posttoday

เปิดเบื้องหลังคดียักยอกสหกรณ์ฉาว

12 กรกฎาคม 2556

เปิดเบื้องหลังคดีฉาว "สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น" ดำเนินคดีผู้บริหารข้อหายักยอกเงิน1.2หมื่นล้านบาท

เปิดเบื้องหลังคดีฉาว "สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น" ดำเนินคดีผู้บริหารข้อหายักยอกเงิน1.2หมื่นล้านบาท

การสั่งอายัดและดำเนินคดีกับ ผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เกี่ยวกับการข้อหาการยักยอกเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท กับ ถือว่าเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนวงการสหกรณ์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ว่าที่ผ่านจะมีข่าวฉาวการโกงเงินของผู้จัดการสหกรณ์ ต่างๆออกมากย่างต่อเนื่องก็ตาม

ไล่เรียงลำดับจุดระเบิดถล่มสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น และมีการมีการสาวใส้ฟ้องร้อง นกล่าวหานายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครคิดยูเนียนคลองจั่น ยักยอกทรัพย์สหกรณ์ขณะดำรงตำแหน่งประธานเมื่อ ปี 2552-2554 มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท พร้อมกับการอายัดทรัพย์กว่า2,000 ล้านบาท

จุดเริ่มต้นจากการแย่งชิงอำนาจระหว่าง 2 ขั้ว คือ นายมณฑล กันล้อม กับ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร มีการแย่งชิงอำนาจที่จะขึ้นเป็นประธานสหกรณ์เครคิตยูเนียนฯ และในช่วงที่นายมณฑลเป็นประธานสหกรณ์ฯได้มีการเปิดประเด็นความไม่โปร่งใสการบริหารงานของนายศุภชัยในช่วงการดำรงตำแหน่งเป็นประธานสหกรณ์ฯ

โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.56 นายมณฑล ได้ส่งหนังสือเวียนถึงสมาชิกสหกรณ์ หนังสือเรื่องแจ้งผลการกำกับดูแลการปฏิบัติของสหกรณ์ โดยลงวันที่ 7 ก.พ. 2556 มีใจความว่า จากผลการตรวจบัญชีของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น พบการปล่อยสินเชื่อที่ผิดระเบียบและมีข้อน่าสงสัย 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การปล่อยกู้จำนวน 27 ราย เป็นยอดหนี้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยลูกหนี้ทุกรายไม่มีการถือหุ้นตามข้อบังคับของสหกรณ์ บางรายหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ครอบคลุมกับมูลหนี้ บางรายเป็นการค้ำประกันเงินกู้ด้วยบุคคล มี 2 รายที่ไม่มีหลักประกันหนี้ รวมทั้งลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นไปตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญากู้

และประเด็นที่ 2 คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นลูกหนี้เงินยืมทดรอง ประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งไม่มีการระบุวัตถุประสงค์ในการยืมเงิน รวมทั้งกำหนดเวลาในการชำระคืนด้วย

จากนั้นสถานการณ์ในเดือนเม.ย.สหกรณ์เครคิตยูเนียนฯเริ่มที่ระส่ำ มีสมาชิกจำนวนมากติดต่อขอถอนเงินปันผล โดยทางสหกรณ์ฯ แจ้งว่าจะให้ถอนได้จำกัดต่อคน ได้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยให้เหตุผลว่ามีการเปลี่ยนมือผู้บริหารกะทันหัน จึงต้องไปยื่นเปลี่ยนชื่อกรรมการกับทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินที่สหกรณ์นำไปฝากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ไม่ทัน โดยหลังเทศกาลสงกรานต์จะให้สมาชิกถอนเงินปันผลได้เต็มจำนวน

ต่อมาวันที่ 20 เม.ย. นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น พร้อมทีมผู้บริหารสหกรณ์ ชุดที่ 28 เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและขอความคุ้มครองกรณีถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีขู่คุกคามและขัดขวางการดำเนินงานจนทำให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารงานภายในสหกรณ์ โดยนายมณฑล กล่าวว่า หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ ชุดที่ 28 เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ตรวจพบข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีผู้ยักยอกเงินของสหกรณ์ โดยใช้วิธีการฉ้อโกงออกไปมูลค่าสูงกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

วันที่ 28 พ.ค. มีการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2555 ครั้งที่ 1/2555 โดยที่ประชุมได้เลือกนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการฯ

วันที่ 30 พ.ค. นายปฏิพันธ์ จันทรภูติ อดีตที่ปรึกษาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พร้อม สมาชิกประมาณ10 คน ได้หอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง 2 ลังกระดาษ เข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น และขอให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนคดียักยอกทรัพย์หรือฉ้อโกงทรัพย์ของสหกรณ์เป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

บทบาทหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลสหกรณ์ ความพยายามเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยที่จะยุติปัญหาของสหกรณ์เครดิตยูเนียน ฯ โดยเมื่อเดือนพ.ค. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ว่า คพช.มีมติให้ตั้งกรรมการ เพื่อหาทางออกในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ภายใน 1 สัปดาห์ โดยมีนายโอภาส กลั่นบุศย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธาน โดยตั้งประเด็นการแก้ไขปัญหา 2 เรื่องคือ 1. เรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนผู้ฝากเงินที่เป็นสมาชิก ที่ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ และ 2. เรื่องการปล่อยกู้ให้สมาชิกสมทบจำนวน 27 คนในวงเงินที่สูงมากถึง 12,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 เรื่องกรรมการที่ตั้งขึ้นจะต้องหาข้อสรุป เพราะไม่ใครกล้าที่จะเข้าไปแตะ เพราะผู้บริหารสหกรณ์เครดิตฯปัจจุบัน มีความชิดใกล้ชิด

กับ อดีตนักการเมืองหญิงชื่อดัง ชื่อย่อ ส. ถึงขนาดมีการตั้งให้เกียรติชื่อห้องใน ยู ทาว์เวอร์ จึงต้องยืมมือดีเอสไอและปปง.เข้าไปจัดการ

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.ค. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จับมือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เดินทางไปที่สำนักงานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด เลขที่ 1 ซอยเสรีไทย 7 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยนำหมายค้นศาลอาญา เข้าแสดงต่อนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ เพื่อเข้าตรวจค้นหาหลักฐานภายในห้องทำงาน หลังจากสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ตรวจสอบผู้บริหารสหกรณ์ต้นสังกัด ฐานยักยอกหรือฉ้อโกงทรัพย์ หลังพบว่าเบิกเงินสหกรณ์ไปใช้ผิดระเบียบกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

ต่อมาทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินการรับไว้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีการเบิกเงินดังกล่าว ไปประกอบธุรกิจส่วนตัวทำให้เกิดรายได้ พร้อมเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพวกอีก 6 คน ในคดียักยอกทรัพย์ ตามกฎหมายฟอกเงินและกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯ กับพวก จำนวน 336 รายการไว้ชั่วคราว ตาม ม. 48 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เพื่อดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าว ที่เป็นที่ดินในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ปทุมธานี พิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครราชสีมา เชียงราย และกรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 319 แปลง เนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท รถยนต์ จำนวน 8 คัน มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท และเงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 9 บัญชี ประมาณ 1 ล้านบาท หากพบเป็นทรัพย์สิน จากการกระทำความผิดต้องดำเนินการยึดและอายัดตามกฎหมาย

สำหรับประวัติการก่อตั้ง สหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จัดตั้งเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2556 ถือกำเนิดขึ้นจากผู้นำ 3 คน ที่ร่วมเข้ารับการอบรมดังกล่าว คือ นายวิวัฒน์ พัฒนศักดิ์สุธี นายมณฑล กันล้อม และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร โดยปัจจุบัน นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ชุดที่ 29

โดยข้อมูลทางการเงินประจำปี 2555 มีสมาชิกสามัญและสมทบ 52,683 คน สินทรัพย์ 21,790 ล้านบาท เงินรับฝาก 14,484 ล้านบาท เงินให้กู้ยืม 15,073 ล้านบาท รายได้ 2,011 ล้านบาท รายจ่าย 1,576 ล้านบาท กำไรสุทธิ 436 ล้านบาท โดยสหกรณ์ยูเนียนเครดิตคลองจั่น มีสมาชิกและสินสินทรัพย์อันดับหนึ่งของสหกรณ์เครดิตยูเนียนทั้งหมดที่มีประมาณ ทั้งหมด 561 แห่ง

นี่เป็นเพียงการเปิดฉากแรกการเข้าไปตรวจสอบความโปร่งใสว่ามีการยักยอกเงิน 1.2 หมื่นล้านบาทจริงหรือไม่ และวัดฝีมือดีเอสไอและปปง.ในการตามล่าเงินที่ยักยอกไป โดยมีสมาชิกที่ฝากเงินให้สหกรณ์เครดิตยูเนียนแห่งนี้ 5 หมื่นคนเป็นตัวประกัน และยังไม่นับรวมสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆที่ที่ขนเงินมาฝากไว้ที่นี้ ต้องย้อนถามหน่วยงานที่กำกับดูแลสหกรณ์ต้องทบทวนตัวเอง และต้องเข้มงวดมากขึ้นเพราะเคทนี้ได้กระทบกับความเชื่อมั่นและต่อกระทบต่อภาพรวมสหกรณ์ทั้งระบบทั่วประเทศกว่า 13,500 แห่งทั่วประเทศ สินทรัพย์กว่า 2 ล้านล้านบาท มีสมาชิกเกี่ยวข้องกว่า11.11 ล้านคน