posttoday

เร่งฟื้นศรัทธา ปชป.จัดหนักยิ่งลักษณ์

23 สิงหาคม 2554

ไม่ทันรอให้พ้นช่วง “ฮันนีมูน” ประชาธิปัตย์ เที่ยวนี้ออกตัว “แรง” และ “เร็ว”

ไม่ทันรอให้พ้นช่วง “ฮันนีมูน” ประชาธิปัตย์ เที่ยวนี้ออกตัว “แรง” และ “เร็ว”

ลุยทำหน้าที่ฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ไล่บี้รัฐบาลเพื่อไทย และนายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่ยังไม่ทันได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา

แน่นอนว่าความพ่ายแพ้แบบหมดรูป เมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้ประชาธิปัตย์สะบักสะบอมไม่เป็นท่า และกลายเป็นภาระหนักอึ้งของกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่ “คู่หัวหอก” หัวหน้าเลขาฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเฉลิมชัย ศรีอ่อน ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน

ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จึงเป็นนาทีทองของประชาธิปัตย์ !!!

เพราะแค่จังหวะเริ่มตั้งไข่ “ยิ่งลักษณ์” ก็ออกอาการตุปัดตุเป๋ ไปตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ทั้งข้อกังขาในความสามารถการบริหารงาน เมื่อมีเสียงค่อนขอดว่ายังต้องรอฟังคำบัญชาจากพี่ชายที่อยู่ต่างประเทศ จนฉุด “ภาวะผู้นำ” ที่นับวันจะดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ

โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงรายละเอียดนอกสคริปต์ หลบการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ไปจนถึงการไม่ชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่มอบหมายให้รองนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงแทน ซึ่งมีแต่จะทำให้เก้าอี้นายกฯ หญิงสั่นคลอนขึ้นเรื่อยๆ

เร่งฟื้นศรัทธา ปชป.จัดหนักยิ่งลักษณ์

 

งานนี้ประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายค้านมืออาชีพที่ร้างเวทีมานาน จึงเตรียมลับฝีปากไว้เตรียมรับน้องนายกฯ ป้ายแดง

ยิ่งในวันที่นโยบายโดนใจทั้งหลาย ซึ่งดัดแปลงมาจากเวอร์ชัน นายห้างตราดูไบห่อ ล้วนแต่ถูกโจมตีจากทั้งฝ่ายนักวิชาการและภาคเอกชน ถึงรายละเอียดความเป็นไปได้ และผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะเป็นปัญหาตามมา

เวทีอภิปรายนโยบายนี้จึงน่าจะมีหลายแผลที่ “ประชาธิปัตย์” เตรียมหยิบยกขึ้นมารุมถล่มรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายหาเสียง ที่ระยะหลังน้ำเสียงแกนนำพรรคเริ่มอ่อยลง รวมทั้งมีคำอธิบายถึงเงื่อนไขที่ออกมาชี้แจงหากจะทำนโยบายนั้นๆ

ดูกระบวนทัพของประชาธิปัตย์งวดนี้ นอกจาก “อภิสิทธิ์” ที่นำทีมอภิปรายฯ ในภาพรวม แบ่งออกเป็น 3 หมวด 400 นาที ชัดเจนว่า น้ำหนักส่วนใหญ่เทไปทางเรื่องเศรษฐกิจ ที่ให้เวลามากที่สุดใน 3 หมวด คือ 200 นาที ที่มีขุนพล 16 คน เตรียมชำแหละนโยบาย

งานนี้ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” และ “กรณ์ จาติกวณิช” นำทีมอภิปรายฯ เศรษฐกิจ พุ่งเป้าเรื่องปากท้อง มาตรแก้ปัญหาสินค้าแพง และการเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 300 บาท หรือเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท ที่คนบางส่วนได้ประโยชน์ตรงนี้ แต่ภาพรวมคนอื่นๆ ในสังคมต้องรับผลกระทบกับภาวะเงินเฟ้อที่ข้าวของราคาแพงขึ้นตามมา

