posttoday

หัวส่าย...หางกระดิกสารพัดสูตรนิรโทษ จุดชนวนประเทศวิกฤต

19 เมษายน 2555

ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้จังหวะเทศกาลสงกรานต์โคจรรอบประเทศไทยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้จังหวะเทศกาลสงกรานต์โคจรรอบประเทศไทยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศยืนยันหนักแน่นว่าจะกลับบ้านในปีนี้ให้ได้

ส่งผลให้เครือข่ายพรรคเพื่อไทยออกมาเปิดเผยแนวทางการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองรองรับแนวคิด “นายใหญ่” กันอย่างล้นหลาม

เท่าที่สกัดได้ในขณะนี้มีอย่างน้อย 6 แนวทาง

1.นพดล ปัทมะ ถือว่ามีความใกล้ชิดกับนายใหญ่มากที่สุดในฐานะเป็นที่ปรึกษากฎหมาย โดยมือขวา พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้นี้เสนอให้ออก พ.ร.บ.ปรองดอง ผ่านกระบวนการของพรรคการเมืองขนาดเล็กหรือภาคประชาชนไม่ใช่จากพรรคเพื่อไทย เพื่อป้องกันเสียงครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนน้อง (ยิ่งลักษณ์) ช่วยพี่ (ทักษิณ)

หากมองถึงความเป็นไปได้ถึงแนวทางนี้นับว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงพอสมควร เพราะสถานะของ นภดล ที่ผูกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน พรรคขนาดเล็กอย่างพรรคชาติไทยพัฒนา หนึ่งในพันธมิตรตลอดกาลของอดีตนายกฯ ทักษิณได้ออกมาตอบรับแนวทางนี้ทันที

สะท้อนได้จากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “บรรหาร ศิลปอาชา” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

“ขณะนี้บรรยากาศการปรองดองยังเป็นไปด้วยดี ซึ่งหากออกเป็นกฎหมายปรองดองได้ก็เป็นเรื่องดี โดยต้องออมชอมกันทุกฝ่าย”

หัวส่าย...หางกระดิกสารพัดสูตรนิรโทษ จุดชนวนประเทศวิกฤต

 

2.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เป็นขุนพลข้างกาย พ.ต.ท.ทักษิณอีกรายหนึ่ง โยนหินถามทางสร้างความปรองดองด้วยการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อสภาผู้แทนราษฎรภายใน 34 เดือน และเนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องมีฐานจากข้อมูลของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

แนวทางนี้ใช้ คอป.เป็นฐานสร้างความชอบธรรมกับการปรองดอง หลังจากก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยใช้งานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า แต่ไปไม่รอดเนื่องจากถูกโจมตีหนักจึงเปลี่ยนมายืมมือ คอป.ซึ่งทำงานด้านการปรองดองแห่งชาติอยู่

เป็นไปได้ว่าถ้า คอป.มีรายงานผลการศึกษาออกมาอย่างสมบูรณ์คาดว่าภายในไม่กี่เดือนนี้ รัฐบาลเตรียมจะนำข้อเสนอของ คอป.มาขยายผลเพื่อเป็นกฎหมายต่อไป

3.เสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย หลังจากเงียบหายไปนานแต่ภายหลังเมื่อได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงสงกรานต์จึงแสดงวิสัยทัศน์สร้างประตูปรองดองฉบับพ่อเฒ่า คือ เสนอกฎหมายปรองดองให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านแต่มีเงื่อนไขที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่ได้เงินจากคดียึดทรัพย์ 4.6หมื่นล้านบาทคืน

สูตร “ป๋าเหนาะ” น่าสนใจไม่แพ้แนวทางอื่นๆ ซึ่งตรงกับข้อเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซียพอดีว่า “การกลับบ้านมันอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่จะไม่เรียกร้องขอเป็นผู้นำประเทศอีก ส่วนของถูกยึดไว้นั้นผมคงไม่เรียกร้องกลับคืน”

