posttoday

ไม่แก้ระบบยุติธรรม-ปรองดองไม่เกิด

14 ธันวาคม 2560

“อุเทน” ทวงข้อเสนอปรองดองแก้ไขระบบความยุติธรรมไปถึงไหนแล้ว เผยเคยทำ จม.เปิดผนึกถึงนายกฯ จนป่านนี้ยังเงียบกริบ

"อุเทน” ทวงข้อเสนอปรองดองแก้ไขระบบความยุติธรรมไปถึงไหนแล้ว เผยเคยทำ จม.เปิดผนึกถึงนายกฯ จนป่านนี้ยังเงียบกริบ

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองสามัคคี ของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่เปิดให้ตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าร่วม เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2560 ในการประชุมสรุปครั้งสุดท้าย พรรคคนไทยได้ทำจดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับแนวทางการสร้างความปรองดอง ผ่านการแก้ไขและบังคับใช้กฎหมาย โดยยกกรณีศึกษาจากการใช้มาตรา 116 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือข้อหายุยงปลุกปั่น ซึ่งใช้กับผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายระดับ โดยพรรคคนไทยชี้ให้เห็นว่า ตัวบทบัญญัติมีการเขียนไว้ในลักษณะคลุมเครือ อีกทั้งเมื่อนำมาบังคับใช้ก็เกิดเป็นหลายมาตรฐาน เช่น เมื่อเปรียบเทียบคดีของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา และล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2552 ซึ่งมีการดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากกรณีของแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในกรณียึดสนามบินอย่างชัดเจน หากแต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีภาคส่วนไหนของรัฐบาล หรือ คสช.ได้ดำเนินการตามที่พรรคคนไทยได้เสนอไป

“วันนั้นผมได้นำจดหมายฝากไปกับรองฯวิษณุ (นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ) และท่านเลขาฯนายกฯ (พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ)  เพื่อนำเรียนไปถึงท่านนายกฯประยุทธ์ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการดำเนินการใดๆ ตามที่ได้เสนอไป จึงไม่แน่ใจว่าหนังสือถึงมือท่านนายกฯหรือไม่” นายอุเทน กล่าว

นายอุเทน กล่าวต่อว่า ในขณะที่รัฐบาลและ คสช.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ แต่กลับไม่สนใจ ไม่มีการนำพาข้อเสนอแนะของฝ่ายต่างๆไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรม จนต้องถามว่า กระบวนการที่ผ่านมาเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้นรึ หรือผู้เกี่ยวข้องอาจจะได้รับข้อเสนอของพรรคคนไทย รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ก็ไม่สนใจรับฟังอย่างนั้นหรือ สิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างอย่างเก็นได้ชัดกับกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำหนังสือเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ดูเหมือนคนในรัฐบาลตื่นตัวและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งที่เนื้อหาจดหมายของนายชวนนั้นแสนธรรมดา เป็นข้อมูลพื้นฐานเดือดร้อน เรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้องแค่เฉพาะคนใต้ แต่ที่จริง ทุกภูมิภาคก็เดือดร้อนไม่ต่างกัน โดยรัฐบาลเองก็รับทราบอยู่แล้ว ต่างจากข้อเสนอเกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง ที่รัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการใด อย่างเป็นรูปธรรม ในฐานะที่คลุกคลีในฝ่ายการเมืองมาตลอด ก็พยายามเสนอแนะชี้ทางสว่างให้ แต่กลับไม่ให้ความสำคัญ มากไปกว่าเชิญไปร่วมเวทีให้ครบองค์ประชุมเท่านั้น หากคิดแต่เรื่องสร้างภาพให้ดูดี ทำอะไรก็เป็นแค่พิธีกรรม ขืนเป็นแบบนี้ บอกได้เลยว่าความปรองดองก็ยากที่จะเป็นจริง .