"บิ๊กจิ๋ว" การันตี 3 ปีคสช.เอาจริงสร้างความปรองดองได้

พล.อ.ชวลิต เชื่อ 3 ปีคสช.เอาจริงสร้างความปรองดองได้ ชี้ปัญหาชายแดนใต้ต้องหันหน้าคุยกันไม่ใช้กำลัง

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.  พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านพักภายในซอยปิ่นประภาคม อ.เมือง จ.นนทบุรี ให้นายทหารและอดีตนักการเมืองเข้าอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 85 ปี พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นทางสังคม

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ผลงาน 3 ปี ของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากจะวิเคราะห์ต้องละเอียด และตลอดชีวิตตนไม่เคยเข้าข้างใคร การจะดูผลงานต้องรู้จริง ไม่ควรรู้ครึ่งเดียวหรือบางส่วน แต่ขอตอบว่า เอาใจช่วยดีกว่า โดยเฉพาะประชาชนคงรู้ว่าผู้บริหารชุดนี้ มีเจตนาแน่นอน เอาจริงเอาจริงกับสิ่งที่ทำ ซึ่งตนจะภาวนาเอาใจช่วย แต่จะให้ตอบว่า เป็นอย่างไรก็ขอเวลาสักนิดหนึ่ง อีกสัก 30 วัน จะอธิบายให้ฟังเต็มที่

เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่า รัฐบาลจะทำตามโรดแมปให้มีการเลือกตั้งในปีหน้า พล.อ.ชวลิต ระบุว่า หลักการในการปกครองของโลก หนีไม้พ้นระบอบประชาธิปไตยและการปกครองที่อธิปไตยเป็นของปวงชน ดังนั้นควรให้ความรักและความจริงใจต่อมวลชน เมื่อเป็นเช่นนั้นมหาชนหรือมวลชนจะรักท่านเอง ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้รัฐจะพยายามทำได้อยู่แล้ว

ส่วน คสช. จะคืนอำนาจให้ประชาชนหรือไม่นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า “อย่างไรก็ต้องคืน ไม่คืนไมได้ เพราะเป็นสิ่งที่มวลชนเขาทำมาอย่างนั้น และเราก็รู้ว่า มีกฎเกณฑ์เยอะ ใครไม่ทำตามหรือแซงชั่น (แทรกแซง) เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่เราก็อยากให้ผู้บริหารทำงานได้อย่างสบายใจ แต่ทิ้งจุดนี้ไม่ได้ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้ทิ้ง แต่กำลังหาวิธีการอยู่ทำอย่างไร เพื่อให้สิ่งที่มหาชนต้องการ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีอำนาจเยอะ แต่ปัญหาปากท้องก็ยังมีมากอยู่นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า  ในชีวิตตนได้ตั้งเจตนารมณ์แห่งชีวิตเอาไว้นานแล้ว และจะทำให้สำเร็จ ตอนเป็น ผบ.ทบ. รับราชการ ทำไม่สำเร็จ แต่ทำสำเร็จเรื่องเดียวคือ การสร้างความสงบ  จึงใช้เวลาที่เหลือมาสร้างอำนาจอธิปไตยให้เกิดกับปวงชน เพื่อให้ปวงชนได้ใช้อำนาจนั้น

“แน่นอนที่สุด รัฐบาลนี้ ก็กำลังแก้ไข กำลังชี้ให้เห็น หรือทำให้ดูแล้ว ต่อไปนี้น่าจะดี การแก้ปัญหาความยากจนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของตน ต้องใช้อะไรหลายอย่าง ใช้เวลามากในการอธิบาย ไม่ใช่เพียงข้าวเกวียนละ 20,000 บาท”

ส่วนแนวทางการสร้างความปรองดองของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต เชื่อว่า รัฐบาลทำได้และจะทำสำเร็จในเร็ววัน เพียงขอให้เปิดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำเพื่อถวาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ผมมองว่า พระองค์มีพระราชประสงค์ อยากให้บ้านเมืองสงบ ดังนั้นก็ต้องช่วยกัน ถวายความจงรักภักดีให้เต็มที่

ส่วนเส้นทางการเมืองหลังมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะมีแนวทางการดำเนินงานของพรรคความหวังใหม่อย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่มีอยู่ในความคิดเลยเรื่องการตั้งพรรค เพราะวันนี้ประชาชนเคลื่อนไหวด้วยความเข้าใจ ความรู้ เต็มที่แล้ว หรืออบุคคลใดอยากจะเรียนรู้ก็มาคุยกันเงียบๆ เพื่อขอความรู้ ทำความเข้าใจ หาทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เท่านั้นทุกอย่างจะเรียบร้อย พร้อมฝากความรัก ปรารถนาดี ไปถึงนายกฯ และทุกคน

นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ว่า เรื่องเรือดำน้ำ ไปต่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องคงจะไม่ดี ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องอาจลืมกล่าวบางเรื่องหรืออาจไม่ทราบเรื่องมากก็ได้ พร้อมยกตัวอย่างที่สมัยตอนที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมทำหน้าที่รักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ด้วยนั้น ได้ติดต่อกับมิตรประเทศที่สำคัญรวมถึงจีน ก็ได้ไปพบกับ เติ้งเสี่ยวผิง ก็ทำความเข้าใจกัน จนท้ายที่สุดผู้นำจีนก็เข้าใจตน และให้รถถังมา 200 คัน เรือฟริเกต 8 ลำ เรือบรรทุกทหาร 2 ลำ ซึ่งส่วนตัวก็ขอเรือดำน้ำ 1 ลำ โดยจีนได้ให้รุ่น คลาสมิง ที่เป็นลำเล็ก

“ผมขอลำใหญ่หน่อย เขาก็บอกขอรอความสัมพันธ์ และช่องแคบไต้หวันสงบก่อน เขาจะให้ ผมว่า การที่จะให้มีเรือดำน้ำ จะมีหรือไม่มี ไม่ใช่พวกเราพูดๆ กันเฉยๆ มีเรื่องที่สำคัญอีก คือ เรือดำน้ำที่ไปขอครั้งนั้น ไมได้ไปรบกับใคร ทุกคนที่ไปพูดในเรือดำน้ำในรัฐบาล คงไม่ต้องการให้เรือดำน้ำเราไปรบกับใคร แต่ผมต้องการฝึกคนมากกว่า”

"ทุกคนคงจะทราบกัน ผู้ที่ทำงานในเรือใต้น้ำ ดำน้ำ เดินสวนกันยังรู้เลยนี่ทำงานใต้น้ำ ดูตรงทหารธรรมดา ตะเบ๊ะอย่างนี้ ทหารเรือดำน้ำตะเบ๊ะอย่างนี้ เพราะในเรือดำน้ำแคบ การทำงานเรือดำน้ำ เราจะเอาคนคนหนึ่ง ไปนั่งอยู่หน้าจออันหนึ่ง เวลา 3-4 เดือน ไม่เห็นเดือนตะวัน ไม่เห็นหน้าเห็นตาใคร คือว่าทำง่ายๆหรอ ที่เราจะเอาเรือดำน้ำมา ตอนนั้นก็หวังจะฝึกคน ให้มีความรู้ ประสบการณ์ ฝึกในเรื่องการจัดการ การซ่อมบำรุง เพราะไม่ใช่ว่ามาพรุ่งนี้ใช้ได้เลย ต้องใช้เวลา ส่วนการใช้งบประมารก็ต้องค่อยๆ ตอนผมทำ ผมไปหน้าด้านขอเขา พูดง่ายๆ เขาก็โอเค" พล.อ.ชลวิต กล่าว

นอกจากนี้ อดีตนายกฯ กล่าวถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า  ที่ผ่านมามีความขัดแย้งตลอดเวลา โดยทางกลุ่มมาราปาตานี ก็ขัดแย้งกับ บีอาร์เอ็น จึงเกิดความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ว่าไม่ใช่ เพราะเหตุการณ์เงียบเมื่อไหร่ก็เกิดทุกที แต่ความจริงทั้งคู่จะต้องหันหน้ามาคุยกัน ขอให้ช่วยสนับสนุนกัน ให้ความรักกัน ความเข้าใจกัน อย่าไปใช้กำลังเพราะไม่มีประโยชน์

ส่วนที่มีข่าวพรรคเพื่อไทยจะไปรวมกับพรรคใน จ.ชายแดนภาคใต้ พล.อ.ชวลิต ระบุว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้เข้าพรรคเพื่อไทยหลายปีแล้ว