posttoday

"ทักษิณ" ยิ่งดิ้น ยิ่งเหนื่อย

01 มิถุนายน 2558

การเปิดหน้าชนกับ คสช. ย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดี รังแต่จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

นับเป็นการเดินเกมที่ผิดพลาดครั้งสำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เปิดตัวครั้งแรกหลังรัฐประหาร ก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่วิพากษ์การทำงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสัมภาษณ์แฉเบื้องหน้าเบื้องหลังม็อบ กปปส.จนนำมาสู่ “รัฐประหาร”​ เชื่อมโยงถึงองคมนตรี

อาฟเตอร์เอฟเฟกต์ลูกแรกก่อตัวคล้อยหลังไม่กี่วันหลังจากนั้น เริ่มต้นด้วยการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ฉบับ ​ซึ่งนับเป็นสัญญาณแตกหักที่ชัดเจน หลังจากก่อนหน้านี้ คสช.​ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่ต่างแดนมานับปี​

หลังรัฐประหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศชัด ให้โอกาส คสช.​ทำงานตามโรดแมป และเฝ้ารอเวลาคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ​ก่อนจะเงียบหายไปพักใหญ่ มีเพียงแค่ความเคลื่อนไหวที่ปรากฏว่าเดินทางไปประเทศต่างๆ เป็นระยะ

ถึงขั้นเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการฮั้วระหว่าง คสช.และ พ.ต.ท.ทักษิณ จนมีการออกมาดักคอให้เร่งกระบวนการเอาผิดคดีที่ค้างคาอยู่ในกระบวนการ เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไป และทำให้รัฐประหารต้องเสียของในที่สุด

ทว่าเหตุการณ์ล่าสุดซึ่งถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ปิดประตูปรองดองไปโดยปริยายนั้นกำลังจะจุดให้บรรยากาศการเมืองกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

เมื่อหลังจาก “ดาบแรก” กับการยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ คดีอื่นๆ ที่อยู่ในบัญชียาวเป็นหางว่าว กำลังไหลเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอย่างรวดเร็ว คล้ายได้รับสัญญาณไฟเขียวเร่งเดินหน้า

ไล่มาตั้งแต่ “ดาบสอง” การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินเคยทำหนังสือไปยัง สตช.​ให้มีการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ก็ค้างเติ่งจนถึงปัจจุบัน จนรอบนี้คณะกรรมการพิจารณาถอดยศมีมติเอกฉันท์ให้ถอดยศ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยระเบียบความผิด

เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ต้องหาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับ 7 หมาย โดยเป็นหมายที่ผ่านอายุความไปแล้ว 2 หมาย เหลืออีก 5 หมาย ขั้นตอนต่อจากนี้จึงรอให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พิจารณาและเสนอ ครม.ต่อไป

วิบากกรรมยังไม่จบแค่นั้น ​เพราะจากการให้สัมภาษณ์ที่เกาหลี ​ทาง พล.ต.ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก กองทัพบก เข้ายื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 326 และ ​328

อีกด้านหนึ่ง คดีนี้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เดินเรื่องคู่ขนานส่งสำนวนดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ เบื้องต้นสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีดังกล่าวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ​

ทุกอย่างเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอก “อย่างไรผมก็ชนะท่านอยู่แล้ว” ​เพราะด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในมือเวลานี้ เปิดหน้าชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เวลานี้ ย่อมมีแต่จะเจ็บตัว เข้าทำนองยิ่งดิ้น ยิ่งเหนื่อย และมีแต่จะยิ่งเจ็บตัวมากเท่านั้น

อีกทัั้งหากประเมินกำลังของขั้วอำนาจเก่าเวลานี้กำลังสะบักสะบอมอย่างหนัก ยากจะหาคนประกาศตัวเป็นแกนนำผนึกกำลังออกมาต่อกรกับ คสช.ได้ เพราะ​คดีเก่าของบรรดาแกนนำเสื้อแดง ยังเป็นชนักปักหลังจนไม่อยากมีใครออกมาเคลื่อนไหวช่วงนี้

ไม่ต่างจากแกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่อดีต สส.กว่าครึ่งยังมีคดีรอชี้ชะตาอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​​ ประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากถูกชี้มูลความผิดก็จะนำไปสู่การถอดถอนที่สุ่มเสี่ยงจะถูกตัดตอนออกนอกถนนการเมือง

จนกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้ระยะหลังไม่มี สส.แตกแถวออกมาชนกับ คสช. ​ยิ่งเห็นสภาพของ​ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกไล่บี้อยู่เวลานี้ ย่อมสะกดไม่ให้ใครอยากมีเรื่องกับ คสช.​

แต่วิเคราะห์แล้ว สิ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจหยั่งเชิงออกมาชนกับ คสช.เป็นเพราะระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปีหลังรัฐประหาร หากเงียบเกินไป อาจทำให้บรรดากองเชียร์ หรือแนวร่วม ถอดใจและอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ

อีกด้านหนึ่งวิบากกรรมที่อดีตนายกฯ ​ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กำลังถูกไล่เช็กบิลต่อเนื่อง ตั้งแต่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ยังไม่รวมกับคดีอาญา คดีแพ่ง ที่จะถูกเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท ย่อมทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้

แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นย่อมพิสูจน์ให้เห็นว่า การเปิดหน้าชนกับ คสช. ย่อมไม่ใช่ความคิดที่ดี รังแต่จะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี และที่สำคัญย่อมอาจส่งผลกระทบกับอีกหลายคดีที่จ่อคิวรอการพิจารณาเวลานี้

ดังนั้น การยอมสงบนิ่งปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป อาจดีกว่าการยอมกลืนเลือดออกมาดิ้นสู้ในเกมที่มีแต่จะเจ็บตัวมากขึ้นเท่านั้น