คลิปสะบั้นสัมพันธ์รัฐบาล กองทัพ

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

คลิปเสียงบทสนทนาระหว่างบุคคลที่ว่ากันว่าละม้ายคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ยังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง แม้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะออกมาปฏิเสธและโยนว่าเป็นเรื่องของการตัดต่อ

ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมา ไม่ว่าจะเป็นกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ไม่ยาก เพื่อสร้างความกระจ่างในประเด็นต่างๆ

เมื่อเนื้อหาในบทสนทนานั้นล้วนแต่เป็นประเด็นร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นความพยายามรุกคืบเข้าไปแทรกแซงกองทัพจากฝ่ายการเมือง หรือการตระเตรียมวางแผนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต กับการพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน ที่ล้วนแต่จะเป็นชนวนปลุกความขัดแย้งในสังคมให้กลับมาอีกรอบ

ไม่ทันต้องรอให้คลิปนี้ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ ประการใด แต่แรงสั่นสะเทือนจากคลิปสนทนาไม่กี่นาทีที่กระจายว่อนอินเทอร์เน็ต ก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ คงไม่อาจสนิทใจได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อผลกระทบรอบนี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของกองทัพไม่น้อย ช

ที่สำคัญ เมื่อเนื้อหาในคลิปที่ปรากฏออกมาถือเป็นการ “ตอกย้ำ” ความพยายามจากฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูกแทรกแซงกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นการสานสัมพันธ์กับ ผบ.เหล่าทัพ ในปัจจุบันที่ส่วนหนึ่งยังถูกมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจมาตั้งแต่รัฐประหาร ขณะที่อีกด้านหนึ่งยังพยายามเตรียมจัดวางคนที่ไว้วางใจได้ไปเสียบในตำแหน่งที่ใกล้จะหมดวาระ

“ตอนนายกฯ ไปมาเลเซียเอาไอ้ ผบ.ทบ.ไปด้วย มันก็แฮปปี้ มันบอกพี่ คอยกระซิบนายกฯ ตลอด อะไรควรอะไรไม่ควรเรื่องความมั่นคง ผมก็เดินกระซิบนายกฯ ตลอด ผมว่ามันดี แต่นายกฯ นี่ ได้ทั้งใจ ได้ทั้งความจริงใจ ได้ทั้งความเชื่อถือของ ผบ.เหล่าทัพ ตอนนี้มากเลย”

เนื้อหาบางช่วงของคลิปเสียงสนทนา ดูจะสอดรับกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ที่กองทัพดูจะเป็นมิตรกับรัฐบาลมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

ยิ่งกว่านั้นบางช่วงในบทสนทนาที่กล่าวถึงแผนการออก พ.ร.ก.ที่ว่าจะนำไปสู่การปูทางกลับบ้าน ซึ่งเตรียมดันเรื่องเข้าสู่สภากลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนให้ ครม.เดินหน้าออกเป็น พ.ร.ก. ถึงขั้นระบุชัดเจนว่า

“นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ”

“ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหารก่อน ผมถึงบอกต้องเอาทหารก่อน”

คลิปที่หลุดออกมาเที่ยวนี้ย่อมทำให้กองทัพต้องระมัดระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ให้กลายสถานะเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง ที่จะถูกนำไปเพิ่มน้ำหนักเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ต้องการของรัฐบาล ยังไม่รวมกับการวางตัวต่อกันที่ไม่อาจสนิทใจได้เหมือนเดิม

เป้าใหญ่ที่ถูกจับจ้องเวลานี้หนีไม่พ้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่ถูกพาดพิงกรณีให้ “แสดงฝีมือให้ท่านเห็น” ซึ่งจะยิ่งทำให้ทั้งสองคนถูกจับตาจากสาธารณะมากยิ่งขึ้น รวมทั้งประเด็นเรื่องความสนิทสนมระหว่าง พล.อ.ธนะศักดิ์ กับ ผบ.สส.พม่า ที่เชื่อมโยงต่อไปถึงโครงการต่างๆ ในทวาย ซึ่งจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้น ถัดมาที่จะถูกจับจ้องคือ ตำแหน่ง ผบ.ทร. ซึ่ง พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. กำลังจะเกษียณในเดือน ก.ย.นี้ และในคลิปเสียงคนเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจะเชียร์ พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานที่ปรึกษา ทร.

แม้เส้นทางดูจะเป็นไปได้ยาก เมื่อเวลานี้ ชื่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รอง ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.จักรชัย ภู่เจริญยศ เสธ.ทร. ดูจะมาแรง แต่หากสุดท้าย พล.ร.อ.อมรเทพ ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ทร. ย่อมเป็นการตอกย้ำถึงผู้มีบารมีนอกกองทัพ

แต่สิ่งที่ดูจะสะเทือนกองทัพมากที่สุด คือ เนื้อหาที่พูดถึงวาระดำรงตำแหน่งของ ผบ.เหล่าทัพหลายคนที่จะเกษียณในปี 2557 เกลี้ยงทุกเหล่าทัพ “เลือกเอาเองสบาย”

นั่นยังต้องทำให้จับตาไปไกลถึงโฉมหน้า ผบ.เหล่าทัพ ที่จะขึ้นมาทำหน้าที่หลังปี 2557 ว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. หรือ พล.อ.ธนะศักดิ์ หรืออาจจะรวมไปถึง พล.ร.อ.ณรงค์ พล.ร.อ.จักรชัย และ พล.ร.อ.อมรเทพ ที่จะเกษียณพร้อมกันหมด ซึ่งจะต้องดูว่าฝ่ายการเมืองจะเข้ามาชี้นิ้วเลือกใครขึ้นมาทำหน้าที่ได้จริงหรือไม่

ระหว่างนี้คงต้องรอดูงานเลี้ยงซึ่ง ผบ.สส. เป็นเจ้าภาพ เชิญนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มาร่วมรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพทั้งหลายในวันที่ 16 ก.ค.ว่าจะชื่นมื่นสนิทใจกันมากน้อยเพียงไร