posttoday

ฝ่าไฟแดงไม่สำเร็จ กระแสต้านหนัก-ไร้สัญญาณตอบรับ

21 พฤศจิกายน 2554

โดนต้านมากๆ ทักษิณ ชินวัตร เลยต้องแสดงจุดยืนต่อพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ

โดย...ทีมข่าวการเมือง

โดนต้านมากๆ ทักษิณ ชินวัตร เลยต้องแสดงจุดยืนต่อพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ

ทว่า เนื้อหาในแถลงการณ์จากดูไบเขียนด้วยลายมือก็ไม่ชัดเจน ออกได้ทุกมุม แน่นอนฝ่ายต้าน ย่อมไม่ไว้ใจในบท “หลายหน้า” ของทักษิณ เพราะตีความได้สองทาง

ด้านหนึ่ง เดินหน้าออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษพ่วงตัวเอง รุกแบบเงียบๆ ต่อไป อ้างว่า “รัฐบาลนี้ไม่ทำเพื่อผม” แต่มองอีกมุม ทักษิณส่งสัญญาณถอยจริง แต่ไว้ฟอร์มไม่ให้เสียหน้า

แถลงการณ์ที่อ้างเหตุผล “ถอย” 3 ข้อ “ขอเสียสละเพื่อส่วนรวม” นัยว่า ไม่ขอได้ประโยชน์จาก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเนื่องจาก 1.สถานการณ์ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดือดร้อนจากมหาอุทกภัย จำเป็นต้องมีความสามัคคีปรองดองภายในชาติ ถึงจะร่วมกันผ่านให้พ้นจากวิกฤตโดยเร็ว

2.ไม่อยากเห็นความพยายามใดๆ ที่จะทำให้บรรยากาศความปรองดองที่กำลังเกิดขึ้น เสียหาย

3.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด

พิจารณาลึกๆ ทักษิณ ไม่ได้ปฏิเสธว่า เขาได้ประโยชน์จากออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษของรัฐบาลน้องสาว โดยระบุว่า “มีข่าวว่า อาจมีผมรวมอยู่ด้วย...แต่ผมยังเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำเพื่อกลุ่มเดียว”

ฝ่าไฟแดงไม่สำเร็จ กระแสต้านหนัก-ไร้สัญญาณตอบรับ

ถามว่า “เงื่อนไข” ที่ทักษิณเป็นห่วง จึงต้องยอมถอย เพิ่งเกิดขึ้นหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะช่วงที่รัฐบาลผลักดัน พ.ร.ฎ.อภัยโทษในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็อยู่ในช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนจากวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนัก และในหลวงก็ทรงพระประชวรและทรงเป็นห่วงพสกนิกรที่ทุกข์ร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ช่วงดังกล่าว ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า เรื่อง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย

เป็นคำตอบสุดท้ายของทักษิณว่าไม่ยอมถอย ไม่ว่าใครจะคัดค้านหนักหน่วงแค่ไหน ทั้งหมดอยู่ที่สถาบัน

แต่ผ่านมา 2 วัน แถลงการณ์วานนี้เจ้าตัวอ้างว่า เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วม ห่วงในหลวง และห่วงความขัดแย้ง จึงขัดแย้งกับที่ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส

ทำไมทักษิณถึงยอมถอยและสั่งให้น้องสาวตัวเอง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลิกช่วยพี่?

เดิมการประเมินของฝ่ายทักษิณ เชื่อว่า เกมนี้จะได้มากกว่าเสีย...

ได้ก็คือ ทักษิณได้กลับไทยฟรีๆ โดยไม่ต้องติดคุก ถ้าเสียก็อาจถูกด่า มีกลุ่มม็อบต้านออกมายุบยับ รัฐบาลอาจเสียรังวัดบ้าง แต่รัฐบาลก็มีม็อบแดงคอยช่วย บวกลบแล้ว น่าจะพอเอาอยู่

