posttoday

"ครม.ปู 5" ปลดสายล่อฟ้าลดแรงเสียดทาน

05 มิถุนายน 2556

หากไม่นับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพียง 2 ที่นั่งแทนตำแหน่ง ชุมพล ศิลปอาชา เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

โดย...ชุษณ์วัฏ ตันวานิช

หากไม่นับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพียง 2 ที่นั่งแทนตำแหน่ง ชุมพล ศิลปอาชา เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นเวลาร่วม 7 เดือน ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไร้วี่แววการปรับ ครม.ครั้งใหญ่ เพราะล่าสุดที่ปรับจนรัฐมนตรีมีอันหลุดจากเก้าอี้ถึง 13 ราย คือ การปรับ ครม.ปู 3 ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค. 2555

กระแสข่าว “ครม.ปู 5” ช่วงนี้จึงหนาหูเป็นพิเศษ กลุ่มก๊วนในพรรคเพื่อไทยเริ่มขยับเส้นสาย โดยเชื่อว่าหลังการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2557 เสร็จสิ้นไป เป็นอันได้เห็นรูปร่างโฉมหน้าของ ครม.ยิ่งลักษณ์ชุดใหม่อย่างแน่นอน

แต่จนแล้วจนรอด ท่าทีจากคนแดนไกลประกอบกับสัญญาณไฟจากนายกฯ หญิงกลับขยายเวลาออกไป ไม่ปรับเก้าอี้ในช่วงนี้ แต่จะอาศัยฤกษ์ดีครบรอบ 2 ปีของการบริหารประเทศ เดือน ส.ค. ปรับ ครม.ปู ครั้งใหญ่ในช่วงกลางเทอมของรัฐบาล

โดยเสนาบดีที่เสี่ยงหลุดจากตำแหน่งนั้น แรงสั่นคลอนอยู่ที่เก้าอี้รัฐมนตรีที่เหนียวหนึบโผ ครม.มา 2 ปีเต็ม ถึงเวลาต้องเตรียมสละที่นั่งให้แกนนำเเละ สส.อาวุโสของพรรครายอื่น

อย่างไรก็ตาม บรรดา รมต.สายแข็งของ 3 พี่น้องตระกูลชินวัตร อย่าง “ดร.ปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เจ้ากระทรวงบัวแก้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง รวมถึง บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ยังคงเหนียวหนึบต่อไป โดยเฉพาะ “สารวัตรเหลิม” ที่ปฏิบัติหน้าที่กันชนรัฐบาลได้ไม่ขาดตกบกพร่อง

แต่ที่ตัวร้อนผ่าวๆ เห็นจะเป็น 3 รัฐมนตรี ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ “เสี่ยแมว” วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึง ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เหนียวหนึบเก้าอี้มาเกือบครบ 2 ปีเช่นกัน เเต่สำคัญที่ระยะหลังกลับแปรสภาพเป็น “รัฐมนตรีสายล่อฟ้า” เรียกแขกโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ “ปลอดประสพ” ที่สยบม็อบด้วยการลาดน้ำมันบนกองไฟ จากการให้สัมภาษณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โจมตีเครือข่ายภาคประชาชนด้านน้ำที่ต่อต้านการประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชียแปซิฟิก ว่า “...เหมือนขยะ” ทั้งยังขู่จับกุมผู้ประท้วงไปดำเนินคดี เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเป็นวงกว้างจนภาคประชาชนและสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนออกโรงต้าน มิหนำซ้ำยังถูกฝ่ายค้านนำไปย้อนเกล็ดว่ารัฐบาล 2 มาตรฐานเสียเอง เพราะในเวลาไล่เลี่ยกัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อนุญาตให้คนเสื้อแดงมีสิทธิชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่เหตุใดม็อบน้ำจึงถูกรัฐบาลข่มขู่ถึงขั้นมีการจับกุม

ด้าน “เสี่ยแมว” วรวัจน์ ล่าสุดเจอความขัดแย้งอย่างหนักจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่คนในออกมาประท้วงแต่งชุดดำไล่ พร้อมแจกใบปลิวฉีกหน้ากากโจมตี วรวัจน์ เหตุตัดงบโครงการของ สวทช. กว่า 900 ล้านบาท แต่กลับดึงงบประมาณลงพัฒนาจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะ จ.แพร่ ที่ “เสี่ยเเมว” คุมพื้นที่ อีกทั้งคนในยังเเฉว่า วรวัจน์ เเผ่ขยายอำนาจ ส่งเครือญาติ ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ขึ้นสู่ประธานคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (บอร์ด กวทช.) อีกด้วย

ขณะที่เจ้ากระทรวงทรัพยากรฯ “ปรีชา” แม้รอดพ้นจากการเลื่อยขาเก้าอี้หวุดหวิดจากการปรับ ครม.ปู 3 ที่ผ่านมา แต่ครั้งหน้าอาการหนัก ล่าสุดเกือบปลุกม็อบส่วนท้องถิ่นให้รัฐบาลก่ายหน้าผากเล่น จากการกล่าวเปิดงานที่ จ.เลย ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องให้แก้กฎหมายยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เนื่องจากงบประมาณและการทำงานซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนฝ่ายค้านและกลุ่ม อบจ.หลายจังหวัดดาหน้าออกมาถล่ม ส่งผลให้ทั้งกระทรวงมหาดไทยและพรรคเพื่อไทยต้องปฏิเสธข่าวพัลวัน

ไม่เพียง “3 รมต.สายล่อฟ้า” แต่ “3 มท.” ของกระทรวงคลองหลอด จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ประชา ประสพดี ยังติดโผถูกโละออกยกแผงเช่นกัน เนื่องจากทำงานไม่บรรลุเป้า ไม่เท่านั้น ทางด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เองยังมีเสียงเเว่วว่าทั้งนายกฯ และกองทัพไม่ค่อยปลื้มการทำงาน จนการปรับ ครม.ครั้งหน้าชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล มีสิทธิเด้งตามไปด้วย

ทั้งนี้ รายชื่อแกนนำพรรคอาวุโสรายอื่นจ่อคิวเสียบเก้าอี้ที่น่าสนใจ อาทิ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ภายหลังหลุดโผการปรับ ครม.หลายครั้ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย สส.บัญชีรายชื่อ ที่แนวโน้มในการเสียบตำแหน่งประธานรัฐสภาแทน “ขุนค้อน” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ยังคงริบหรี่ จึงอาจสลับสับเปลี่ยนโควตาเก้าอี้มานั่งกระทรวงมหาดไทยแทน

ที่น่าจับตาไม่แพ้กัน คือ โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภาและอดีตรองนายกรัฐมนตรี หลังพ้นโทษเเบน 5 ปี ก็รับหน้าที่เป็นมวยหลักลุยศึกแก้รัฐธรรมนูญให้พรรคตลอดปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้แม้จะแต่งตัวรอในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่ปรับ ครม.รอบหน้า อาจได้เห็นเซียนกฎหมายมหาชนผู้นี้ในฐานะเจ้ากระทรวง

นับถอยหลังเข้าสู่เดือน ส.ค.นี้ สถานการณ์การเมืองอาจส่งเเรงกระเพื่อมทั้งทางฝ่ายนิติบัญญัติเเละบริหาร เพราะนอกจากจะต้องจับตาการแก้ไขเเละผลักดันกฎหมายร้อนที่มาพร้อมการเปิดประชุมสภาเเล้ว ยังต้องรอลุ้นว่าใครร่วงใครรอดจากการปรับ ครม.กลางเทอมรัฐบาลด้วย