posttoday

ล้างบางมหาดไทยจัดทัพ ผวจ.เสริมบารมีปู

16 พฤศจิกายน 2554

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รมว.มหาดไทย ได้ฤกษ์โยกย้ายข้าราชการระดับ 10

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รมว.มหาดไทย ได้ฤกษ์โยกย้ายข้าราชการระดับ 10

โดย...ทีมข่าวการเมือง

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รมว.มหาดไทย ได้ฤกษ์โยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ในลักษณะ “บิ๊กล็อต” ถึง 34 ตำแหน่ง หลังจากที่ยื้อมากว่า 2 เดือน

ผลของการโยกย้ายครั้งนี้ ชัดเจนเป็นการล้างขั้วอำนาจเก่าของ “เนวิน ชิดชอบ” ให้พ้นไปจากกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งคนใกล้ชิด และเด็กในคาถา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดงรวมถึงพรรคเพื่อไทย ให้เข้าสู่อำนาจเพื่อค้ำบัลลังก์รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะเดียวกันค่ายสิงห์ดำ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็กลับมาผงาด หลังจากสิงห์แดง ค่ายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่งโรจน์ในสมัย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”

แม้ “ยงยุทธ” เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนมาโดยตลอดว่า จะไม่ยึดเรื่องพรรคพวก รวมถึงจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาที่มีตัวแทนมาจากสถาบันการศึกษา หรือสถาบัน “สิงห์” ทั้งหลายมาร่วมด้วย แต่เอาเข้าจริง “คณะกรรมการพิจารณา” ที่ยงยุทธ บอกว่า จะตั้งขึ้นมานั้น กลับมีเพียง “ยงยุทธ” และเลขานุการคู่ใจอย่าง “อารี ไกรนรา” เท่านั้น

ทั้งนี้ เพราะเมื่อถึงเวลาพิจารณา รายชื่อทั้งหมดก็ถูกโยนเข้าวงใหญ่ ในพรรคเพื่อไทยเพื่อให้ได้เห็นหน้าค่าตา “พ่อเมือง” โดยคนจัดโผก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะล้วนเป็นการหยั่งเสียงกันจาก “ผู้มีอิทธิพล” ในพื้นที่คอยดูตัวว่า คนไหนใช้ได้หรือไม่ จนสุดท้ายก็ให้ “ทักษิณ” เคาะรับรองโผอีกครั้ง จนได้ออกมาหน้าตาเช่นนี้

ล้างบางมหาดไทยจัดทัพ ผวจ.เสริมบารมีปู

ตอกย้ำภาพความ “ไร้ตัวตน” ของ “ยงยุทธ” แม้จะมีสถานะเป็นถึงพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจใดๆ ขึ้นมาแล้ว ก็กลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย

แม้ว่าวันนี้ “ยงยุทธ” จะไม่ได้เข้าประชุม เนื่องจากติดภารกิจที่ต้องเดินทางไปตรวจน้ำท่วมกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ จ.สิงห์บุรี แต่เรื่องการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายก็เข้าสู่การประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างสะดวกโยธิน

อันที่จริงโผที่ออกมาก็ไม่ได้ผิดคาดจากที่หลายคนคาดไว้มากสักเท่าไร เพราะเชื้อสาย “ภูมิใจไทย” เก่านั้น ถูกชำระล้างจนเหี้ยนเตียน ขณะที่เชื้อสายคนใกล้ชิดกับ สส.พรรคเพื่อไทย และเครือข่าย “สิงห์ดำ” ก็เจริญก้าวหน้ากันแทบทั้งสิ้น

เริ่มจาก “ผู้ตรวจฯ” หน้าใหม่ที่เข้ามานั่งในกระทรวงนั้น ล้วนเป็นเครือข่ายเดิมของพรรคภูมิใจไทย และเป็นอดีตพ่อเมืองในจังหวัดใหญ่แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “เชิดศักดิ์ ชูศรี” ผวจ.สมุทรปราการ “สมชัย หทยะตันติ” ผวจ.เชียงราย “ธานี สามารถกิจ” ผวจ.บุรีรัมย์ และ “เสริม ไชยณรงค์” ผวจ.สุรินทร์

