posttoday

เจาะข่าวกรองวิเคราะห์!เงื่อนไขปลุกแดงป่วนกรุง

04 มีนาคม 2553

“ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่

“ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่

โดย...ธรรมสถิตย์  ผลแก้ว

มีคำถามปนความสงสัย กรณีแกนนำคนเสื้อแดงออกมาโหมกระพือจะมีมวลชนล้านคนมาพร้อมรถบิ๊กอัพ รถอีแต๊นแสนคันไหลเป็นลาวาเข้ากรุงเทพเพื่อโค่นล้มรัฐบาล  เป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน และใช้ช่องทางใด

ก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม  ข้อมูลการจากศูนย์ปฏิบัติการร่วม (ศปร.) ของหน่วยงานความมั่นคง  ได้ประเมินความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.)  ถึงเส้นทางการเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ  ซึ่งจะเป็นลักษณะทยอยๆ กันมา มิใช่ยกทัพใหญ่เข้ามาพร้อมกันในวันเดียวกัน 

เจาะข่าวกรองวิเคราะห์!เงื่อนไขปลุกแดงป่วนกรุง การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเเดง

เส้นทางในการเคลื่อน  ก็พอจะเห็นภาพเบื้องต้น จากการเซ็ทกำลังพลดูแลความสงบเรียบร้อยพร้อมกับการจัดระเบียบจราจร ในพื้นที่  3 ส่วน กว่า 14 จุด   คือ ส่วนนอก ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์เชื่อมโยงกับเส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า   ส่วนกลาง  อนุสาวรีย์หลักสี่  ถนนบางนา-ตราด   ทุ่งสองห้อง สนามกีฬา ไทย- ญี่ปุ่น ดินแดน  ส่วนใน ได้แก่  วงเวียนใหญ่ สนามหลวง  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  สถานีรถไฟหัวลำโพง  อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ    สวนลุมพินี  และ ท่าเรือบางส่วน 

นั่น เป็นการประเมินเบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลให้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมแผนรับมือ

ส่วนการระดมไพร่พลมามากมายขนาดนั้น ทำอย่างไร   ประเด็นนี้ดูจะมีคำตอบจากหน่วยข่าวกรองที่ลงไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของแกนนำ  นักการเมือง ฝ่ายสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยนำมาวิเคราะห์เชิงลึกส่งผ่านขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า 

บทวิเคราะห์ล่าสุด ชี้ให้เห็นการเคลื่อนไหวที่กำลังดำเนินไปด้วยความเข้มข้น นับจากนี้

ข่าวกรองวิเคราะห์ว่า   นปช. เร่งรณรงค์ระดมมวลชน รถยนต์ เงินทุนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ใน กทม. อย่งเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยใช้รูปแบบหลากหลาย อาทิ  ในภาคเหนือจัดกิจกรรมย่อยในจังหวัดหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลาปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในจังหวัด นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ทั้งนี้ นปช.ส่วนกลางตั้งเป้าอยากได้รถยนต์จังหวัดใหญ่ จังหวัดละ 1,000 คน  มวลชนคันละ 12 – 14 คน แต่จนถึงขณะนี้ การสำรวจขั้นต้นอยู่ที่จังหวัดละประมาณ 400 – 500 คัน  ทั้งนี้ปัจจัยที่จะมีส่วนส่งเสริมให้ได้จำนวนมวลชนและรถยนต์สูงขึ้นคือ เงิน  กับการสนับสนุนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีเต็มที่และปัจจัยสถานการณ์จากนี้ไป   อย่างไรก็ดี  ในด้านความรู้สึกของมวลชน มีความต้องการไปชุมนุมที่ กทม. ค่อนข้างสูงแนวโน้มด้านอารมณ์อาจสูงกว่าเมษายน 52 เพราะอยากไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ  

เจาะข่าวกรองวิเคราะห์!เงื่อนไขปลุกแดงป่วนกรุง

ถามว่า การปลุกมวลชนมาชุมนุมใหญ่ได้ผลขนาดไหน  ประเด็นนี้ข่าวกรองวิเคราะห์ว่า   การสร้างกระแสและสร้างภาพการชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันที 12 มี.ค. 53 ค่อนข้างได้ผล เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่กำลังวิตกกังวลเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันดังกล่าว ประกอบกับมีเหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพด้วย  กระแสที่เกิดในสังคมคนไทย รวมทั้งต่างชาติ จึงเป็นไปในทางวิตกค่อนข้างมาก การรุกด้านข้อมูลข่าวสารของ นปช.และผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ หลังวันพิพากษาคดี ตีกลับคืนและมีประสิทธิภาพ ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่ได้เป็นอย่างดีแต่น่าจะมุ่งเน้นการตอบโต้การบิดเบือนของพ.ต.ท.ทักษิณกับพวก เหมือนอย่างที่หนังสือพิมพ์บางฉบับทำได้ดี รวมทั้งทำให้เห็นการเตรียมการป้องกันการก่อเหตุรุนแรง

การรณรงค์ของแกนนำ นปช.บางคนทางวิทยุชุมชน หรือ การปราศรัยโดยเฉพาะนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน วิทยุชุมชนคนรู้ใจ คลื่น 87.75 เมกกะเฮิรทซ์ รายการทางออกประเทศไทย กับ นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล กลุ่มรักษ์เชียงใหม่ 51 บางวันได้พาดพิงหรือดูหมิ่นสถาบันฯ อย่างบิดเบือน จาบจ้วง ท้าทาย ไม่ยำเกรงกฎหมาย และมีลักษณะปลุกเร้าให้คนฟังเชื่อตาม ทั้งสองนำสถาบันฯไปเชื่อมโยงกับคำพิพากษาของศาล รวมทั้งจาบจ้วงว่าใช้  2  มาตรฐานเพราะไม่ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ

ผลการวิเคราะห์เหล่านี้  ดูจะสอดคล้องกับท่าทีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแถลงหลังประชุม ครม. ถึงการดำเนินคดีแพ่ง และอาญา กับพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการย้ำแล้วย้ำอีกว่า “ รัฐบาลไม่ใช่คู่กรณีเพื่อไปกดดันกลุ่มใด แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องดำเนินการ เพราะถ้าไม่ดำเนินการก็จะถูกกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”   เหมือนนายกฯอภิสิทธิ์ รู้สัญญาณดีว่า เมื่อรัฐบาลขยับลงดาบสองกับพ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของแฟนคลับพ.ต.ท.ทักษิณ 

ดังนั้น นายกฯอภิสิทธิ์จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์อย่างรัดกุมโดยเฉพาะการให้ข่าวเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ  คือ นอกจากจะไม่เลือกวิธีเติมเชื้อใส่กองเพลิง ก็ต้องหาทางสกัดไฟไม่ให้ลามไปมากกว่านี้ด้วย   เพราะถ้าถลำเกินไป ย่อมเข้าแผนเร่งเร้าแดงทะลักตามที่แกนนำเสื้อแดงวาดฝัน