ดีเอสไอย้ำ"โอ๊ค"กับพวกต้องส่งคำแก้ต่างคดีฟอกเงินภายใน15ธ.ค.นี้

ดีเอสไอ เผย 15 ธ.คนี้  “โอ๊ค”และพวกรวม 4คนต้องส่งคำให้การพร้อมหลักฐานแก้ต่างคดีฟอกเงินแบงค์กรุงไทย หลังจากเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ชี้คดีหมดอายุความมิ.ย. 61

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พ.ต.อ. ไพสิฐ วงษ์เมืองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวถึงความคืบหน้าคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทยซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวนายพานทองแท้  ชินวัตร  บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 4 คน ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบฟอกเงินว่าหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ให้การปฏิเสธ และขอเวลา 60 วันในการยื่นเอกสารและคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรโดยจะครบกำหนดภายในวันที่  15 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตามหลังจากพนักงานสอบสวนได้รับคำให้การจากผู้ต้องหาแล้วจะนำเข้าที่ประชุมพิจารณาร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการเพื่อตรวจสอบว่าคำให้การสามารถหักล้างแก้ข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนได้หรือไม่จากนั้นจะสรุปสำนวนให้เสร็จก่อนครบกำหนดคดีหมดอายุความในเดือนมิ.ย.61

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษออกหมายเรียกให้นางเกศินี จิปิภพ , นางกาญจนาภา หงษ์เหิน,  นายวันชัย หงส์เหิน และ  นายพานทองแท้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหา ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมาปรากฏว่าบุคคล 4 รายได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนก่อนกำหนดในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยการรับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนั้นนายพานทองแท้และผู้ต้องหารายอื่น เดิน ทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ขณะที่นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และน.ส.แพรทองทา ชินวัตร เดินทางมาให้กำลังใจนายพานทองแท้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรมในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายในคดีนี้ และนายพิชิต ชื่นบานเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำ

สำหรับคดีดังกล่าวสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ได้มีหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดกรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบและขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องนี้มีจำนวน 10 ล้านบาท และ จำนวน 26  ล้านบาท  ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25/2560

ต่อมาพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลจำนวน 4 คน ได้แก่ 1 นางเกศินี จิปิภพ 2 นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3 นายวันชัย หงส์เหิน และ 4 นายพานทองแท้  ชินวัตร ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว