posttoday

"บิ๊กตู่"ปลื้มไทยถูกจัดอันดับเหมาะเริ่มต้นธุรกิจที่สุดในโลก

19 พฤษภาคม 2560

นายกรัฐมนตรีเผยU.S.News สหรัฐอเมริกาจัดอันดับไทยเหมาะเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก ขอฝ่ายการเมืองอย่าลบล้างสิ่งที่คสช.วางรากฐาน

นายกรัฐมนตรีเผยU.S.News สหรัฐอเมริกาจัดอันดับไทยเหมาะเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก ขอฝ่ายการเมืองอย่าลบล้างสิ่งที่คสช.วางรากฐาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า มีรายงานผลการจัดอันดับ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2017 ของ U.S.News สหรัฐอเมริกา ชี้ว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก เป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 2 ปีและยังถูกยกให้เป็นประเทศที่โดดเด่นเรื่องการเปิดโอกาสทางธุรกิจ และการเริ่มต้นงานใหม่เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับใช้ชีวิตยามเกษียณและมีคุณภาพชีวิตดี

เรื่องผลงานมี หรือไม่มี ไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีอะไรใหม่อย่างเดียว แต่ก็อยากให้ดูด้วยว่า เราจะต้องแก้ไขปัญหาประเทศอะไรบ้างที่สะสมมานาน เพื่อไปสู่จุดหมายอันเดียวกัน แล้วจะต้องมีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกาทำงานของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ และวิธีบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการจัดทำโครงสร้างใหม่ๆ พร้อมมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ที่หลายคนอาจจะยังยึดติดอยู่ และยังไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ให้เงินช่วยเหลือมากๆ คำพูดเหล่านั้น เป็นเพียงวาทกรรม ที่หวังผลทางการเมืองในอนาคตมากกว่า

อยากเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาด้วยการให้เงินสนับสนุน เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งจำเป็นก็ยังทำอยู่ แต่ทำให้ถูกต้อง แต่การลงทุนเพื่ออนาคต เราจะต้องสร้างกลไกเพื่อสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากให้มากยิ่งขึ้น เหล่านี้เป็นการแก้ปัญหาระยะยาวและยั่งยืน ก็ขอฝากฝ่ายการเมืองต่างๆ ไว้ด้วย ขอให้ทบทวน ช่วยกันพิจารณาดูให้ดี ว่าความจริงแล้วสังคมไทย เราต้องการการแก้ปัญหาแบบไหน จึงจะนำพาประเทศหลุดพ้นกับดักต่างๆ ได้อย่างแท้จริง ก็ต้องไปทั้งสองอย่างด้วย

ในการสร้างการรับรู้เพื่อความเข้าใจกันมีความสำคัญ อยากให้หาเวลาออกไปพบปะพูดคุยกันทั้งใน กทม. และในท้องถิ่น จังหวัดต่างๆ ทั้ง อบจ. อบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ในแต่ละพื้นที่ของตนเอง จะได้เข้าใจร่วมกัน ได้ถามไถ่ไขข้อข้องใจ ในการที่จะเข้ามาร่วมมือกันในกระบวนการสร้างความเข้าใจ เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง บนพื้นฐานหลักคิดที่ถูกต้อง อยากให้เป็นการสื่อสาร 2 ทางเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ เข้าใจ ในประเด็นของข้อกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ/p>

"ขอให้ คสช. ได้ช่วยสนับสนุน และ ดูแลกิจกรรมเหล่านี้ด้วย กระทรวงศึกษา ครู อาจารย์ต่างๆทั้งหมด ทุกภาคส่วน ขอให้ช่วยกันในเรื่องนี้ คุยกันให้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเปิดเวทีอะไรมากมาย คุยกันในหมู่บ้าน ในชุมชน ในครอบครัวอะไรต่างๆ เหล่านี้ว่าปัญหาประเทศไทยมันอยู่ตรงไหน และวันนี้รัฐบาลทำอะไรไปบ้าง อะไรที่ยังทำได้ไม่ดีหรือทำดีก็พูดกันถึงกันบ้าง อย่างน้อยมันก็เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดพื้นฐานกันได้ ที่สำคัญก็คือในเรื่องของการปฏิรูปประเทศ  นอกจากระบบการศึกษาที่เรากำลังปฏิรูปกันอยู่ เราต้องปฏิรูปทางความคิดไปพร้อมๆ กันด้วย และต้องให้ความสำคัญกับการสร้างการเรียนรู้ ทั้งหมดจะต้องมีหลักคิดที่ร่วมกันที่ถูกต้องร่วมกันเสียก่อน มากกว่าการที่จะกล่าวอ้างแต่ประชาธิปไตยอย่างเดียว"นายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับการเตรียมการสำหรับทำงานการเมือง หรือการเดินหน้าประเทศสู่ประชาธิปไตยในอนาคต เราคงไม่จำเป็นต้องทำลายลบล้างสิ่งที่ คสช.วางรากฐาน หรือปรับไว้หลายอย่าง ซึ่งอาจจะมีคนที่ไม่เห็นชอบ ไม่เห็นด้วย แล้วพยายามทำลาย เซาะให้เอนเอียง เหมือนเดิมอีกครั้ง เพื่อแสวงหาหนทางเข้าสู่อำนาจทางการเมืองโดยไม่ได้มุ่งหวังให้ประชาชนเข้มแข็ง ช่วยตัวเองได้ วันหน้าก็คงต้องพึ่งพารัฐ หรือฝ่ายการเมืองเหมือนเดิม อันนี้เป็นจุดอ่อน ของประชาธิปไตยของประเทศไทย ขอทุกคนไปใคร่ครวญด้วยรัฐบาลนี้ พร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยของเรา ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่เป็นเพียงพิธีกรรมเหมือนการเลือกตั้ง

วันนี้ยินดีที่มีนักการเมืองหลายท่าน ออกมาพูดในเรื่องที่สร้างสรรค์ เช่น เราจะต้องร่วมมือกัน ขจัดคนไม่ดีออกไปจากการเมืองไทยให้ได้ เราต้องมีการพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน คนไทย ว่าเราต้องการจะหลุดพ้นจากกับดักหรือวังวนแห่งปัญหา ให้ได้ หรือไม่ อย่าทำให้นักการเมืองดีๆ ที่ก็มีอยู่เยอะ หรือคนที่คิดว่าจะมาเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ทางเลือกใหม่ ต้องเสียกำลังใจ เสียความตั้งใจ หรือเกิดวิกฤติศรัทธาที่จะเข้ามาทำงานช่วยชาติ