สั่งลุยร่าง "วรชัย" ปูทาง "เฉลิม" นิรโทษแม้ว

โดย...ชุษณ์วัฎ ตันวานิช

จังหวะเดินเกมรุกดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี สลับกับการสไกป์ของ “นายใหญ่เพื่อไทย” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านเวทีราชประสงค์ 19 พ.ค. กำลังเดินตามกระดานการเมืองไม่มีผิดเพี้ยน

หากจำกันได้ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เวอร์ชั่น “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ อันเป็นร่างต้นตำรับ “นิรโทษเหมาเข่ง” ถูกดันเข้าสภาลัดคิวเป็นวาระเร่งด่วนเมื่อเดือน มิ.ย. 2555 กลายเป็นชนวนร้อนสร้างความโกลาหลทั้งในนอกสภา เนื่องจากมีชื่อ “ทักษิณ” ติดร่างแหรับอานิสงส์นิรโทษ

ก่อนหน้านั้น วันที่ 19 พ.ค.ปีเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์ มายังเวทีครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ ส่งสัญญาณขอให้เสื้อแดงเสียสละ ปล่อยวาทะทิ่มแทงใจ “...พี่น้องขับเรือมาถึงฝั่ง แต่ไม่ต้องแบกเรือมาส่งผมบนเขา” จนหลายฝ่ายฟันธง “ทักษิณ” ทิ้งคนเสื้อแดง ยอมนิรโทษทุกฝ่ายทั้งทหาร ผู้สั่งการ รวมถึงตัวเองให้ได้สิทธินิรโทษ แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน เพราะดันปลุกกระแสความไม่พอใจให้คนเสื้อแดงจน “ทักษิณ” ต้องแก้เกมจ้าละหวั่น

กลางปี 2555 ออกหน้าโดย “พลทหารสนธิ” แต่ปี 2556 ถึงคิว “สารวัตรเหลิม” รับไม้อาสาพานายใหญ่กลับบ้านด้วยร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 6 มาตรา ร่างใหม่ คนชงใหม่ แต่โมเดลเดิม คือ นิรโทษทุกฝ่าย ทั้งทักษิณ ประชาชน ทหาร ไม่เว้นแม้แต่ผู้สั่งการปราบปรามคนเสื้อเเดง

หลังโยนหินถามทางไม่เกินสัปดาห์ ปรากฏว่าเสียงต่อต้านจากกลุ่ม “แดงอิสระ” เริ่มกระหึ่มขึ้น สไกป์เวทีราชประสงค์ปีนี้ เเน่นอนว่า “ทักษิณ” เคยได้รับบทเรียนมาเเล้ว จึงแก้เกม ไม่ออกโรงหนุนนิรโทษผู้สั่งการ โดยประกาศลั่นหนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับ วรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และกลุ่ม 40 สว. ที่ชงนิรโทษกรรมเฉพาะมวลชน ไม่เหมารวมแกนนำ ผู้สั่งการ ส่วนร่างปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม แม้ไม่ออกปากหนุน ...แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ส่งสัญญาณห้ามแต่อย่างใด

จับทิศทางจากการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชัดเจนว่ามีมติรับลูกบัญชานายใหญ่ เพราะมติพรรคยืนยันผลักดัน พ.ร.บ.ฉบับ วรชัย โดยไม่มีวาระกฎหมายอื่นสอดไส้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ รองฯ เฉลิม พ่วง 152 สส.นั้น เน้นย้ำว่าพรรคไม่มีมติสนับสนุน ...แต่ที่ประชุมเห็นว่าขณะเดียวกันก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ สส.สามารถเสนอร่างกฎหมายต่อสภาได้

สัญญาณไม่หนุน แต่ไม่ห้าม จึงทำให้เห็นพาวเวอร์ของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เตรียมผนึกกำลังกับ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมแดงรักอุดร ประกาศระดมพล 5 หมื่น เข้าร่วมการปราศรัยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ภายใต้ธีม “ทวงคืนทักษิณ” ที่สนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี วันที่ 24 พ.ค.นี้