ขณะที่คนอื่นๆ ที่เป็นเด็กภูมิใจไทย และถูกคาดหมายว่าจะถูกเอาเข้ามานั่งเป็นผู้ตรวจฯ นั้น ยงยุทธก็หักโผเหล่านั้นเสียด้วยการไม่เอามานั่งเป็นผู้ตรวจฯ แต่ให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่ลดเกรดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ถือว่ายังพอไว้หน้ากันบ้าง เช่นให้ “สุรชัย ขันอาสา” คนสนิทแท้ๆ ของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ที่เคยเป็นถึงอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กลับถูกเตะโด่งไปเป็น ผวจ.ลำพูน

ด้าน “พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า” อดีต ผวจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งเข้ามานั่งเป็นผู้ตรวจได้ 3 อาทิตย์ ก็ให้ไปเป็นพ่อเมืองระนอง และให้ “ระพี ผ่องบุพกิจ” ผวจ.นครราชสีมา ไปนั่งเป็นพ่อเมือง “หนองบัวลำภู” แทน

ส่วนที่ยังปราณีอยู่บ้างก็ อาทิ ขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ให้ไปเป็นรองปลัดฯ แทน เนื่องจาก “ขวัญชัย” ยังคงมีสายสัมพันธ์อันดีกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่มีมาก่อนหน้านี้ แม้จะเสียศูนย์ไปบ้างเมื่อพรรคสีน้ำเงินครองอำนาจ แต่ก็ไม่โดนหนักเหมือนกับที่ “สุรชัย” หรืออดีตปลัดฯ “วิเชียร ชวลิต” โดนเด้งให้ไปเป็นที่ปรึกษามาแล้ว

ขณะที่คนที่ได้ดีกันถ้วนหน้า ก็ล้วนแล้วแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันในพรรคเพื่อไทยแทบทั้งสิ้น อาทิ “คมสัน เอกชัย” ผวจ.อุดรธานี ที่ได้ “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” รมว.ยุติธรรม ดันให้มานั่งเป็น ผวจ.ชลบุรี แทน หรืออย่าง “วิโรจน์ จิวะรังสรรค์” ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการไปเป็นประธานในพิธีเปิด “หมู่บ้านเสื้อแดง” ต้านยาเสพติดในจังหวัด ก็ได้ขึ้นเป็น ผวจ.นครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ เหล่าพลพรรค “สิงห์ดำ” ที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับ “ยงยุทธ” ก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่โตเช่นเดียวกัน อาทิ “วีระยุทธ เอี่ยมอำภา” ที่หลุดกรุผู้ตรวจฯ มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือ “ชวน ศิรินันท์พร” ที่ขึ้นจาก ผวจ.แพร่ มาเป็น ผวจ.นครราชสีมา ก็ล้วนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งสิ้น ลบภาพของกระทรวงที่เคยมีภาพยิ่งใหญ่ของ “สิงห์แดง” หรือผู้ที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในยุคที่ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” แกนนำสิงห์แดงเป็นใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยยุคที่แล้วโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม 34 ตำแหน่งที่ออกมายังไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากยังมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต่อคิวขึ้นมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอีกหลายจังหวัด รอแต่งตั้งอยู่ ซึ่ง “ยงยุทธ” ก็คงอ้างได้อีกว่าช่วงที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยนั้นยุ่งจริงๆ ทำให้ดำเนินการสอบเลื่อนขั้นไม่ทัน แม้ว่าหลายคนจะรู้กันอยู่แล้วว่าโผทั้งหมดถูกจัดการอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอให้เวลาสุกงอมกว่านี้ก่อนเท่านั้น

ที่สุดแล้ว ภาพของการโยกย้ายข้าราชการในวันนี้ ก็เป็นภาพของการ “แก้ไข” และ “แก้แค้น” อยู่ดี แม้จะไม่โฉ่งฉ่างเท่าสมัยพรรคภูมิใจไทย แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่า เพราะเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้ “มหาดไทย” ไม่มีบทบาทในการแก้ปัญหาน้ำท่วมมากนัก เพราะตัวข้าราชการเองก็ต่างหนาวๆ ร้อนๆ ว่าจะมีอนาคตเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับตัวเสนาบดี และคนรอบตัวที่ต้องนั่งจัดโผที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่เว้นแต่ละวัน จนทำให้จิตใจและสติที่ควรจะแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ทว่าหลังจากนี้ต้องดูว่าการจัดทัพผู้ว่าราชการจังหวัดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์คราวนี้ จะสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านเสื้อแดงและรัฐบาลสักเพียงใด เพราะหลังจากนี้ต้องเผชิญกับความเดือดร้อนของประชาชนหลังน้ำลด รวมถึงปัญหาต่างๆ อีกสารพัด อีกไม่นานคงเห็นผล