posttoday

สนช.ผ่านกฎหมายบริหารราชการในพระองค์

20 เมษายน 2560

มติ สนช.ผ่านกฎหมายบริหารราชการในพระองค์ 'พรเพชร' เผยความลับบอกรายละเอียดไม่ได้ พร้อมอนุมัติกม.โอนงบประมาณ 1 หมื่นล้าน

มติ สนช.ผ่านกฎหมายบริหารราชการในพระองค์ 'พรเพชร' เผยความลับบอกรายละเอียดไม่ได้ พร้อมอนุมัติกม.โอนงบประมาณ 1 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานในการประชุม มีวาระการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. ....ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาลได้ชี้แจงว่า ในการนำเสนอร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. ..... คณะรัฐมนตรีได้ขอให้การประชุมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการประชุมลับ ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้อที่ 13 เพราะว่าคณะรัฐมนตรียังไม่ได้ปลดชั้นความลับ ขั้นลับที่สุด ซึ่งได้ดำเนินการมาตามลำดับ จึงขอดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 ให้เป็นเรื่องลับที่สุดทุกขั้นตอน ทั้งเอกสารและกระบวนการพิจารณา

นายพรเพชร กล่าวว่า เมื่อครม.เสนอให้เป็นการประชุมลับ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับจึงขอเชิญผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม งดการกระจายเสียง และแพร่ภาพทางโทรทัศน์วงจรปิดทางรัฐสภา

ทั้งนี้ มีรายงานว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เหลือเพียง 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ 1.สำนักพระราชวัง  ประกอบด้วย สำนักราชเลขาธิการ  สำนักพระราชวัง   2.หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ประกอบด้วย กรมราชองครักษ์  หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์  สำนักนายตำรวจราชสำนักประจำ  และ 3.สำนักงานองคมนตรี เพื่อให้การบริหารหน่วยงานมีความกระชับมากขึ้น ซึ่งการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ตั้งกรรมาธิการเต็มสภาและได้ผ่านความเห็นชอบ 3 วาระรวด โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในรายละเอียดการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวบอกเพียงว่าเป็นการประชุมลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมสนช. มีมติเอกฉันท์ 207 เสียงเห็นชอบให้ร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายพ.ศ.ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ทั้งนี้ การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวสนช.เป็นการพิจารณา 3 วาระในคราวเดียว โดยไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาในรายและส่งให้สนช.ลงมติในวาระที่ 2 และ 3 แต่อย่างใด

สำหรับเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการโอนนำงบประมาณในรายการลักษณะงบลงทุนของหน่วยงานรัฐจำนวน 23 หน่วยงานที่ไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายใน 31 มี.ค. 2560 ไปตั้งไว้เป็นงบประมาณรายจ่ายสำหรับงบกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 11,866,512,300 บาท