จนรัฐบาลน้องสาว “วางแผนแยบยล” เสนอ พ.ร.ฎ.อภัยโทษพ่วงพี่ชายแบบลองดูกันสักยก อ้างว่า เป็นเรื่องลับ ป้องกันฝ่ายคัดค้านหยิบมาโจมตี เมื่อเกิดกระแสต้านมากๆ นี่จึงทำให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พลิกพลิ้วได้ว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่เอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ เพราะต้องเป็นบุคคลที่รับโทษแล้วเท่านั้น ซึ่งถ้าบริสุทธิ์ใจจริง มีคำถามว่า เหตุใด พล.ต.อ.ประชา ไม่ออกมาปฏิเสธตั้งแต่แรก รอจนทักษิณส่งสัญญาณถอย

อย่างไรก็ดี ข่าววงในแจ้งว่าก่อนหน้านี้ “นายใหญ่” อ้างแกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆ ขอให้มั่นใจ เพราะเคลียร์ระดับสูงไว้แล้ว พรรคร่วมอย่าต่อต้าน สุดท้ายไม่รู้ว่าที่อ้างต่อสายคุยเสร็จสรรพ เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม หรือแกล้งอ้างเพื่อสยบแรงกระเพื่อมภายในรัฐบาล เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเป้าหมายของทักษิณอยู่แล้ว ดังที่เจ้าตัวและแกนนำเสื้อแดงประกาศมานานว่า น่าจะมีข่าวดีในเดือน ธ.ค.และจะกลับมาฉลองงานแต่งลูกสาวปลายปีนี้

ทว่าเหตุที่ฝ่ายดูไบกลับลำ ประเมินว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่น่าจะสำเร็จ

เพราะประการแรก กระแสต่อต้านภายนอกที่ยังรุนแรง

เดิมเพื่อไทยคาดว่า “ม็อบต้าน” น่าจะอ่อนพลังลง และฝ่ายเหลือง แกนนำหลักชุมนุมคัดค้านก็เงียบ แต่กลับไม่เป็นดังคาด ปมขอพระราชทานอภัยโทษพ่วงทักษิณครั้งนี้ กลับเรียกแขกให้เครือข่ายกลุ่มต้านทั้งหลายกลับมาเข้มแข็ง

แค่ยกแรก ทั้งม็อบหลากสี ม็อบเหลือง ตัวละคร นักเคลื่อนไหวก็โผล่มาแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งของเดิม ของใหม่ นำโดย สนธิ ลิ้มทองกุล นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แก้วสรร อติโพธิ ฯลฯ ตามด้วยกิจกรรมคัดค้านหลายรูปแบบ

ทั้งการเข้าชื่อของกลุ่มประชาชนเพื่อถวายฎีกา และเข้าชื่อถอดถอน ครม.ทั้งคณะ กลุ่ม สว. ลงชื่อ กลุ่มนักวิชาการออกแถลงการณ์คัดค้าน

โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตร นัดชุมนุมใหญ่หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวันนี้ ทักษิณ จึงรีบชิงตัด “ไฟแต่ต้นลม” รวมถึงตัดเกมฝ่ายค้านหยิบเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา

ประการต่อมา สัญญาณจากในกลุ่มกูรู นักกฎหมายรุ่นเดอะในกฤษฎีกา ที่ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนซึ่งวันนี้กำลังก่อปฏิกิริยาภายใน ขณะที่สัญญาณจากระดับบนก็ไม่แจ่มชัด

อีกประการ ถ้ารัฐบาลดันทุรังไปเรื่อยๆ แรงกดดันจะตกอยู่ที่ “ทักษิณ” กระทบไปที่ “ยิ่งลักษณ์” และรัฐบาลทั้งคณะ ซึ่งยังสาหัสจากการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผิดพลาด

ไม่เฉพาะการเผชิญหน้าของม็อบเหลือง ม็อบแดงที่จะเป็นวิกฤตความขัดแย้งอีกรอบ เสี่ยงต่อการนองเลือดกับ “ปมทักษิณ” ม็อบน้ำที่เดือดร้อนก็อาจมาผสมโรงจนรัฐบาลน้องสาวอาจจบไม่สวยแน่และมีอันต้องพังก่อนวัยอันควรจากวิกฤตศรัทธาที่จะมาเร็วกว่าที่คิด

เพราะแก้ปัญหาให้ตัวเองเร็วมากกว่าแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่