posttoday

สนช.-สปท.ชงเพิ่มเงินเดือนตำรวจเพื่อปฏิรูป

18 พฤษภาคม 2560

สนช.-สปท.เสนอเพิ่มเงินเดือนตำรวจเพื่อปฏิรูป เหตุเป็นอาชีพมีความเสี่ยง ชงสังกัดกระทรวงยุติธรรม

สนช.-สปท.เสนอเพิ่มเงินเดือนตำรวจเพื่อปฏิรูป เหตุเป็นอาชีพมีความเสี่ยง ชงสังกัดกระทรวงยุติธรรม

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่รัฐสภา คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการฯ แถลงรายงานการปฏิรูปตำรวจว่า รายงานผลการศึกษาดังกล่าวจะนำเสนอเข้าที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่เสนอต่อที่ประชุมครม.พิจารณาต่อไป โดยคณะอนุกรรมการฯเห็นว่าองค์กรตำรวจควรปฏิรูปและเปลี่ยนแปลง โดย ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญามารวมอยู่ภายใต้รัฐมนตรีคนเดียวกัน และให้การบริหารจัดการกระบวนการยุติธรรมทางอาญาสอดคล้องเป็นระบบเดียวกัน  ทั้งตำรวจ อัยการ ศาล จะได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายอื่นๆในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม

พล.ต.ท.บุญเรือง กล่าวว่า ส่วนการแต่งตั้งผบ.ตร.จะมีการปฏิรูป โดยใช้หลักเกณฑ์ต้องผ่านงานสอบสวนอย่างน้อย 2ปี และร่วมรับผิดชอบสำนวนสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 คดี ขณะเดียวกันจะปรับปรุงเงินเดือนตำรวจให้เพียงพอต่อดำรงชีพ เพื่อให้เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่เดือดร้อน  สามารถปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามคนร้าย และอำนวยความยุติธรรมได้อย่างไม่มีความกังวลและห่วงใย  ทั้งนี้สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่คือการขาดแคลนงบประมาณ เช่น เมื่อเกิดคดีที่ต้องติดตามคนร้ายหรือคดีที่ต้องมีค่าใช้จ่าย แต่กลับไม่มีงบประมาณส่วนนี้ หลายครั้งตำรวจต้องออกเงินกันเอง เป็นการผลักตำรวจไปอยู่ในพื้นที่สีเทา นอกจากนี้จะให้มีการติดตั้งซีซีทีวีช่วยติดตามคนร้ายอีกทางหนึ่งเหมือนต่างประเทศที่ติดตั้งซีซีทีวีเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ของไทยมีความซ้ำซ้อน เพราะเป็นการติดตั้งโดยหลายหน่วยงาน จึงอยากให้โอนให้ทางตำรวจรับผิดชอบเพราะเป็นหน่วยงานที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว

สำหรับเนื้อหาในรายงานของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ  คณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยังได้ศึกษาเรื่องงบประมาณของตำรวจ มีข้อเสนอให้ปรับปรุงเงินเดือนและค่าตอบแทนต่างๆของข้าราชการตำรวจ ให้แตกต่างจากข้าราชการพลเรือน เพราะเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสูงกว่าข้าราชการพลเรือนถึง 13.56-22.57 เท่า จึงเสนอให้ใช้อัตราอ้างอิงในต่างประเทศที่กำหนดให้ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนมีเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการพลเรือนสามัญในระดับเดียวกัน 1.28 เท่า และข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ 1.74 เท่า โดยข้าราชการตำรวจชั้นประทวนบรรจุใหม่ ควรมีเงินเดือนเริ่มต้น 13,773 บาท จากเดิม 10,760 บาท ขณะที่ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรบรรจุใหม่  ควรมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ประมาณ 26,605 บาท จากเดิม 15,290 บาท  และควรมีอัตราเงินเพิ่มเติมแก่ข้าราชการตำรวจสายงานป้องกันและปราบปราม สายงานจราจร และสายงานสืบสวนที่มีความเสี่ยงการปฏิบัติงานสูงกว่าตำรวจสายงานอำนวยการ

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้จัดสรรงบประมาณด้านการพัฒนาไอทีออนไลน์ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การบริการประชาชนในการรับแจ้งความและสอบสวนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าทางคดีได้ด้วยตนเอง โดยใช้ Usename และPassword แก่ประชาชนในการติดตามคดีด้วยตัวเอง ส่วนการปฏิรูประบบงานสอบสวนเสนอให้ปรับระบบการเข้าเวรของพนักงานสอบสวนประจำสถานีตำรวจจากเดิมเข้าเวรเดี่ยวเป็นเข้าเวรเป็นชุดพนักงานสอบสวน และควรมีการแยกคดีที่ต้องสืบสวนสอบสวนเป็นกรณีพิเศษออกจากการสืบสวนสอบสวนทั่วไป เช่น คดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน คดีผู้มีอิทธิพล คดีที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญระดับสูงเฉพาะทาง เพื่อให้หน่วยงานจากส่วนกลางมารับผิดชอบแทน ตลอดจนให้มีเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกับข้าราชการในสายงานตามกระบวนการยุติธรรมอื่นเช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)   อัยการ

ภาพประกอบข่าว