posttoday

จำนำข้าวร้าวฉาน"คลัง-พาณิชย์" ประสานงา

18 มกราคม 2556

โครงการรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท รอบสองของรัฐบาล เริ่มออกอาการเป๋ไปเป๋มาให้เห็น

โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

โครงการรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาท รอบสองของรัฐบาล เริ่มออกอาการเป๋ไปเป๋มาให้เห็น ไม่ราบรื่นสดใสเหมือนรอบแรกที่ใช้เงินไปถึง 3.5 แสนล้านบาท ในการรับจำนำข้าว 18 ล้านตัน

ตั้งแต่เริ่มโครงการรับจำนำข้าวรอบสอง กระทรวงพาณิชย์เสนอวงเงินกู้รับจำนำรอบใหม่ถึง 4.05 แสนล้านบาท เพื่อรับจำนำข้าว 26 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวนาปี 2555/2556 จำนวน 15 ล้านตัน วงเงิน 2.4 แสนล้านบาท และเป็นข้าวนาปรัง 11 ล้านตัน 1.65 แสนล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ

แต่ปรากฏว่า ครม.ต้องเบรกเงินกู้จำนำข้าวก้อนโตดังกล่าว เพราะหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลังท้วงติงว่า การรับจำนำข้าวใช้เงินกู้มากเกินไป จะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้นจนมีปัญหาทางการคลังตามมา เพราะหากปล่อยให้กู้อีกรอบสองตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมา จะทำให้เงินกู้ที่ใช้รับจำนำข้าวสูงถึง 78 แสนล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายของประเทศ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลตีกรรเชียงถอย โดยที่ให้ ครม.อนุมัติกรอบวงเงินกู้ 1.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้รับจำนำข้าวนาปีที่ผลผลิตออกก่อน ส่วนเงินที่ขาดอยู่ 7 หมื่นล้านบาท ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินมารับจำนำรอบใหม่

ส่วนการรับจำนำข้าวนาปรังรอบใหม่อีก 11 ล้านตัน ที่ต้องใช้เงินประมาณ 1.65 แสนล้านบาท รัฐบาลกักไว้ก่อน เพื่อสอยเงินกู้การจำนำข้าวรอบใหม่ให้น้อย ไม่เป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายค้านและนักวิชาการ

การแก้ผ้าเอาหน้ารอดของรัฐบาล ทำให้มติ ครม. กู้เงินรับจำนำข้าวรอบใหม่เป็นแค่ลมปาก ไม่สามารถปฏิบัติให้สอดคล้องกับสภาพที่เกิดขึ้นจริงได้

เพราะการรับจำนำข้าวนาปีรอบใหม่ของรัฐบาลมีการรับจำนำข้าวไปแล้ว 7.85 ล้านตัน เป็นเงิน 1.13 แสนล้านบาท ใช้เงินกู้ไป 5 หมื่นล้านบาท เป็นเงินที่กระทรวงพาณิชย์จ่ายคืนมา 2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการใช้เงินสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปก่อน ในระหว่างรอเงินกู้จากกระทรวงการคลังเข้ามาสมทบ

จะเห็นว่าการใช้เงินกู้รอบใหม่ใกล้เต็มเพดาน 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่เงินขายข้าวคืนจากกระทรวงพาณิชย์ไม่มีความคืบหน้าที่จะมีล็อตใหม่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลทำให้เงินการรับจำนำข้าวล็อตใหม่ชอร์ตได้ ทำให้ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกมากดดันให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินมารับจำนำรอบใหม่

เพราะก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวใช้เงินคืนให้ ธ.ก.ส. ที่ใช้สภาพคล่องของธนาคาร 9 หมื่นล้านบาท รับจำนำข้าวรอบแรกไปก่อนเพียง 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น โดยเงินที่ได้มาก่อนใช้ไปรับจำนำข้าวนาปรังพิเศษของรอบแรกไปแล้ว 2 หมื่นล้านบาท ทำให้เงินเหลือใช้รับจำนำข้าวนาปีรอบใหม่แค่ 2 หมื่นล้านบาท

ส่วนสภาพคล่องที่เหลืออีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ที่ ธ.ก.ส. ออกไปให้ก่อน ทางกระทรวงพาณิชย์เคยสัญญาว่าจะใช้คืนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่มาถึงต้นปีนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววจะมาเมื่อไหร่ ทำให้กระทรวงการคลังในและ ธ.ก.ส. ในฐานะที่ต้องรับหน้าเสื่อกู้เงิน และสำรองสภาพคล่องใช้ในการรับจำนำข้าวจึงนั่งไม่ติด

ส่งผลให้ บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ถึงกับลมออกหูออกมาล้งเล้งใส่กระทรวงการคลังทันทีว่า อย่ามาจุ้นเรื่องระบายข้าว มีหน้าที่กู้เงินก็กู้ให้ครบ แถมยังสวนหมัดทวงเงินกู้ล็อตแรก 2.69 หมื่นล้านบาท ที่ใช้จำนำข้าวรอบแรกที่ยังกู้ไม่ครบขาดไปอีก 4.9 หมื่นล้านบาท ทำให้การรับจำนำข้าวรอบใหม่สะดุดมีปัญหาอย่างที่เห็นอยู่

การออกมาแลกหมัดกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงการคลังกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เหมือนเป็นการเปิดข้อมูลเน่าที่ซุกไว้อยู่ใต้พรมให้สาธารณชนได้เห็นว่า โครงการรับจำนำข้าวทำให้ประเทศถังแตกสร้างหนี้ก้อนโต จนข้าราชการที่เป็นผู้ปฏิบัติต้องกุมขมับ

ขณะที่การระบายข้าวไม่ออกที่ไปรับจำนำข้าวสูงกว่าราคาตลาดเท่าตัว และการระบายข้าวมีการทุจริตของนักการเมืองร่วมกับนายทุน ทำให้การระบายข้าวหยุดชะงักข้าวค้างโกดังเป็นจำนวนมาก

ยิ่งมีข้าวแพลมออกมาว่า กระทรวงการคลังจะเสนอขอ ครม.กู้เงินเพิ่มอีก 7 หมื่นล้านบาท เพื่อมาใช้โครงการรับจำนำข้าวนาปีรอบใหม่ ยิ่งเป็นการฟ้องชัดว่าการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์มีปัญหาไปไม่รอด

เรื่องการกู้เงินมาโปะเพิ่มก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นเกาเหลาของกระทรวงการคลังกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อ กิตติรัตน์ ณ ระนอง เจ้ากระทรวงการคลัง ออกมายืนยันว่า จะไม่มีการกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อมารับจำนำข้าว เพราะจะใช้เงินจากการระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ ทำให้การรับจำนำข้าวรอบใหม่อลเวง ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาโปะ เงินระบายข้าวก็ไม่มี เงินกู้เพิ่มก็มีปัญหาถูกเบรก

ปัญหาจึงตกหนักที่ ธ.ก.ส. ที่ต้องใช้สภาพคล่องของธนาคารโปะโครงการรับจำนำก้อนโตจนหลังแอ่น

ที่ผ่านมาใช้สภาพคล่องของธนาคารไปแล้ว 9 หมื่นล้านบาท ได้คืนมาก็ใช้กลับไปรับจำนำทั้งรอบพิเศษและรอบใหม่จนหมดแล้ว และตอนนี้ยังต้องมาแบกเพิ่มจากเงินขายคืนข้าวรอบแรกไม่มาตามนัด และเงินกู้รอบใหม่ถูกเบรก ทำควักเนื้ออุ้มโครงการรับจำนำเพิ่มจนไม่มีเงินปล่อยกู้สินเชื่อปกติ

วิกฤตโครงการรับจำนำข้าวที่เริ่มผุดให้เห็นเป็นไปตามที่นักวิชาการหลายคนท้วงติงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นจะสร้างหนี้ก้อนโตจำนวนมหาศาลให้กลับประเทศ จนเป็นปัญหาการคลัง ซึ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏให้เห็นว่า ทั้งคลังและ ธ.ก.ส. หลังแอ่นทั้งคู่ในการแบกเงินกู้โครงการรับจำนำข้าว

