posttoday

ศึกดอนเมืองพ่ายสั่นคลอนเพื่อไทย

17 มิถุนายน 2556

ช็อกตาตั้งทั้งพรรคเพื่อไทยเมื่อศึกชิง สส.เขตดอนเมือง ผลพลิกตาลปัตร “อี้” แทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์

โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวานิช


ช็อกตาตั้งทั้งพรรคเพื่อไทยเมื่อศึกชิง สส.เขตดอนเมือง ผลพลิกตาลปัตร “อี้” แทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์ เฉือนชนะ “แซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ไปแบบเฉียดฉิว 32,751 ต่อ 30,357 คะแนน

พลิกประวัติศาสตร์ให้ “พรรคพระแม่ธรณี” ที่ไม่เคยได้รับสิทธิครองพื้นที่เขตดอนเมืองมาถึง 37 ปี กลับมามีเก้าอี้ผู้แทนในพื้นที่นี้ได้อีกครั้ง

ประเมินชัดๆ สาเหตุพ่ายของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้มีหลายปัจจัย ทั้งตัวผู้สมัคร ความขัดแย้งในพรรค เเละความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ตลอดจนสถานการณ์การเมืองล้วนต่างเทส่วนผสมให้ผลการเลือกตั้งคลอดออกมาในสูตรที่พรรคเพื่อไทยต้องกุมขมับไปหลายเดือน

สาเหตุแพ้ครั้งนี้ นอกเหนือจากตัวผู้สมัคร “ยุรนันท์” ที่ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อมาลงพื้นที่หาเสียงได้เพียง 18 วัน ขณะเดียวกัน “แทนคุณ” ที่ผิดหวังจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาใช้เวลา 2 ปีคลุกคลีกับประชาชนแล้ว ความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยยังกำลังสะท้อนสัญญาณจากประชาชนที่ส่งถึงรัฐบาลอย่างน่าสนใจ

ต้องยอมรับว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลถูกโจมตีอย่างหนักด้วยโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐมนตรีไม่สามารถหาตัวเลขขาดทุนที่แท้จริงมาลบล้างตัวเลขขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ที่ฝ่ายค้านนำมาโจมตีได้ ขณะที่กลุ่มต้านรัฐบาลอย่าง “หน้ากากขาว” ที่สั่งสมกระแสต้านมาอย่างต่อเนื่อง กลับเรียกเสียงแอนตี้พรรคเพื่อไทยได้จนถึงจุดปะทุจากเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ลุกขึ้นมาขับไล่กลุ่มหน้ากากขาวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่วงหน้าการลงคะแนนเลือกตั้งเพียงวันเดียว

ผสมโรงด้วยการเสียชีวิตของ เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ แม้การสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการสังหารจะชัดเจนว่าเกิดจากคนขับรถในปมต้องการทรัพย์สิน แต่ด้วยภาพลักษณ์เเละวีรกรรมของเอกยุทธที่ตอบโต้รัฐบาลขั้วทักษิณ ชินวัตร อย่างดุเดือดถึงพริกถึงขิงที่ผ่านมา ผนวกกับข้อพิรุธในคดีสังหารหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งปิดคดี ยังทิ้งเชื้อสร้างข้อครหาให้รัฐบาลว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสังหารดังกล่าว

นอกเหนือจากแรงโจมตีจากนอกพรรค สถานการณ์ภายในเพื่อไทยเป็นที่ทราบดีว่า แกนนำพรรคไร้ความเป็นเอกภาพในการช่วยผู้สมัครชิงตำแหน่ง เนื่องจากการคัดเลือกบุคคลเลือกตั้งซ่อมแทน การุณ โหสกุล อำนาจการตัดสินใจตกเป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เคาะแคนดิเดตเองกับมือ ส่งผลให้ขั้วตรงข้ามและแกนนำหลายส่วนในพรรคที่ไม่ลงรอยกับ “เจ๊หน่อย” ปล่อยเกียร์ว่าง ไม่เต็มที่กับศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้

