่วยเหลือ ​พร้อม​เสนอให้ผู้ที่ลงคะแนนเลือก ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ มีส่วนร่วมกับการระดมทุนครั้งนี้

แต่​บางฝ่ายที่เคยประกาศตัวสนับสนุน อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กลับประกาศตัวไม่ร่วมแคมเปญนี้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคำสั่งอันเข้มงวดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาสกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะทำให้การปลุกกระแสในช่วงเวลานี้เป็นไปได้ยาก

ขณะที่แกนนำเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลายคนกำลังเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย และบางส่วนอยู่ระหว่างการประกันตัวออกมาสู้คดี

การเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ที่สุ่มเสี่ยง​จะเข้าข่ายปลุกปั่นนำไปสู่ความวุ่นวายกระทบความมั่นคงอาจทำให้ผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว และทำให้ต้องกลับไปถูกคุมตัวเหมือน จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเหตุผลทำให้การปลุกกระแสช่วยยิ่งลักษณ์ในห้วงเวลานี้ยากจะจุดไม่ติด