ปูยึดปลัดกลาโหมเกมรุกคืบคุมทหาร

โดย...ทีมข่าวการเมือง

โผทหารยังติดขัด เพราะไปๆ มาๆ ดูเหมือน “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ตกที่นั่งลำบากจากทั้งต้นสังกัดเพื่อไทยเองและฝ่ายขุนทหารในกองทัพที่งัดข้อในเก้าอี้ “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่ ที่ยื้อกันมาหลายสัปดาห์

เดิมที พล.อ.ยุทธศักดิ์ เสนอชื่อ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ผู้นำเหล่าทัพต้องการผลักดัน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทยเป็นแทน

งานนี้ “ยุทธศักดิ์” สู้สุดตัว ถึงขึ้นประกาศจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอำนาจของ รมว.กลาโหม ว่า มีอำนาจในการแต่งตั้งปลัดกลาโหมหรือไม่ ท้ายที่สุดฝ่ายเหล่าทัพยอมให้ พล.อ.วิทวัส ขึ้น ทว่า เมื่อเสนอมายัง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กลับตาลปัตร เพราะฝ่ายดูไบต้องการ พล.อ.เสถียร เพราะใกล้ชิดกว่า

ศึกงัดข้อเลยยึดเยื้อมาเป็นหนังม้วนยาวจนถึงวันนี้...

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยืนยันเหตุที่เลือก พล.อ.วิทวัส เพราะเคยทำงานร่วมกันมา เมื่อครั้งที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมและ รมช.กลาโหม

เมื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ไม่สนองพรรคเพื่อไทย จึงถูกนายกฯ ปูเรียกเข้าพบ ให้แก้โผทหารเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกฯ เล่นเกม ไม่เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ที่เสนอชื่อ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมคนปัจจุบันได้ ซึ่งก็เท่ากับว่า พล.อ.คณิต ยังเป็นประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมอยู่ตามเดิม

เกมนี้จึงบีบให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการกลาโหมอีกครั้งหนึ่งใหม่ ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 เพื่อให้แก้ไขบัญชีโยกย้ายนายทหาร ตามที่นายกฯ สั่งการในตำแหน่งปลัดกลาโหมคนใหม่เพื่อแก้ปัญหา ที่เกิดจากนายกฯ ไม่อนุมัติให้เปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม

ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้บอกกับ พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า เมื่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) คืนเรื่องที่กระทรวงกลาโหมขอเปิดอัตราจอมพลกลับมา จะทำให้บัญชีโยกย้ายก่อนหน้านี้ที่ส่งไปทำให้เกินอยู่ 1 คน การปรับย้ายแม้แต่นายพลเพียงคนเดียว ก็ต้องเข้าคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551

อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายดูไบต้องการให้ พล.อ.เสถียร เป็นปลัดกลาโหม ขณะที่ผู้นำเหล่าทัพ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. วันนี้ก็กลับมาสนับสนุน เพราะเห็นว่ามีความอาวุโสและยังเป็นทหารที่ประนีประนอม ที่สำคัญถ้า พล.อ.เสถียร ได้ตำแหน่งปลัด ก็จะไม่เบียดเก้าอี้ ผบ.สส. ที่เหล่าทัพได้จัดวางไว้ ฝ่ายการเมืองไม่ได้ล้วงลูกโยกย้ายตามที่คุณขอมา

ที่สุดแล้วคาดว่า โผทหารสุดท้ายในตำแหน่งปลัดกลาโหม จะมีการเสนอชื่อ พล.อ.เสถียร เป็น ส่วน พล.อ.วิทวัส ที่บิ๊กอ๊อดเสนอมานั้น ก็อาจถูกเตะไปเป็นจเรทหารทั่วไป

สำหรับ พล.อ.เสถียร และ พล.อ.วิทวัส เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 11 และมีอายุราชการอีก 1 ปี ถึงปี 2556 เท่ากัน แต่การแย่งตำแหน่งทำให้ทั้งคู่มองหน้ากันไม่ติด

อย่างไรก็ตาม พล.อ.เสถียร มีภริยา คือ ณัฐณิชาร์ เพิ่มทองอินทร์ เป็นนายกเทศมนตรี จ.อุบลราชธานี เป็นกำลังหลักของพรรคเพื่อไทย และช่วยเหลือในการเลือกตั้ง นอกจากนั้นยังแว่วว่า เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเรียนเซนต์โยเซฟ หรือ “เซนต์โย คอนเนกชัน”

ภรรยาของ พล.อ.เสถียร ยังทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อดูแลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงยังยื่นคำขาดด้วยว่า คนที่จะเข้ามาเป็นปลัดกลาโหมต้องเป็น พล.อ.เสถียร เท่านั้น

ขั้นตอนจากนี้อยู่ที่การประชุมของคณะกรรมการ จากบิ๊กทหาร 7 คนที่พิจารณาปรับย้ายนายพลตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 อีกครั้ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 6 คน เพราะไม่มี รมช.กลาโหม คาดว่าจะมีขึ้นเร็ววันนี้

กระนั้น พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. เห็นว่าการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบไปแล้ว ส่วนตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมและจเรทหารทั่วไปอยู่ในอำนาจ รมว.กลาโหม ที่จะพิจารณาเองได้ อีกทั้งเกรงว่าเมื่อมีการประชุมใหม่อาจมีการรื้อโผในส่วนของเหล่าทัพด้วย การเปลี่ยนโผในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จึงเป็นความรับผิดชอบของ รมว.กลาโหมเท่านั้น

งานนี้บางฝ่ายมองว่า บิ๊กอ๊อดหน้าชาหมอไม่รับเย็บ เพราะก่อนหน้านี้ เคยยืนยันในการเสนอชื่อ พล.อ.วิทวัส เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมว่า ต้องทำให้ได้ ถ้ายังมีปัญหาก็คงจะต้องลองกันสักตั้งว่าหมัดใครจะหนักกว่ากัน

ทว่า เหตุที่ยิ่งลักษณ์ตีกลับ ไม่อนุมัติอัตราจอมพล อาจเป็นเพียงข้ออ้างในการทำให้โผทหารมีปัญหา เป็นเกมรื้อโผทหารในฉบับ “ลับลวงพราง” ของพรรคเพื่อไทย แท้ที่จริงอยู่ที่ตำแหน่ง “ปลัดกลาโหม” ที่ฝ่ายเพื่อไทยต้องการ เนื่องจากเป็นหัวใจในการชงของบประมาณของกองทัพ และคุมอำนาจบริหารในกระทรวงและกองทัพเบ็ดเสร็จ

อีกประการคือ หากยึดเก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” ได้ ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยค่อยๆ รุกคืบในคณะกรรมการปรับย้ายทหารชั้นนายพลตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ ที่มี รมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง คือ รมช.กลาโหม ผบ.สส.-ผบ.ทบ.-ผบ.ทร.-ผบ.ทอ.-ปลัดกระทรวงกลาโหม ทั้งหมดมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกในยุครัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นเกราะกำบังไม่ให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายเหมือนที่ผ่านมา

ต้องติดตามว่า การจัดวางขุมกำลังในถิ่นสีเขียวของพรรคเพื่อไทยจะงัดแผนสารพัดมาแบ่งแย่งแล้วปกครองกันได้แค่ไหนอย่างไร เพราะที่นี่เป็นเป้าหมายสำคัญของการล้างบาง และจัดวางทหารแตงโมมากุมสภาพให้เร็วที่สุด