posttoday

"วันเอ็มดีบี" เบี้ยวหนี้สะท้านชื่อเสียงมาเลเซียสะเทือน

27 เมษายน 2559

มาเลเซียต้องเผชิญกับปัญหารอบใหม่ที่เสี่ยงกระทบต่อชื่อเสียงประเทศอีกครั้ง

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

มาเลเซียต้องเผชิญกับปัญหารอบใหม่ที่เสี่ยงกระทบต่อชื่อเสียงประเทศอีกครั้ง เมื่อกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (วันเอ็มดีบี) ประกาศชะลอการชำระดอกเบี้ย 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,750 ล้านบาท) จากพันธบัตรวงเงิน 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.1 หมื่นล้านบาท) ที่มีกำหนดชำระในวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งนับเป็นการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก และยังทำให้เกิดความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ก้อนอื่นๆ ตามมาด้วย

ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่วันเอ็มดีบีไม่สามารถตกลงข้อกำหนดการชำระหนี้ร่วมกับอินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม อินเวสต์เมนต์ โค (ไอพี ไอซี) กองทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งเป็นผู้ร่วมค้ำประกันพันธบัตรของวันเอ็มดีบีที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2022 ได้

การผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้ส่งผลให้ตราสารอนุพันธ์ประกันความเสี่ยง (ซีดีเอส) อายุ 5 ปี ปรับตัวขึ้นทันทีสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ แตะระดับ 1.65% จากการเปิดเผยของผู้ให้ข้อมูลซีเอ็มเอ โดยมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่วันเอ็มดีบีจะผิดนัดชำระหนี้ก้อนอื่นตามมา จากตราสารหนี้วงเงินทั้งหมด 7,400 ล้านริงกิต (ราว 6.68 หมื่นล้านบาท)

ทั้งนี้ วันเอ็มดีบีตกเป็นเป้าการสืบสวนกรณีการทุจริตและการฟอกเงินจากนานาชาติ โดยคณะกรรมาธิการรัฐสภามาเลเซีย ระบุว่า พบการทาธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติของกองทุน มูลค่าอย่างน้อย 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.4 แสนล้านบาท) ขณะที่ทางวันเอ็มดีบีได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

รายงานจากคณะกรรมาธิการรัฐสภามาเลเซีย ระบุว่า วันเอ็มดีบีได้ชำระเงินไปทั้งสิ้น 3,500  ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 แสนล้านบาท) ไปให้บริษัท อันบาร์ อินเวสเมนต์ พีเจเอส ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ขณะที่ไอพีไอซีออกมาโต้ว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้เป็นบริษัทของไอพีไอซี และไอพีไอซีไม่ได้รับการชำระเงินใดจากบริษัทในบริติช เวอร์จิ้นตามที่มีการกล่าวอ้าง

วันเอ็มดีบี-ไอพีไอซี โต้แย้งไม่จบ

ทั้งนี้ วันเอ็มดีบีกำลังเผชิญข้อพิพาทเรื่องหนี้สินกับไอพีไอซีภายใต้ข้อตกลงเมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว โดยไอพีไอซีระบุว่าจะจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.2 แสนล้านบาท) ที่ไอพีไอซีค้าประกันให้อยู่ อย่างไรก็ดี ไอพีไอซีเปิดเผยในเดือน เม.ย.ว่า วันเอ็มดีบีได้ผิดนัดชำระหนี้แล้วภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถจ่ายเงินมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.5 หมื่นล้านบาท)

"วันเอ็มดีบีจำเป็นต้องระงับการชำระหนี้สิน และจะแสวงหาแนวทางแก้ปัญหาและการพึ่งพาทางกฎหมาย จนกว่าไอพีไอซีจะยอมรับว่าได้บรรลุตามข้อกำหนดทั้งหมดแล้ว" วันเอ็มดีบี กล่าว

ริงกิต-ตลาดหุ้นร่วงกราว

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียร่วงติดกันเป็นวันที่ 4 ซึ่งร่วงยาวนานสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ปีที่แล้ว โดยปรับลง 0.9% แตะ 3.9420 ริงกิต/เหรียญสหรัฐ ณ เวลา 13.00 น.ของวันที่  26 เม.ย. ร่วงหนักสุดตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. ส่วนดัชนีตลาดหุ้นมาเลเซียปรับตัวลดลง 0.7% ปรับลงมากที่สุดในรอบ 2 เดือน

จอฟฟรีย์ อึ้ง ผู้อำนวยการบริษัทจัดการการลงทุนฟอร์เตรส แคปปิตอล แอสเซท แมเนจเมนต์ ในกัวลาลัมเปอร์ มองว่า กรณีวันเอ็มดีบีส่งผลให้มุมมองความน่าเชื่อถือของรัฐบาลมาเลเซียมีความไม่แน่นอน และแสดงถึงความเสี่ยงด้านเครดิตในสายตานักลงทุนต่างชาติ

ด้าน เรย์มอนด์ เจีย หัวหน้าฝ'ยวิเคราะห์ สินเชื่อภูมิภาคเอเชียจากชโรเดอร์ อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของวันเอ็มดีบี อาจจะยังก่อให้เกิดความรู้สึกเชิงลบต่อหนี้สินภาคธนาคารและภาคธุรกิจของมาเลเซีย

อย่างไรก็ดี สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) ระบุว่าการผิดนัดชำระหนี้ของวันเอ็มดีบีไม่ส่งผล ต่อมุมมองความน่าเชื่อถือของมาเลเซียที่ระดับ A-  เช่นเดียวกับมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสที่มองว่า วันเอ็มดีบีไม่สร้างผลกระทบใด เนื่องจากไอพีไอซี ค้ำประกันอยู่

ภาพ...เอเอฟพี