รวมเงินกู้ถึงขณะนี้เป็นภาระดอกเบี้ยปีละ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสุดท้ายหนีไม่พ้นนำเงินภาษีไปโปะใช้คืน

ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวรอบแรกจะเสียหายไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้เป็นการประเมินที่เกินเลย เพราะ ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ก็ออกมายอมรับว่าการจำนำข้าวจะขาดทุนปีละ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งความเสียหายดังกล่าวคำนวณแค่ขายได้ราคาต่ำกว่าที่รับจำนำเท่านั้น ยังไม่รวมต้นทุนค่าบริหารจัดการอีกปีละ 3 หมื่นล้านบาท

เฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้อีกปีละไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ทำวิจัยออกมาว่า โครงการรับจำนำข้าวจะเสียหายปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้มีแค่ 17% หรือ 1.7 หมื่นล้านบาท เท่านั้นที่ตกอยู่ในมือชาวนาที่ยากจน ส่วนที่เหลือ 83% หรือ 8.3 หมื่นล้านบาท ตกอยู่ในมือชาวนาที่มีฐานะ นักการเมือง พ่อค้า นายทุน และเจ้าของโรงสี

และที่ผ่านมาฝ่ายค้านยังได้อภิปรายความไม่ชอบมาพากลของการระบายข้าวของรัฐบาล ที่บอกว่าเป็นการขายแบบจีทูจี แต่หลักหลักฐานปรากฏว่ารัฐบาลไทยขายข้าวให้เอกชน และมีคนใกล้ชิดนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องการซื้อขาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องจากฝ่ายค้านว่าตรวจสอบเอาผิดแล้ว

นอกจากยังมีปัญหาข้าวไทยเสียแชมป์การส่งออก เพราะราคาข้าวไทยสูง ทำให้ผู้ค้าหนีไปซื้อข้าวจากอินเดียและเวียดนาม ส่งผลให้ทั้งสองประเทศแซงไทยขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งและสอง ขณะที่ไทยถูกเขี่ยจากอันดับหนึ่งมาอยู่อันดับสาม ขายข้าวไม่ออกกองอยู่ในโกดังที่ยิ่งวันยิ่งเสื่อมสภาพ ทำให้เข้าเนื้อขาดทุนมากขึ้นทุกวัน

ก่อนหน้านี้ เสียงค้านของนักวิชาการถูกรัฐบาลมองข้ามเพราะความเสียหายยังไม่ปรากฏ แต่วันนี้น้ำลดต่อผุด ขยะที่ซุกไว้ไต้พรมส่งกลิ่น กลบไม่มิด ทำให้รัฐบาลชิ่งไม่ออกนั่งไม่ติด

แม้แต่กระทรวงการคลังที่เป็นผู้หาเงินมารับจำนำข้าว กับกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นผู้รับจำนำและระบายข้าวยังแตกคอกันอย่างหนัก เป็นปมร้าวที่แสดงให้เห็นว่าวิกฤตโครงการรับจำข้าวเริ่มปะทุขึ้นแล้ว

นี่แค่รอบใหม่ผ่านมายังไม่ได้ครึ่งทาง หน่วยงานของรัฐเกี่ยงกันหาเงินกันมาโปะโครงการจนมองหน้ากันไม่ติดขนาดนี้ ยังมีการรับจำนำข้าวนาปรังรอบใหม่ ที่ประเมินว่าชาวนาจะระดมปลูกกันเพื่อมาจำนำกับรัฐบาลพุ่งขึ้นถึง 2 แสนล้านบาท จะส่งผลให้ปมร้าวทั้งกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์รุนแรงมากขึ้นกว่านี้

ขณะที่รัฐบาลจนมุมอับหาทางแก้ไม่ออก ได้แต่นอนจมอยู่บนกองหนี้ก้อนโตและกองข้าวกองใหญ่ที่ขายไม่ออก