ทั้งยังมอบหมายให้ พีรพันธุ์ พาลุสุข สส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายเตรียมความพร้อมในการยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองต่อประธานสภา วันที่ 23 พ.ค.นี้ เพื่อเข้าคิวพิจารณาในสมัยประชุมหน้า

ไม่เท่านั้น ตามมาตรา 5 ของร่าง พ.ร.บ.ที่ระบุให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง อันเป็นมาตราที่เข้าข่ายร่างกฎหมายการเงิน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องเซ็นรับรองก่อนชงสู่สภา ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการลาก นายกฯ เข้าสู่แดนประหารทางการเมืองนั้น สารวัตรเหลิม ตัดสินใจยกออกทั้งมาตรา เรียกว่าฟอกร่าง พ.ร.บ.จนสะอาดปลอดภัย ไร้แรงเสี่ยง

เหลือชนักสำคัญที่เรียกแขก คือ อานิสงส์ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับสิทธินิรโทษ แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่เดิมออกมาถล่มรายวันอยู่แล้ว จะเตรียมถล่มอีกชั้นทันทีที่ร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่สภา แต่ยังรวมถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เน้นย้ำปัจจัยในการเคลื่อนพลมาเสมอว่า นิรโทษคนชื่อทักษิณเมื่อใด ได้เห็นพันธมิตรฯ บนพื้นถนนเมื่อนั้น

เหลียวซ้ายแลขวาต้องยอมรับว่าเหตุที่ร่าง พ.ร.บ.ของ วรชัย ฝ่าแรงต้านทั้งจากฝ่ายประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ ได้สำเร็จ เป็นเพราะเนื้อความในมาตรา 3 ที่นิรโทษมวลชนทุกกลุ่มสี ไม่รวมแกนนำ ผู้สั่งการ จึงหลุดรอดการอภิปรายในสภาลัดคิวไปจ่อวาระแรกของการประชุมสมัยหน้าได้สำเร็จ อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากแนวร่วมเสื้อแดงที่ไม่ต้องการเห็นการนิรโทษผู้สั่งการด้วย

ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษของแกนนำเสื้อแดงสมุทรปราการรายนี้ จึงเป็นทางเลือกเดียวเพื่อเข็นกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภา เพราะฝ่าแรงต้านได้ทั้งขั้วตรงข้ามและฝ่ายเดียวกัน

แต่ด้วยข้อจำกัดของร่าง พ.ร.บ.ที่แลกเบี้ยแต่ทิ้งขุน เพื่อไทยจึงต้องเดินหมากหลายทาง นอกจากเข็นร่างฯ วรชัย เเล้ว ยังต้องส่งร่างปรองดองของรองนายกฯ เฉลิม ยื่นเข้าสภาด้วยคาดหวังว่าให้นำไปประกบร่างในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการแปรญัตติเนื้อหาร่างที่มีหลักการคล้ายกัน

เเต่เส้นทางร่างปรองดองเฉลิมหลังจากนี้ใช่ว่าจะราบรื่น เพราะหลังจากยื่นต่อประธานสภาเเล้ว ต้องนำมาสู่การบรรจุระเบียบวาระที่ประชุม และหากจะดันร่างให้ผ่านฉลุยไปถึงชั้นการตั้งกรรมาธิการ ต้องได้รับเสียงเห็นชอบในสภาทั้งการเลื่อนพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วนเเละการรับหลักการในวาระเเรก

เดือน ส.ค.นี้ทันทีที่เปิดสภา จึงต้องลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่าผลที่ได้จากการเดินหมากสองทางดันสองร่างโมเดลนิรโทษนั้น รองนายกฯ เฉลิม จะนำร่างปรองดอง 5 มาตรา ฝ่าเเรงต้านได้สำเร็จหรือไม่ หากฉลุย เเน่นอนว่าย่อมเป็นผลดีต่อทักษิณเเละเพื่อไทย เเต่หากล่มขึ้นมา ไม่เพียงเเต่ร่างฯ เฉลิม จะเหลวเท่านั้น เเต่จะส่งให้ร่างนิรโทษประชาชนของ “วรชัย” ติดหล่มไปด้วย