posttoday

กมธ.ยันไม่คิดแก้ "ร่างพรป.เลือกตั้ง" ยืดเวลาทำไพรมารี่โหวต

18 มกราคม 2561

กมธ.ยืนยันไม่คิดแก้ไขร่างร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อยืดเวลา

กมธ.ยืนยันไม่คิดแก้ไขร่างร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อยืดเวลา

นายเสรี สุวรรณภานนท์ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีสำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา กรณีที่กมธ.มีประชุมลับแก้ไขร่างดังกล่าวเพื่อขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายภายในประกาศราชกิจจานุเบกษา เป็น 90 วัน ซึ่งจะทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อนออกไปนั้น โดยยืนยันว่ากมธ.มีประชุมร่างกฎหมายนี้แต่ไม่มีประชุมลับและไม่มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว

"ไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร ต้องไปถามบุคคลเปิดเผยข้อมูลออกมา เพราะเขียนข่าวเป็นตุเป็นตะ เหมือนนั่งอยู่ในที่ประชุม ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการปล่อยข่าวหรือไม่อย่างไร หรือเป็นการยืดเวลาออกไปเพื่อให้ทำไพรมารีโหวตได้ทันกำหนดหรือไม่ โดยในประเด็นดังกล่าวเมื่อตกเป็นข่าว จะนำไปประชุมหารือในวันที่ 19 ม.ค. อีกครั้ง ว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป"นายเสรี กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามกมธ. อาทิ นายวิทยา ผิวผ่อง ประธานกมธ. นายทวีศักด์ สูทกวาทิน โฆษกกมธ. และนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ รองประธานกมธ. ต่างระบุยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีการแก้ไขในประเด็นดังกล่าว

ด้านแหล่งข่าวกมธ. ระบุว่า เป็นแค่แนวทางเท่านั้นที่จะช่วยให้พรรคการเมืองสามารถเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งได้ทันการ โดยเฉพาะการทำไพรมารีโหวตซึ่งต้องใช้ระยะเวลา จากเดิมที่พรรคการเมืองต่างๆ จะสามารถทำกิจกรรมพรรคการเมืองได้ในเดือนนี้ แต่เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ยอมปลดล็อคให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ และให้เริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนมี.ค.และเดือนเม.ย. ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 53/2560

แหล่งข่าวระบุต่อว่า ดังนั้น แนวทางการเขียนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขยายให้มีผลบังคับใช้ 90 วันภายหลังประกาศราชกิจจาฯ จึงเป็นทางออกให้ทำกิจกรรมการเมืองต่างๆได้ทัน อย่างไรก็ตาม จะมีการแก้ไขตามกระแสข่าวหรือไม่ ต้องติดตามการประชุมนัดสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ (19ม.ค.) จากนั้นจะนำเข้าคณะกรรมาธิการวิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิปสนช.)ในวันที่ 23 ม.ค. และเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมใหญ่สนช. ในวาระ 2-3 วันที่ 25 ม.ค.นี้