ขณะที่ “เด็กเจ๊” อย่าง “เก่ง การุณ” เอง แม้ได้ชื่อว่าคุมฐานเสียงแน่นหนาในเขตดอนเมือง แต่กรณีที่ศาลฎีกาตัดสิทธิเลือกตั้งทางการเมืองถึง 5 ปี ท่ามกลางการจับตามองแบบไม่กะพริบตาของพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้ขวัญใจแม่ยกอย่าง การุณ หอบบุคลิกมืออ่อน ปากหวานลงไปไม่ทั่วถึงชาวบ้าน ทำได้เพียงหลบหลังฉากสั่งการเบื้องหลังเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ความปราชัยของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ที่ถือเป็นป้อมปราการใหญ่ฝั่งตะวันออกครั้งนี้ส่งผลลบต่อเพื่อไทยอย่างมหาศาล และฝังลึกในระยะยาวด้วย

ผลร้ายประการแรกที่เห็นผลทันที คือ มือ สส.ในสภาของเพื่อไทยหายไป 1 มือ เก้าอี้ สส.กทม.ของพรรคจากที่น้อยเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว 10 จึงเหลือเพียง 9 เก้าอี้ แต่กรณีนี้ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับ “เจ้าที่” อย่าง การุณ ต้องจำยอมปล่อยให้ แทนคุณ เข้ามาเป็น สส. เปิดทางให้ขั้วประชาธิปัตย์กลับมาฝังรากในพื้นที่ดอนเมืองอีกครั้ง แน่นอนว่าอำนาจการดึงงบประมาณและโครงการลงพื้นที่ย่อมเปิดโอกาสให้ สส.ประชาธิปัตย์เร่งทำคะแนนกับประชาชนได้ไม่ยาก และอาจเป็นฝันร้ายของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่อีก 2 ปีอันใกล้

และหากมองในระยะยาวยิ่งกว่านั้น คือ พรรคเพื่อไทยจะสูญเสีย “คลังเสียง” ของโซนไข่ขาวใน กทม.แห่งนี้ที่มีกว่า 1 แสนรายชื่อที่เป็นบุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งให้แก่ขั้วประชาธิปัตย์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นแค่ฐานเสียงสำคัญในศึกเลือกตั้งทั่วไป แต่เป็นอีกหัวใจหลักในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะศึกชิงพ่อเมืองที่เพิ่งผ่านพ้นมา เขตดอนเมืองสามารถเรียกแต้มให้ พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้ถึง 4 หมื่นคะแนน

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงอนาคตของ“ตัวพรรค” เพื่อไทยใน “พื้นที่เมืองกรุง” เท่านั้นที่เสี่ยงต่อการดับวูบลง แต่อนาคต “ตัวบุคคล” ใน “พื้นที่พรรค” ก็อาจเจอทางตัไปด้วยเช่นกัน

สปอตไลต์หลังจากนี้จึงต้องส่องไปที่ “คุณหญิงสุดารัตน์” ที่ระยะหลังหลายศึกเลือกตั้งในเขตเมืองกรุงที่ผ่านมา แม่ทัพหญิงผู้นี้เสื่อมมนต์ขลังลงเรื่อยๆ ตั้งแต่สนามเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2554 ที่ สส.เพื่อไทยพลาดเป้าคว้าได้เพียง 10 ที่นั่ง และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา พงศพัศ จำต้องพ่ายให้กับประชาธิปัตย์ ก่อนจะตอกย้ำด้วยผลเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมืองที่เพื่อไทยต้องคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เป็นเขตเดิมที่เจ๊หน่อยเคยลงสมัคร

วาทะของ “เจ้าแม่เมืองกรุง” ก่อนหน้านี้ที่เอ่ยปากยืนยันว่าจะไม่ลงสมัคร สส. ไม่รับเก้าอี้รัฐมนตรี อาจส่งสัญญาณชัดว่า เจ๊หน่อยเองอาจรู้ซึ้งพิกัดที่ยืนในพรรคเเละสถานการณ์ตัวเองเวลานี้เป็นอย่างดี จนกระแสข่าวการย้ายพรรคเริ่มส่อเค้าว่าจะเกิดขึ้นจริง เพียงแต่ว่าอาจจะยิ่งเกิดเร็วขึ้นก็เพราะความล้มเหลวจากการเลือกตั้งซ่อมในเขตดอนเมืองสดๆ ร้อนๆ ที่ผ่านมา