posttoday

10คำถามที่กทค.ไม่สะดวกใจที่จะตอบ?

09 กันยายน 2556

โดย...ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

โดย...ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติขยายเวลาการใช้คลื่น 1800 MHz ของ True Move และ DPC ออกไป 1 ปี โดยไม่นำคลื่นมาประมูล และได้ฟ้องหมิ่นประมาทนักวิชาการที่ตรวจสอบและให้ความเห็นทางวิชาการทักท้วง ตลอดจนสื่อมวลชนที่รายงานความเห็นดังกล่าว แม้ว่าการฟ้องร้องจะเป็นสิทธิที่ กทค. สามารถทำได้ตามกฎหมาย ผมเห็นว่าก่อนจะดำเนินการดังกล่าว กทค. ควรจะต้องตอบคำถาม 10 ข้อต่อสาธารณะเสียก่อน

หลังจากที่ผมตั้งคำถามไป ก็ปรากฏว่าเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ลงคำชี้แจงที่มีสาระซ้ำๆ กับที่ กทค. เคยชี้แจงก่อนหน้านั้นแล้ว

โดยไม่ได้ตอบคำถามที่สำคัญหลายข้ออีกเช่นเดิม โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ได้อธิบายข้อสงสัยต่างๆ อย่างชัดเจนแล้ว” “คำถาม 10 ข้อที่ตั้งมาเป็นประเด็นเดิมๆ ที่นำเสนอข้อเท็จจริงเพียงส่วนเดียว” และ “หาก กทค. ไปตอบคำถาม 10 ข้อดังกล่าว ก็จะทำให้สังคมเกิดความสับสนหนักขึ้นไปอีก” และยังกล่าวหาผมว่า “พยายามเบี่ยงเบนประเด็น”

ผมประหลาดใจมากต่อท่าทีล่าสุดของสำนักงาน กสทช. เพราะท่าทีดังกล่าวกำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นที่ว่า ลำพังการตั้งคำถามโดยไม่ได้วิจารณ์อะไร ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งนับว่าไปไกลกว่าท่าทีก่อนหน้านั้นของ กทค. และสำนักงาน กสทช. ซึ่งก็ไม่เป็นมิตรต่อการวิพากษ์วิจารณ์ และความเห็นที่แตกต่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ในประเด็นสาธารณะเรื่องการต่ออายุการใช้งานคลื่น 1800 MHz คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผู้เห็นแตกต่างจากท่านจำนวนไม่น้อย

ไม่เฉพาะผมและนักวิชาการจากทีดีอาร์ไอเท่านั้น แต่ยังมีนักกฎหมาย นักวิชาการ สื่อมวลชน ภาคประชาสังคม และประชาชนจำนวนมากที่แสดงออกในเครือข่ายสังคม (Social Media) และตั้งข้อสังเกตถึงความชอบด้วยกฎหมายของการดำเนินการของ กทค.

ต่อประเด็นสาธารณะเช่นนี้ ผมมีความเห็นว่า กทค. และสำนักงาน กสทช. ในฐานะเจ้าหน้าที่และองค์กรของรัฐที่อาศัยงบประมาณและได้ค่าตอบแทนจากทรัพยากรสาธารณะ ไม่ควรจะพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและกล่าวโทษผู้อื่นอีกต่อไป

แต่ควรตอบคำถาม 10 ข้อต่อไปนี้ต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา

ตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ท่านไม่ทราบหรือว่าสัมปทานของ True Move และ DPC จะหมดอายุภายในเดือนกันยายน 2556?

ท่านไม่ทราบหรือว่า แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ของ กสทช. ที่ท่านมีส่วนร่วมจัดทำออกมาเมื่อเดือนเมษายน 2555 กำหนดให้คืนคลื่นเมื่อสัมปทานหมดอายุ?

ท่านไม่ทราบหรือว่ากฎหมาย กสทช. ห้ามต่ออายุสัมปทาน และให้จัดสรรคลื่นโทรคมนาคมด้วยการประมูลเท่านั้น?

ท่านไม่ทราบหรือว่าอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. เคยให้ความเห็นในกรณีที่คล้ายกัน (กรณีคลื่น 800 MHz) ว่าไม่สามารถขยายเวลาการใช้คลื่นได้ และนักวิชาการด้านกฎหมายจำนวนมาก ก็แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกัน?

ท่านเคยขอความเห็นจากหน่วยงานด้านกฎหมายภายนอก เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา หรือแม้กระทั่งอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. เอง ก่อนมีมติต่อเวลาการใช้คลื่นหรือไม่ หรือท่านเข้าใจไปเองว่าสามารถทำได้?

ท่านได้แจ้งให้ผู้ใช้ของ True Move และ DPC ทราบล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ปี 2555 หรือไม่ว่า สัมปทานดังกล่าวจะหมดอายุลง?

ท่านได้ห้าม True Move และ DPC ขายบริการเกินอายุสัมปทาน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมาหรือไม่?

ท่านได้เร่งดำเนินการให้ผู้ใช้บริการจำนวนมากสามารถโอนย้ายข้ามเครือข่าย (Mass Number Portability) เพื่อลดปัญหาผู้ใช้บริการติดค้างอยู่ในโครงข่ายสัมปทานที่จะหมดอายุหรือไม่?

ท่านได้เร่งจ้างที่ปรึกษาเพื่อตีราคาคลื่นและออกแบบการประมูลคลื่น 1800 MHz หรือไม่ ก่อนที่จะอ้างว่าประมูลคลื่นไม่ทัน?

เวลากว่า 420 วัน นับตั้งแต่ประกาศแผนแม่บทฯ จนถึงวันที่ท่านมีมติขยายเวลาการใช้คลื่น ยังไม่เพียงพออีกหรือในการแก้ปัญหา หากท่านปฏิบัติงานตามหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ?

ผมหวังอย่างยิ่งว่าท่านจะตอบคำถามดังกล่าวเป็นข้อๆ อย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่น่าจะมีคำถามใดๆ ที่เกี่ยวข้องประเด็นสาธารณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ ซึ่งอ้างว่าได้ดำเนินการไปอย่างซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สะดวกใจที่จะตอบ