posttoday

"ธนะศักดิ์"พาสื่อทดสอบระบบเข้าชม "พระเมรุมาศ"

01 พฤศจิกายน 2560

พล.อ.ธนะศักดิ์ พาสื่อมวลชนตรวจความพร้อม ทดสอบการนำเข้าชมนิทรรศการ พระเมรุมาศ ก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าชม 2-30 พ.ย. ขอให้แต่งกายสุภาพ - สำรวม

พล.อ.ธนะศักดิ์ พาสื่อมวลชนตรวจความพร้อม ทดสอบการนำเข้าชมนิทรรศการ พระเมรุมาศ ก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าชม 2-30 พ.ย. ขอให้แต่งกายสุภาพ - สำรวม

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาสื่อมวลชนเข้าตรวจความพร้อม และทดสอบการนำเข้าชมนิทรรศการ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมจริงในวันที่ 2-30 พ.ย.2560 โดยได้ทดสอบระบบคัดกรองการนำชมพระเมรุมาศแต่ละอาคารภายในพระเมรุมาศ รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และพระภิกษุสงฆ์ พร้อมยังทดสอบระบบทางลาดของผู้พิการด้วย

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนเข้าชมด้วยกิริยาสุภาพ รวมถึงแต่งกายสุภาพ  ทั้งนี้จะพิจารณาเรื่องเวลาเปิด-ปิดให้เข้าชมนิทรรศการ โดยจะประเมินจากประชาชนที่เข้ามาในแต่ละวัน ส่วนระยะเวลาที่จะขยายให้ประชาชนเข้าชมหลังจากนี้ต้องขอประเมินจากการเข้าชมของประชาชนด้วยเช่นกัน ก่อนจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอพระบรมราชานุญาต นอกจากนี้ตนเองยังอยากขอความร่วมมือประชาชนถ่ายภาพภายในนิทรรศการด้วยความสุภาพ เพราะนิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของไทยและของโลก

สำหรับนิทรรศการเนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จัดขึ้นเพื่อน้อมนำลึกถึงพระมหากรุณาที่คุณผ่านพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณีของไทย รวมเข้าชมพระเมรุมาศและอาคารประกอบที่จัดสร้างอย่างสมพระเกียรติ

โดยภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย1.นิทรรศการพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม จุดนี้จะมีนิทรรศการพระราชาประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตรกรรมฝาผนังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชื่อ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์” บริเวณศาลาลูกขุน 6 หลัง เป็นนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วยงานบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ บริเวณทับเกษตร นำสัมผัสพระสุเมรุ ซึ่งจุดนี้จะเป็นนิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตาเพื่อให้ผู้พิการได้มีโอกาสสัมผัสของจริงแทนการมองด้วยตา ส่วนผู้พิการทางการได้ยินมีจิตอาสานำชมด้วยภาษามือ ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ ที่แสดงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ เช่น พันธุ์ข้าวพระราชทาน หญ้าแฝก ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก กังหันชัยพัฒนา ฝายน้ำล้น ส่วนนาข้าวจะมีขอบคันนาออกแบบเชิงเป็นเลขเก้าไทย

ทั้งนี้ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย. ในเวลา 07.00-22.00 น. ของทุกวัน รอบละ 5,500 คน และใช้เวลารอบละ 45 นาที - 1 ชั่วโมง คาดว่าแต่ละวันจะมีผู้เข้าชม 100,000 คน ซึ่งผู้ที่เข้ามาชมจะต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย พกบัตรประจำตัวประชาชนและต้องผ่านจุดคัดกรอง 5 จุด ประกอบด้วยบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณท่าช้าง บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์และบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม

ด้าน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สำหรับนิทรรศการเนื่องในงานพระราชพิธถวายพระเพลิงพระบรมศพ ประกอบด้วย 1.นิทรรศการพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศที่ใช้ใพระราชพิธี 2.บริเวณพระที่นั่งทรงธรรม เป็นนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชื่อ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" มี 5 หัวข้อคือ เมือ่เสด็จอวตาร รัชกาลที่ร่มเย็น เพ็ญพระราชธรรม นำพระราชไมตรี และพระจักรีนิวัตฟ้า บริเวณ 3 เนของพระที่นั่ง 3.บริวเณศาลาลูกขุน 6 หลัง เป็นนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบ และงานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ 4.บริเวณทับเกษตร เป็นนิทรรศการเพื่อผู้พิการทางสายตา และ 5.ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ สะท้อนให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9

นายวีระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีเวทีมหรสพด้านนอกฝั่งทิศเหนือ จัดแสดง 2 ช่วง คือ เวลา 18.00-19.30 น. และ 20.00-22.00 น. เช่น การแสดงพื้นเมืองแต่ละภาค ละครในเรื่องอิเหนา พระมหาชนก ดนตรีสากล เป็นต้น โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 19.00-20.00 น. จัดแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เริ่มครั้งแรกวันที่ 4 พ.ย.นี้ โดย วธ.ยังเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมโรงราชรถและพระยานมาศที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครด้วย

นายวีระ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกมีการประสานกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข ให้บริการจุดน้ำดื่ม รถสุขาเคลื่อนที่ และทีมแพทย์พยาบาลดูแลรอบสนามหลวง ส่วนการเดินทางประสาน ขสมก.จัดรถเมล์ฟรีจากจุดต่างๆ มายังสนามหลวง 6 เส้นทาง คือ 1.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2.สถานีรถไฟหัวลำโพง 3.วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ 4.สถานีขนส่งเอกมัย 5.สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ และ 6.สถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับประสานกองทัพเรือให้บริการเดินเรือตั้งแต่ 06.00-22.00 น. ที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา และประสานกรมเจ้าท่าขอความร่วมมือผู้ให้บริการเรือด่วน เรือเมล์ ขยายเวลาให้สอดคล้องกับการจัดยิทรรศการคือ 05.00-22.30 น.