เจาะข่าวกรองวิเคราะห์!เงื่อนไขปลุกแดงป่วนกรุง
“ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่
“ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่
โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว
มีคำถามปนความสงสัย กรณีแกนนำคนเสื้อแดงออกมาโหมกระพือจะมีมวลชนล้านคนมาพร้อมรถบิ๊กอัพ รถอีแต๊นแสนคันไหลเป็นลาวาเข้ากรุงเทพเพื่อโค่นล้มรัฐบาล เป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน และใช้ช่องทางใด
ก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ข้อมูลการจากศูนย์ปฏิบัติการร่วม (ศปร.) ของหน่วยงานความมั่นคง ได้ประเมินความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ถึงเส้นทางการเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นลักษณะทยอยๆ กันมา มิใช่ยกทัพใหญ่เข้ามาพร้อมกันในวันเดียวกัน
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเเดง
เส้นทางในการเคลื่อน ก็พอจะเห็นภาพเบื้องต้น จากการเซ็ทกำลังพลดูแลความสงบเรียบร้อยพร้อมกับการจัดระเบียบจราจร ในพื้นที่ 3 ส่วน กว่า 14 จุด คือ ส่วนนอก ได้แก่ ศาลากลางจังหวัด ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์เชื่อมโยงกับเส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ส่วนกลาง อนุสาวรีย์หลักสี่ ถนนบางนา-ตราด ทุ่งสองห้อง สนามกีฬา ไทย- ญี่ปุ่น ดินแดน ส่วนใน ได้แก่ วงเวียนใหญ่ สนามหลวง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานีรถไฟหัวลำโพง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และ ท่าเรือบางส่วน
นั่น เป็นการประเมินเบื้องต้น เพื่อเป็นข้อมูลให้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมแผนรับมือ
ส่วนการระดมไพร่พลมามากมายขนาดนั้น ทำอย่างไร ประเด็นนี้ดูจะมีคำตอบจากหน่วยข่าวกรองที่ลงไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของแกนนำ นักการเมือง ฝ่ายสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนำมาวิเคราะห์เชิงลึกส่งผ่านขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
บทวิเคราะห์ล่าสุด ชี้ให้เห็นการเคลื่อนไหวที่กำลังดำเนินไปด้วยความเข้มข้น นับจากนี้
ข่าวกรองวิเคราะห์ว่า นปช. เร่งรณรงค์ระดมมวลชน รถยนต์ เงินทุนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ใน กทม. อย่งเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยใช้รูปแบบหลากหลาย อาทิ ในภาคเหนือจัดกิจกรรมย่อยในจังหวัดหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลาปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในจังหวัด นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ทั้งนี้ นปช.ส่วนกลางตั้งเป้าอยากได้รถยนต์จังหวัดใหญ่ จังหวัดละ 1,000 คน มวลชนคันละ 12 – 14 คน แต่จนถึงขณะนี้ การสำรวจขั้นต้นอยู่ที่จังหวัดละประมาณ 400 – 500 คัน ทั้งนี้ปัจจัยที่จะมีส่วนส่งเสริมให้ได้จำนวนมวลชนและรถยนต์สูงขึ้นคือ เงิน กับการสนับสนุนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีเต็มที่และปัจจัยสถานการณ์จากนี้ไป อย่างไรก็ดี ในด้านความรู้สึกของมวลชน มีความต้องการไปชุมนุมที่ กทม. ค่อนข้างสูงแนวโน้มด้านอารมณ์อาจสูงกว่าเมษายน 52 เพราะอยากไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ
ถามว่า การปลุกมวลชนมาชุมนุมใหญ่ได้ผลขนาดไหน ประเด็นนี้ข่าวกรองวิเคราะห์ว่า การสร้างกระแสและสร้างภาพการชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันที 12 มี.ค. 53 ค่อนข้างได้ผล เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่กำลังวิตกกังวลเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันดังกล่าว ประกอบกับมีเหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพด้วย กระแสที่เกิดในสังคมคนไทย รวมทั้งต่างชาติ จึงเป็นไปในทางวิตกค่อนข้างมาก การรุกด้านข้อมูลข่าวสารของ นปช.และผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ หลังวันพิพากษาคดี ตีกลับคืนและมีประสิทธิภาพ ฝ่ายรัฐอาจจำเป็นต้องปรับแนวทาง ไม่ควรโหมให้ข่าวจะเอาผิดทั้งแพ่งและอาญากับ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่มเติมเพราะจะเรียกคะแนนสงสารและสร้างอารมณ์ร่วมในการชุมนุมใหญ่ได้เป็นอย่างดีแต่น่าจะมุ่งเน้นการตอบโต้การบิดเบือนของพ.ต.ท.ทักษิณกับพวก เหมือนอย่างที่หนังสือพิมพ์บางฉบับทำได้ดี รวมทั้งทำให้เห็นการเตรียมการป้องกันการก่อเหตุรุนแรง
การรณรงค์ของแกนนำ นปช.บางคนทางวิทยุชุมชน หรือ การปราศรัยโดยเฉพาะนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน วิทยุชุมชนคนรู้ใจ คลื่น 87.75 เมกกะเฮิรทซ์ รายการทางออกประเทศไทย กับ นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล กลุ่มรักษ์เชียงใหม่ 51 บางวันได้พาดพิงหรือดูหมิ่นสถาบันฯ อย่างบิดเบือน จาบจ้วง ท้าทาย ไม่ยำเกรงกฎหมาย และมีลักษณะปลุกเร้าให้คนฟังเชื่อตาม ทั้งสองนำสถาบันฯไปเชื่อมโยงกับคำพิพากษาของศาล รวมทั้งจาบจ้วงว่าใช้ 2 มาตรฐานเพราะไม่ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ
ผลการวิเคราะห์เหล่านี้ ดูจะสอดคล้องกับท่าทีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแถลงหลังประชุม ครม. ถึงการดำเนินคดีแพ่ง และอาญา กับพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการย้ำแล้วย้ำอีกว่า “ รัฐบาลไม่ใช่คู่กรณีเพื่อไปกดดันกลุ่มใด แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องดำเนินการ เพราะถ้าไม่ดำเนินการก็จะถูกกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” เหมือนนายกฯอภิสิทธิ์ รู้สัญญาณดีว่า เมื่อรัฐบาลขยับลงดาบสองกับพ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของแฟนคลับพ.ต.ท.ทักษิณ
ดังนั้น นายกฯอภิสิทธิ์จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์อย่างรัดกุมโดยเฉพาะการให้ข่าวเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ คือ นอกจากจะไม่เลือกวิธีเติมเชื้อใส่กองเพลิง ก็ต้องหาทางสกัดไฟไม่ให้ลามไปมากกว่านี้ด้วย เพราะถ้าถลำเกินไป ย่อมเข้าแผนเร่งเร้าแดงทะลักตามที่แกนนำเสื้อแดงวาดฝัน