posttoday

วิบากกรรมพท.-นปช. ติดบ่วงคดี-ตัดสิทธิการเมือง

10 กันยายน 2559

ห้วงเวลากว่า 2 ปี ที่คสช.เข้ามาปฏิบัติภารกิจแก้ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองจึงไม่แปลกที่คดีความฝ่ายการเมือง จะถูกเช็กบิล

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ห้วงเวลากว่า 2 ปี ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาควบคุมอำนาจ เพื่อที่จะเข้ามาปฏิบัติภารกิจแก้ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง จึงไม่แปลกที่คดีความฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะคนที่อยู่ภายใต้ร่มเงาพรรคเพื่อไทย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งคดีการเมืองบ้าง คดีทุจริตคอร์รัปชั่นบ้าง แม้แต่คดีค้างเก่าก็ถูกเช็กบิล จำคุก ยึดทรัพย์ในยุคนี้

เริ่มจากคนตระกูลชิน ที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตรสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีของทักษิณถูกดำเนินการถอดยศ ด้วยประกาศคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 26/2558 เรื่องการ ดําเนินการเพื่อถอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากยศตํารวจ โดยผ่านการพิจารณาของ คสช. เนื่องจากเห็นว่าเป็นกรณีกระทบต่อความมั่นคงของชาติและมีความจำเป็นต้องดำเนินการเป็นการด่วน

ตามด้วยน้องเขย สมชาย ศาลฎีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำลังพิจารณาคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 บริเวณหน้ารัฐสภา จนกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งรุนแรง คดีดังกล่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง สมชาย พร้อมกับพวกรวม 4 คน คาดว่าประมาณกลางปี 2560 คดี 7 ตุลาฯ จะต้องติดตามอีกครั้งว่าจะมีคำพิพากษาอย่างไร

ส่วนน้องสาว ยิ่งลักษณ์ เวลานี้กำลังเผชิญมรสุมทางการเมืองจากการถูกฟ้องร้อง ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการทุจริตรับจำนำข้าว มูลค่า 2.86 แสนล้านบาท เป็นความเสียหายจากการระบายข้าวในสต๊อกไม่ได้ ซึ่งคดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ทำเอาเจ้าตัวหวาดหวั่นถึงขั้นต้องออกสื่อโซเชียลขออย่าใช้คำสั่งมาตรา 44 อายัดยึดทรัพย์

คดีสมาชิกพรรคเพื่อไทย

เมื่อปลายสัปดาห์ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอดีต สส.พรรคเพื่อไทย เป็นแพ็ก ประกอบด้วย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ในฐานะประธานสภา นริศร ทองธิราช อดีต สส.สกลนคร กรณี อุดมเดช รัตนเสถียร จากพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจ ปลอมแปลงและเสียบบัตรแทนกันแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา สว.โดยมิชอบ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา พร้อมกับเสนอรายงานให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติถอดถอนจากตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประชา ประสพดีอดีต รมช.มหาดไทย ยุคยิ่งลักษณ์ ก็ถูก สนช.ลงมติถอดถอนจากคดีความผิดใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงการทำงานขององค์การตลาด (อต.) ไปแล้ว และล่าสุด สนช.นัดลงมติถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่ ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จากคดีที่ ป.ป.ช.กล่าวหาใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงหรือสนับสนุนแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล

ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ “หมอเลี้ยบ” อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในยุครัฐบาลทักษิณ ถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญาในคดีตกเป็นจำเลยอนุมัติให้แก้ไขสัญญาสัมปทานกิจการดาวเทียมภายในประเทศ เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ชินแซทเทลไลท์ รวมถึงคดีที่ศาลฎีกาสั่งพิพากษาจำคุก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย คนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ

ขณะที่คดีของ นปช. อาทิ ศาลพิพากษา จตุพร พรหมพันธุ์ ให้จำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี โดยอยู่ระหว่างฎีกา เป็นคดีที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจตุพรเป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทในเหตุการณ์ชุมนุมช่วงเดือน เม.ย. 2552

คดีของ “ทอม ดันดี” ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 15 ปี ที่ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูงบนเวที นปช.เมื่อปี 2556 และนำคลิปไปเผยแพร่ทางยูทูบ แต่ด้วยรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 7 ปี 6 เดือน และคดีของ “จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ” อดีต สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ไม่รอลงอาญา