ไปจนถึงนโยบายอื่นๆ เช่น เรื่องการประกันรายได้ จำนำสินค้าทางการเกษตร ความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการไม่มีมาตรการรองรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ และจนถึงนโยบายด้านนโยบายกองทุนพลังงาน

นโยบายเรื่องสังคมจะอภิปราย 10 คน 80 นาที และนโยบายเรื่องความมั่นคง คนอภิปราย 10 คน 120 นาที

ทว่าการประกาศไม่ชี้แจงการอภิปรายด้วยตัวเองของ ยิ่งลักษณ์ มีแต่จะทำให้ ด้านหนึ่งอาจจะทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ต้องตกเป็นเป้าหลักที่ถูกรุมถล่มในสภา แต่อีกด้านหนึ่งก็จะกลายเป็นปมสะสมที่จะฉุดให้ภาวะผู้นำของ “ยิ่งลักษณ์” หายไปทุกที

งานนี้ ประชาธิปัตย์ ยังตั้ง “วอร์รูม” มอบ “ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” คอยขยายแผลการอภิปราย จับประเด็นมาเพิ่มข้อมูลรายละเอียดประกอบส่งต่อให้ประชาชนทั่วไปรับทราบ นอกเหนือจากการติดตามฟังถ่ายทอดสดเพียงอย่างเดียว

ไม่ใช่เฉพาะเวทีในสภาเท่านั้น “ประชาธิปัตย์” ยังเดินเกมรุกแทบทุกด้าน เรียกว่ามีแผลตรงไหนประชาธิปัตย์เกาะติดไม่ปล่อย

ประเดิมงานแรกด้วยการยื่นถอดถอน รมว.ต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกจากตำแหน่งตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ทันได้แถลงนโยบายด้วยข้อหาให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หลบหนีหมายจับจากคดีที่ดินรัชดา เข้าประเทศญี่ปุ่นได้เป็นกรณีพิเศษ

ก่อนนำมาสู่เปิดฉากตอบโต้แจ้งความกลับพร้อมเตรียมร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์

อีกด้านหนึ่ง “อภิสิทธิ์” ที่รีเทิร์นกลับมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอีกรอบ ไม่ปล่อยโอกาสเดินหน้าสร้างความเคลื่อนไหว ไล่เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นและยังยืดเยื้อไม่รู้ว่าจะคลี่คลายเมื่อไหร่

ด้วยความคล่องตัวที่ไม่ต้องพะวงเรื่องการลุยพื้นที่แดงเหมือนเมื่อครั้งเป็นนายกฯ ทำให้การลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือน้ำท่วม ดูจะทันท่วงทีกว่าแต่ก่อน

ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ลงพื้นที่ เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือตอนล่างที่ จ.พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์พร้อมออกมาเรียกร้องไปถึงรัฐบาลใหม่ให้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยด้วยมาตรฐานเดียวกับรัฐบาลประชาธิปัตย์

ก่อนเปิดตัวศูนย์ “อาสาฯ คนไทยช่วยน้ำท่วม” ประกาศตัวเป็นอีกช่องทางให้ประชาชนทั่วไปได้ส่งมอบความช่วยเหลือไปถึงผู้ประสบภัย ซึ่งได้นำถุงยังชีพราว 1,000 ถุงไปมอบให้ผู้ประสบภัยที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

การออกตัวแบบทุ่มหมดหน้าตักของประชาธิปัตย์เวลานี้ จึงเป็นงานหนักที่รัฐบาลเพื่อไทยและนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่อาจนิ่งนอนใจ

อย่างไรก็ตาม การอภิปรายนโยบายครั้งนี้ ใช่ว่าพรรค ปชป.จะรุกไล่ข้างเดียว พรรคเพื่อไทยเตรียมทีมสกัดไว้แล้วเช่นกัน ดังนั้นงานนี้ต้องติดตามอย่ากะพริบ “อภิสิทธิ์” และ “ยิ่งลักษณ์” ใครจะสร้างชื่อได้มากกว่ากัน ใครเลือดไหลกว่ากัน 2324 ส.ค. รู้ผล