4.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้ภาคประชาชนหรือคณะบุคคลที่มีความเป็นกลางที่ได้รับการยอมรับจากสังคมเป็นฝ่ายเสนอ พ.ร.บ.ปรองดอง และเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต้องเปิดให้ถ่ายทอดสดต่อหน้าประชาชน 510 วัน

5.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอวาทกรรม “พาทักษิณกลับบ้าน”โดยยกร่าง พ.ร.บ.ปรองดองมาก่อนใครในพรรคเพื่อไทย แต่ยังทำไม่ได้เพราะยังไม่ได้รับสัญญาณ มาวันนี้เจ้าตัว กระทบกระเทียบคนในพรรคด้วยกันที่สูตรปรองดองช่วยทักษิณมากมาย ทั้งที่ก่อนหน้าเงียบเป็นเป่าสาก อย่างไรก็ตาม สูตรของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่สุดอาจต้องพับไปเพราะพรรคเพื่อไทยมีท่าทีว่าจะไม่เป็นเจ้าภาพเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แล้ว

6.พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ สุชาติ ลายน้ำเงิน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นอีกส่วนที่พยายามเสนอสูตรสำเร็จปรองดองโดยให้มวลชนเข้าชื่อ 1 หมื่นคนออกกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาและให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งเครื่องลงสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีคนเสื้อแดงต้อนรับ

ทั้ง 6 พิมพ์เขียวอย่างน้อยที่ปรากฏขณะนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมืองในเวลานั้นที่จะเป็นตัวกำหนดว่า พรรคเพื่อไทยจะเดินเกมอย่างไร

บนความฮึกเหิมต่อการเปิดเกมรุกครั้งใหญ่ที่เชื่อว่าจะสำเร็จแน่ เพราะถ้าเทียบเสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนี้กับปลายปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นคนละเรื่อง โดยปีที่แล้วเจอปัญหาน้ำท่วม “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แทบจะเจียนอยู่เจียนไปบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หากไปคิดทำ พ.ร.บ.ปรองดองอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนขณะนี้อายุรัฐบาลสั้นแน่นอน

แต่เวลานี้ถึงจะมีปัญหาเศรษฐกิจเข้ามากวนใจบ้างจริง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อเสถียรภาพใหญ่ของรัฐบาลมากนัก อาศัยแค่การชี้แจงตามสถานการณ์ก็สามารถประคับประคองไปได้เรื่อยๆ

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีมวลชนคนเสื้อแดงมาทำหน้าที่ผนังทองแดงกำแพงเหล็กคุ้มครองรัฐบาลอีกชั้นหนึ่ง ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งเป็นอีกเท่าตัว สวนทางกับมวลชนต่อต้านรัฐบาล กำลังอ่อนแรงอย่างน่าใจหาย

เห็นได้จากการประชุมแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ไม่ได้มีการกำหนดการเคลื่อนไหวต่อต้านอย่างเป็นรูปธรรมออกมา มีเพียงแต่การเตรียมยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดกับ สส.และ สว.ที่ร่วมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น

เมื่อรัฐบาลเสถียรภาพเข้มแข็งและพร้อมด้วยปัจจัยแวดล้อมอีกสารพัดไม่ว่าจะเป็นมวลชนผู้ให้การสนับสนุน หรือมวลชนฝ่ายต่อต้านไม่มีพลังสร้างความระคายให้รัฐบาลจึงเป็นโอกาสดีที่จะชิงจังหวะนี้เร่งการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสนองคำบัญชานายใหญ่

กระบวนการเหล่านี้คาดว่า จะเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างในสมัยประชุมสามัญทั่วไประหว่างวันที่ 1 ส.ค.28 พ.ย.

ที่สุดแล้วการปรองดองสูตรหัวส่ายหางกระดิกครั้งนี้ย่อมเป็นที่สร้างความอิ่มเอมให้กับประชาชนผู้รัก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ในทางกลับกันกำลังสร้างคลื่นความขัดแย้งอีกระลอกให้กับสังคมอย่างน่าวิตก