posttoday

สุกำพล...แตกหักศึกชิงปลัดกลาโหม

28 สิงหาคม 2555

เด้งฟ้าผ่า!!! พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปนั่งตบยุงที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

เด้งฟ้าผ่า!!! พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปนั่งตบยุงที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามคำสั่ง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2521

นับเป็นสัญญาณ “แตกหัก” ภายในกระทรวงกลาโหม ที่ทำท่าจะบานปลายหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จากจุดเริ่มต้นแค่ “การงัดข้อกันเอง” ระหว่างบิ๊กทหารฝั่งเพื่อไทยด้วยกัน ที่ต้องการดันคนของตัวเองขึ้นเก้าอี้ปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่

ศึกชิงดำเก้าอี้ปลัดกลาโหม ระหว่าง “พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน” ผช.ผบ.ทบ. ที่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.อ.สุกำพล กับ “พล.อ.ชาตรี ทัตติ” รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีแรงหนุนจาก พล.อ.เสถียร นำมาสู่ปัญหาที่ตกลงกันไม่ได้ เมื่อต่างไม่มีใครยอมใคร

เรื่องนี้บานปลายกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่เกิดความขัดแย้งในการแต่งตั้งโยกย้าย จนลุกลามไปถึงขั้น “ปลัดกลาโหม” ร้องเรียน “รมว.กลาโหม” ซึ่งเป็นนายของตัวเอง

โดย พล.อ.เสถียร ทำหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพุ่งเป้าตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงกลาโหม” ซึ่งถูก พล.อ.อ.สุกำพล กดดันให้เสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์

อีกด้านหนึ่ง มีรายงานด้วยว่า พล.อ.เสถียร ได้เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รวมทั้งนำสำเนาบัญชีรายชื่อโยกย้าย มอบให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

สุกำพล...แตกหักศึกชิงปลัดกลาโหม

ประเด็นที่ พล.อ.เสถียร นำมาอ้างคือ ตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงกลาโหม” จะต้องพิจารณาจากพลเอกที่ครองอัตราจอมพลก่อน ขณะที่ พล.อ.ทนงศักดิ์ ยังไม่ได้ครองอัตราจอมพล พร้อมกับผลักดัน พล.อ.ชาตรี แทน แม้จะยังมีผู้ถกเถียงในประเด็นระเบียบที่ยังไม่ชัดเจน

ทว่าเสียงค้านอีกด้านหนึ่งเห็นว่า พล.อ.ชาตรี เป็นรุ่นน้อง ตท.14 เกษียณอายุราชการปี 2558 น่าจะเปิดทางให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ตท.11 เกษียณอายุ ปี 2556 ขึ้นมาก่อน ซึ่งเหมาะสมกับการมายืนเป็นหัวแถวของ ผบ.เหล่าทัพ ตท.12 ตท.13 มากกว่า ในขณะที่ พล.อ.ชาตรี ยังมีเวลาอีกนานในการก้าวสู่ตำแหน่งปลัด

มองลึกๆ แล้ว ความขัดแย้งของกองทัพรอบนี้ เหมือนจะเป็นหน้าฉากตัวแทนความขัดแย้งของ “เพื่อไทย” ที่อยู่เบื้องหลัง

อย่าลืมว่า การกระโดดมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เสถียร นั้นเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีแรงหนุนจาก “บิ๊กเพื่อไทย” โดยเฉพาะผ่านช่องทาง “ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์” ผู้เป็นภรรยา ซึ่งมีฐานะเป็นนายกเทศมนตรี ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทยในพื้นที่

นั่นหมายความว่า พล.อ.เสถียร ก็นับเป็น “สายแข็ง” ที่มีแรงหนุนจากบิ๊กเพื่อไทย แม้ทางเพื่อไทยเองจะเห็นว่าตำแหน่งปลัดกลาโหมที่ผ่านมาถือว่าตอบแทนกันหมดสิ้นแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก

ครั้งนั้นว่ากันว่า ทำให้ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ต้องพลาดเก้าอี้ปลัดกระทรวงกลาโหมไปในที่สุด ทั้งที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ขณะนั้น ประกาศหนุนสุดตัว

ขณะที่ พล.อ.ชาตรี เป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากนั้น ภริยาของ พล.อ.ชาตรี ยังสนิทสนมกับภริยาของ พล.อ.เสถียร เป็นพิเศษ

ที่สำคัญ พล.อ.อ.สุกำพล เพื่อนร่วมรุ่น ตท. 10 กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับความไว้วางใจให้มาเป็น “ตัวกลาง” เชื่อมรัฐบาลกับกองทัพ แทน พล.อ.ยุทธศักดิ์ นั้น ย่อมสะท้อนสัมพันธ์อันแนบแน่น

งานวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อปลายเดือน ก.ค. พล.อ.อ.สุกำพล บินไปร่วมแฮปปี้เบิร์ธเดย์เพื่อนซี้ที่เกาะฮ่องกง หลังจากนั้นไม่นาน เขาพา พล.อ.ทนงศักดิ์ เข้าพบ ยิ่งลักษณ์ ประหนึ่งการดูตัวว่าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผช.ผบ.ทอ. ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

เดิมที หากไม่มีคำสั่งเด้งฟ้าผ่า พล.อ.เสถียร ว่ากันว่างานนี้อาจต้องวัดกันในการโหวตของที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพล ตาม พ.ร.บ.กลาโหม ปี 2551 ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรก

ส่องดูคณะกรรมการ 6 คน คือ รมว.กลาโหม, ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผบ.สส., ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. เสียงส่วนใหญ่ ทั้ง พล.อ.อ.สุกำพล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. น่าจะเทน้ำหนักไปทาง พล.อ.ทนงศักดิ์

มีเพียง พล.อ.เสถียร ที่น่าจะโหวตให้ พล.อ.ชาตรี ส่วน พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.11 ของ พล.อ.เสถียร จะช่วยหนุน พล.อ.ทนงศักดิ์ ในฐานะ ตท.11 ด้วยกันหรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน

แต่เพื่อสลายภาพลักษณ์ความแตกแยกไม่ให้ถูกขยายผลออกไป ทางคณะกรรมการจึงเตรียมพูดคุยหาข้อยุติให้ได้ ตัดตอนไม่ให้นำไปสู่การโหวต

“เป็นพี่เป็นน้องกันสามารถพูดคุยกันได้ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมถือเป็นหน่วยที่สูงกว่าและมีอำนาจในการที่จะเอาใครก็ได้ในเหล่าทัพไปอยู่ไหนก็แล้วแต่ ทั้งนี้จะต้องได้ความเห็นชอบจาก ผบ.เหล่าทัพด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. กล่าว

ประเด็นที่น่าสนใจเวลานี้อยู่ที่คำสั่งเด้งฟ้าผ่าของ พล.อ.อ.สุกำพล ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 5 มาตรา 9 และมาตรา 24 พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2521 ย้ายทั้ง พล.อ.เสถียร รวมไปถึง พล.อ.ชาตรี รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.30 ก.ย.

นั่นหมายถึงย้าย พล.อ.เสถียร ไปตบยุงสำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนเกษียณอายุราชการ ส่วนการพ่วงย้าย พล.อ.ชาตรี ถูกมองว่าเป็นการเคลียร์ทางให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ ก้าวสู่ตำแหน่งได้ง่ายขึ้น

ทว่าความขัดแย้งรอบนี้จะเดินหน้าไปสู่การฟ้องร้องเอาผิด พล.อ.อ.สุกำพล หรือไม่ กับคำสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม และจะบานปลายกลายเป็นการกระทบกระทั่งระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ หรือจะตัดตอนปิดฉากความขัดแย้งรอบนี้ลงไป เพราะต่างก็รู้กันดีว่าเบื้องหลังความขัดแย้งทั้งหมดต่างก็เป็นคนกันเองทั้งนั้น หากจะเดินหน้าหักหาญกันต่อไป ก็มีแต่จะ “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ”