posttoday

สินเชื่อเดี้ยงตามการเมือง

16 เมษายน 2553

สินเชื่อธนาคารจะโตหรือไม่โตก็ขึ้นอยู่กับการลากยาวของปัญหาการเมืองด้วย ซึ่งก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะผ่าทางตันในเรื่องนี้ได้

สินเชื่อธนาคารจะโตหรือไม่โตก็ขึ้นอยู่กับการลากยาวของปัญหาการเมืองด้วย ซึ่งก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะผ่าทางตันในเรื่องนี้ได้

โดย...ทีมข่าวการเงิน

ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะแตกต่างกับไตรมาสแรกราวกับหนังคนละม้วน

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการชุมนุมที่ยืดเยื้อทางการเมือง และได้เกิดความรุนแรงขึ้นจนถึงกับมีการเสียเลือดเนื้อของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก็ทำให้ทุกหน่วยงานพยากรณ์เศรษฐกิจเริ่มที่จะเอาปัจจัยทางการเมืองเพิ่มน้ำหนักในการประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้

ในไตรมาสแรกนั้นมีความชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีมาก โดยมีการส่งออกเป็นตัวผลักดันสำคัญ และการที่ตลาดหุ้นขึ้นได้ส่งผลให้ความมั่งคั่งของนักลงทุนมีมากขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรดี ทำให้มีการบริโภคในประเทศมากขึ้น

สินเชื่อเดี้ยงตามการเมือง

สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ก็เริ่มมีการปล่อยเพิ่ม จากที่ชะลอตัวมากในปีที่ผ่านมา โดยภาคเอกชนให้ความเชื่อมั่นในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านโครงการประชานิยม ที่รัฐบาลนี้แปลงชื่อใหม่ให้มาเป็นรัฐสวัสดิการ และโครงการกระตุ้นการลงทุน ที่ดำเนินการภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง

ในไตรมาสแรกของปีนี้ ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งยิ้มหน้าบาน เพราะปล่อยกู้ได้ตามเป้า หลายธนาคารก็สูงกว่าเป้าหมาย

สินเชื่อที่เป็นพระเอกก็คือสินเชื่อโครงการ สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเคหะที่รีบเร่งปล่อยกู้กัน เพราะมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีธุรกิจเฉพาะจะหมดเขตในกลางปีนี้

สำหรับสินเชื่อบุคคลที่ขยายตัวเพิ่มนั้น มาจากการอัดอั้นของผู้บริโภคที่ชะลอการใช้จ่ายในช่วงปีที่แล้ว มาเริ่มมั่นใจใช้จ่ายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

ตัวอย่างที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการก็คือ ธนาคารกรุงไทย ที่ยิ้มแก้มปริเมื่อไตรมาสแรกสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดใหญ่ 2 เดือนแรกของปีนี้สามารถขยายสินเชื่อเพิ่มกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 2 เท่าตัว

สินเชื่อที่ธนาคารอนุมัตินั้นส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจด้านพลังงาน ธุรกิจภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมและชิ้นส่วน รวมทั้งธุรกิจบริการ นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและรอเซ็นสัญญาอยู่อีกเกือบ 100 ราย เป็นวงเงินรวมประมาณ 6 หมื่นล้านบาท

ผู้บริหารของธนาคารมั่นใจว่าในช่วงตลอดไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีสัญญาณที่ดีในด้านการขยายธุรกิจ โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่มีการเจรจาขอสินเชื่อกับธนาคาร เพื่อขยายการลงทุน คาดว่าในปี 2553 จะมีการทยอยเบิกใช้วงเงินโดยเฉพาะโครงการด้านพลังงานและรับเหมาก่อสร้างกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

และธนาคารอื่นๆ ก็พูดออกมาในทางเดียวกันว่าสินเชื่อขยายตัวดี

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์คาดการณ์ว่าสินเชื่อของระบบธนาคาร สำหรับทั้งปี 2553 อาจเติบโตได้สูงถึง 10%

แต่เมื่อเริ่มไตรมาส 2 ของปีนี้ ทุกธนาคารเริ่มติดกับดักการเมือง เพราะการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน และยังไม่รู้ว่าการชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีจะจบลงเมื่อใด

การชุมนุมยืดเยื้อยาวนานนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ก็ระบุว่า สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจวันละ 300-500 ล้านบาท

การต่อเนื่องยาวนานนี้ได้สร้างความเสียหายแห่งธุรกิจท่องเที่ยว การค้าส่งและค้าปลีก ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต้อง|รีบกลับมาทบทวนการให้สินเชื่อกับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยด่วน

นอกจากจะชักร่มกลับ ชะลอการปล่อยกู้แล้ว ยังกลัวว่าลูกค้าจะกลายเป็นหนี้เสียอีกด้วย เพราะขายของไม่ออก ไม่มีรายได้มาจุนเจือธุรกิจ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาชำระเงินกู้

ดังนั้น ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ภาพรวมของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์อาจจะชะลอตัวลงหนัก แบบหนังคนละเรื่องกับเมื่อต้นปี เพราะธนาคารพาณิชย์วิตกกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา

ภาคเอกชนคงจะต้องดิ้นรนหนีตายด้วยการรีบเข้าเจรจากับธนาคารเจ้าหนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ไปก่อน และในที่สุดจะมีการยื่นขอต่อรัฐบาลให้เยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง ขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

ฉะนั้น ฟันธงได้เลยว่า หากปัจจัยในประเทศยังไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะปัญหาการเมืองที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ สินเชื่อปีนี้ของธนาคารไม่มีทางโตได้ถึง 10% จะโตอย่างเก่งได้ก็แค่ 6.0-7.0%

ที่ฟันธงไปเช่นนั้น หากพิจารณาในรายละเอียดแล้ว พบว่าส่วนหนึ่งของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นมาจากการกู้ยืมเงินของภาครัฐ ซึ่งมักเป็นสินเชื่อระยะสั้น ขณะที่สินเชื่อที่ให้กับภาคครัวเรือนบางส่วนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยชั่วคราว ที่รัฐบาลออกโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพ

ฉะนั้น สินเชื่อธนาคารจะโตหรือไม่โตก็ขึ้นอยู่กับการลากยาวของปัญหาการเมืองด้วย ซึ่งก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะผ่าทางตันในเรื่องนี้ได้ในบรรยากาศประเทศแบบนี้ การทำธุรกิจก็ลำบากฝืดเคือง