posttoday

"บิ๊กตู่"ปลื้มไม่พบตัวเลขของก๊อปในห้างสรรพสินค้า

19 มกราคม 2561

ประยุทธ์โชว์ผลงานหลายด้านต่างชาติยอมรับยกระดับไทย ฟุ้งไม่พบตัวเลขของก๊อปในห้างสรรพสินค้า ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เดินหน้าปราบปรามต่อไป

ประยุทธ์โชว์ผลงานหลายด้านต่างชาติยอมรับยกระดับไทย ฟุ้งไม่พบตัวเลขของก๊อปในห้างสรรพสินค้า ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เดินหน้าปราบปรามต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ถึงการทำผลงานจนต่างชาติให้การยอมรับ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.61สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ออกรายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก ประจำปี 2560 โดย “ไม่ปรากฏ” ชื่อย่านการค้า ศูนย์การค้าในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการละเมิดสูง แม้แต่แห่งเดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2559 แต่ไม่ใช่ครั้งแรก

ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ที่ผลงานรัฐบาลและ คสช. เห็นผลประจักษ์สู่สายตาชาวไทย และประชาคมโลก นับตั้งแต่ “ไซเตส” ปรับไทยพ้นบัญชีค้างาช้างผิดกฎหมาย การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ สามารถลดระดับความรุนแรงลงจากเทียร์ 3 ขึ้นเทียร์ 2 แก้ปัญหาการบินพลเรือน จนปลดธงแดง ICAO ได้แก้ปัญหา IUUประมงผิดกฎหมายรอดพ้นจากใบแดง ได้รับการปรับสถานะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยดีขึ้นรอบ 10ปี จากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ ที่ไทยตกหล่มมาตั้งแต่ปี 2550เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทุกฝ่าย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเอาจริงเอาจัง และตรงไปตรงมา อันส่งผลดีต่อเนื่อง ในเรื่องภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่น ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่ผมพูดอยู่เสมอนะครับ ว่าหากเรารักษา “ความมั่นคง” ได้แล้ว “ความมั่งคั่ง” ก็จะตามมา เพียงแต่เราจะรักษาไว้อย่างยั่งยืนได้หรือไม่ ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วย

นอกจากนี้ ผลสืบเนื่องทางบวกที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อมอื่นๆ อาทิ ตลาดหุ้นปิดตัวในแดนบวก กว่า 1,800จุด ซึ่งสูงสุดในรอบ 30 กว่าปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2560 สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ มากกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.8 ล้านล้านบาทในขณะที่คนไทยเที่ยวไทย ตลอดปีที่แล้ว 152 ล้านคน สร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ 9.3 แสนล้านบาท และธนาคารโลกออกรายงาน เมื่อปลายปี 2560 ว่าประเทศไทยกำลังก้าวพ้นจากความยากจนสู่ประเทศมั่งคั่ง เป็นต้น

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ไทยมีย่านการค้า ศูนย์การค้า ที่อยู่ในรายชื่อตลาด ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง มากถึง 13 แห่ง แต่ด้วยการปราบปรามการละเมิดมาอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือต่างๆ ในปี 2560ที่ผ่านมา มีการจับกุมเกิดขึ้นกว่า 700คดี และมีการยึดของกลางได้เกือบ 150,000 ชิ้น ซึ่งการปรับสถานะของไทย ออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และการที่ไม่มีชื่อตลาดขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในรายงานฯ ของสหรัฐฯ นี้ ถือเป็นอีกสัญญาณที่ดี สะท้อนพัฒนาการเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาว ต่างชาติ ซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ที่มองเห็นศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงเอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมของประเทศไทยเราเอง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีกด้วยซึ่งแน่นอนครับ ในอนาคตก็จะเชื่อมโยง ไปเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายนะครับ อย่างที่เราต้องการ

นอกจากนี้ ในรายงานของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ยังได้ชื่นชมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลไทย ที่ได้ปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจัง จนทยอยหมดไปในหลายพื้นที่ รวมถึงบูรณาการการดำเนินการอย่างจริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ผมขอขอบคุณและขอชื่นชมในความพยายามของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ผมเป็นหัวหน้า ที่ได้ร่วมกันดำเนินการอย่างจริงจัง แน่นอนว่า เราต้องไม่หยุดเพียงเท่านี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการช่วยดูแล ป้องกันไม่ให้ปัญหากลับมาอีก ไม่ให้เกิดซ้ำอีก แม้เราจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ดีที่สุด” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นพื้นฐานในการสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่สำคัญมาก เราจึงต้องพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดูแล สอดส่อง ป้องกัน ปราบปราม และมีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และให้ความรู้อย่างทั่วถึง ในขณะที่ประชาชนก็ต้องรับทราบกฎหมายนะครับไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้

“เมื่อไม่มีผู้ซื้อ ผู้ขายก็จะหมดไป” เมื่อผู้ซื้อไม่ซื้อ ผู้ขายก็ขายไม่ได้ เพราะฉะนั้นผู้ขายก็จะไปหาสินค้าอื่นนะครับ มาจำหน่ายที่ถูกต้องซะไม่อย่างนั้น ก็จะกลายเป็นว่าไปทำลาย อาชีพ รายได้ของเขาอีก อย่างทีมีหลายคนบิดเบือนไป หากเราร่วมกันคนละไม้ละมือได้ ผมก็หวังว่าเราจะสามารถร่วมกัน ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศและสร้างพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ดี ที่ถูกต้อง และเป็นสากล สอดรับการปฏิรูปประเทศในระยะต่อไป