posttoday

พท.พลิกเกมใช้ "คอป." เครื่องหมายปรองดองตัวใหม่!

20 เมษายน 2555

นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศย้ำถึงความต้องการกลับประเทศไทยในปีนี้

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศย้ำถึงความต้องการกลับประเทศไทยในปีนี้ บรรดาเครือข่ายในควบคุมของนายใหญ่ ต่างเร่งนำมาปฏิบัติขยายผลทันที

กระทั่งมีการเสนอสารพัดสูตรสร้างความปรองดองแตกต่างกันออกไป โดยไม่สนเสียงทัดทานว่าใครจะมองอย่างไร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ บัญชาลงมาแล้วว่า “Let it be ช่างมัน” เป็นการเป่านกหวีดให้เดินหน้าเต็มสูบ ไม่ใส่ใจเสียงนกเสียงกา

การสร้างความปรองดองตามของพรรคเพื่อไทย แม้จะมีหลายกระบวนท่า แต่หลักการที่ตรงกัน คือ การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถือเป็นรูปธรรมมากที่สุดสำหรับการย้อนเวลาประเทศไทยกลับไปเหมือนไม่มีเหตุการณ์วันที่ 19 ก.ย. 2549 เกิดขึ้น

แนวทางหนึ่งที่ต้องจับตากรณี “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” รมว.ต่างประเทศ หนึ่งในคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอให้รัฐบาลใช้ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ให้เข้ามามีส่วนสำคัญต่อกระบวนการก่อร่างสร้างกฎหมายนิรโทษกรรม

จะด้วยความพลั้งปากหรือพูดเอาใจนาย ไม่มีใครทราบได้ แต่การจุดประเด็นนี้ขึ้นมา ได้เกิดกระแสทั้งในแง่บวกและลบขึ้นมาทันที

ด้านหนึ่งมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากมีจุดประสงค์เพื่อแก้ลำใหม่ หลังต้องตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอยู่นานสองนาน

ตั้งแต่การใช้บางตอนจากรายงานวิจัยเรื่องการสร้างความปรองดองของ สถาบันพระปกเกล้า เกี่ยวกับการล้างคดีอาญาที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมต่อยอดเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ทว่าเกิดกระแสตีกลับอย่างรุนแรงว่าใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ตัวเอง ใช้อำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมาล้มอำนาจตุลาการ

พท.พลิกเกมใช้ "คอป." เครื่องหมายปรองดองตัวใหม่!

 

แถมต้องเผชิญกับข้อครหาว่ากำลังทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะเรื่องสำคัญอย่างปัญหาปากท้องประชาชนกลับยังไม่เห็นความชัดเจนจากรัฐบาลที่จะเร่งรีบแก้ไข นอกจากบอกให้ประชาชนปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกาภิวัตน์

จากปัญหาดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจึงต้องปรับแนวทางกันใหม่ หวยจึงไปออกที่ “คอป.” เพื่อใช้เป็นหมากในยุทธวิธีเดินเกมปรองดองใหม่

ความจริง รัฐบาลชุดนี้ค่อนข้างให้ความเอาใจใส่กับ คอป.ไม่น้อย ทั้งที่เป็นคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

เป็นเพราะท่าทีของ คอป.ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับแกนนำเสื้อแดงและมวลชน ต้องได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดีในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่การสู้คดีโดยที่ยังใส่โซ่ตรวนจนกระทั่งศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว

ส่งผลให้ คอป.กลายเป็นมรดกรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เพียงสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ ผิดกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ (คปร.) ของ อานันท์ ปันยารชุน หรือสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย ของหมอประเวศ วะสี ต้องตกงานทันทีที่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่

เมื่อ คอป.มีท่าทีเป็นคุณต่อรัฐบาลเพื่อไทย ประกอบกับเป็นหน่วยงานที่ฝ่ายค้านให้กำเนิดสมัยเป็นรัฐบาล จึงกลายเป็นช่องว่างให้พรรคเพื่อไทยฉวยเอามาใช้เป็น “ตัวช่วย” เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการนิรโทษกรรม เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย พรรคเพื่อไทยก็ย้อนศรได้ว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นคนตั้ง คอป.มากับมือ

กลับมาที่เกมขณะนี้ ถ้าเป็นไปตามที่แกนนำเพื่อไทยประกาศ ก็รออีกสักพักประมาณ 34 เดือน เพื่อรอรายงานสุดท้ายฉบับสมบูรณ์จาก คอป.ที่จะนำเสนอออกมาทิ้งทวนก่อนหมดวาระในเดือน ก.ค.

จากนั้น คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปค.อป.) ที่มี ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณาตรา พ.ร.บ.ปรองดองเสนอต่อรัฐสภา

ทุกอย่างดูเหมือนง่ายแต่อาจเกิดความลำบากระหว่างนี้ เนื่องจาก คณิต ณ นคร ประธาน คอป.ประกาศชัดเจน ไม่เล่นเกมนี้กับพรรคเพื่อไทย

“ยืนยันว่าในรายงานของ คอป.ทุกฉบับ ไม่เคยพูดถึงการนิรโทษกรรม หรือการล้มคดี คตส. แต่การปรองดองของ คอป.คือจะต้องไม่รวบรัดและต้องใช้เวลา เราใช้วิชาการไม่ได้ใช้ความรู้สึกทำงาน หากจะมีการบิดเบือนจริงๆ ทุกคนในสังคมก็ต้องช่วยกันตรวจสอบให้กับทาง คอป.อีกทางหนึ่งด้วย”

จุดยืนของ คณิต ไม่ต่างอะไรกับการติดเบรกรัฐบาลและป้องกันไม่ให้ คอป.ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของรัฐบาล แบบนี้ยิ่งทำให้เส้นทางการปรองดองฉบับพรรคเพื่อไทยมีความลำบากมากขึ้น

ครั้นหากฝืนลาก คอป.มาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมด้วย หนีไม่พ้นการถูกตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรม เพราะหากพรรคเพื่อไทยจะนำข้อเสนอของ คอป.มาปฏิบัติจริงก็ควรหยิบมาให้หมด

เพราะหนึ่งในประเด็นที่ คอป.เสนอในรายงานฉบับที่ 3 ที่ออกมาล่าสุดย้ำชัดว่า ปมที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างปัญหาทางการเมือง คือ คดีซุกหุ้นภาคแรกเมื่อปี 2544

“คอป.เห็นว่า การละเมิดหลักนิติธรรมโดยกระบวนการยุติธรรมอันเป็นรากเหง้าของปัญหา เกิดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 295 หรือคดีซุกหุ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ มิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง” สาระสำคัญจากรายงาน คอป.

ถามว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมจะเสนอให้นำคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งชนะไปในชั้นศาลแล้ว มาปัดฝุ่นเหมือนกับความพยายามจะให้นำคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แพ้ในศาลมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพื่อจะได้ลบคำครหาว่าความยุติธรรมในนิยามของพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็น “ความยุติธรรมของผู้ชนะ” เพียงอย่างเดียว

ถ้าทำไม่ได้และไม่กล้าทำ ก็เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยมีคำว่าความยุติธรรมของผู้ชนะเป็นเครื่องหมายการค้าตัวใหม่ให้สังคมเป็นที่ประจักษ์จนอาจนำมาซึ่งปัญหาเป็นเงาตามตัว

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยแต่เพียงฝ่ายเดียวว่า จะเดินหน้าเพื่อความปรองดองตามจินตนาการของตัวเอง หรือจะถอยเพื่อป้องกันความขัดแย้ง