posttoday

ผบ.ทบ.สั่งเข้มปรามยาเสพติด หลังพบลอบขนยาเพิ่มขึ้น

15 พฤษภาคม 2560

"บิ๊กเจี๊ยบ" ถก คสช.ชี้ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สั่งกองกำลังชายแดนคุมเข้ม-สกัดกั้น ห่วงยาเสพติดกลับมาเป็นปัญหาอีก

"บิ๊กเจี๊ยบ" ถก คสช.ชี้ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สั่งกองกำลังชายแดนคุมเข้ม-สกัดกั้น ห่วงยาเสพติดกลับมาเป็นปัญหาอีก

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ทั้งนี้ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ในการประชุมมีการรายงานผลการรักษาความสงบเรียบร้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันปฏิบัติงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธ ป่าไม้ การพนัน รวมทั้งดำรงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับประชาชน

โดยสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำผิด 257 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 608 คน ยึดยาบ้า 2.57 ล้านเม็ด, ไอซ์ 7.28 กิโลกรัม, กระท่อม 180 กิโลกรัม, ไม้มีค่า 206 ท่อน /572 แผ่น, อาวุธปืน 62 กระบอก, กระสุน 1,032 นัด และเงินสด 252,162 บาท 

โดยมีการจับกุมที่สำคัญได้แก่ จับยาบ้า 90,000 เม็ด ที่ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2,จับกุมยาบ้า 1,156,000 เม็ด พร้อมไอซ์ 7 กิโลกรัม ได้ที่ อ.แม่พริก จ.เชียงราย โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่3, การยึดพืชกระท่อม 59 กิโลกรัม และอาวุธปืน 13 กระบอก ได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 และล่าสุดจับยาบ้า 700,000 เม็ด ได้ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยกองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3

สำหรับในเรื่องยาเสพติด พล.อ.เฉลิมชัย  ให้ความสำคัญต่อประเด็นนี้เป็นอย่างยิ่ง ประเมินจากสถิติผลการจับกุมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้วิเคราะห์สาเหตุและกำลังดำเนินการป้องปรามในทุกด้าน

ทั้งนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยด่วน โดยให้ครอบคลุมในทุกมาตรการทั้งเรื่องการป้องกัน การปราบปรามและการบำบัดรักษา ซึ่งในเรื่องการสกัดกั้นมิให้มีการลำเลียงยาเสพติดผ่านแนวชายแดนเข้ามาในประเทศไทยนั้น ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยชายแดนของทุกเหล่าทัพกำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการประสานงานกับหน่วยทหารประจำพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดการร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด

นอกจากนี้ให้ทุกส่วนดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีอยู่ ทั้งในเรื่องการควบคุมสารตั้งต้น ตรวจสอบแหล่งพักรอของยาเสพติด การตั้งด่านตรวจในเส้นทางคมนาคม เพื่อตรวจค้นมิให้มีการขนส่งยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด

การป้องกันการแพร่ระบาดยาเสพติดในสถานศึกษา กลุ่มผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไป การรณรงค์ในกลุ่มเยาวชน การสร้างชุมชนเข้มแข็งในลักษณะประชารัฐรวมใจตระหนักถึงโทษภัยของยาเสพติด ซึ่งการดำเนินการในทุกมาตรการนั้นหวังกระตุ้นเตือนให้สังคมกลับมาให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง