posttoday

โพลเผยประชาชนหนักใจปัญหาทุจริต

04 กุมภาพันธ์ 2560

สวนดุสิตโพล เผยประชาชนหนักใจปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน โจรชุกชุม แนะใช้กฏหมายเข้มงวด

สวนดุสิตโพล เผยประชาชนหนักใจปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน โจรชุกชุม แนะใช้กฏหมายเข้มงวด

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ เรื่องปัญหาหนักอกคนไทย  พบว่า 5 ปัญหาหนักอกของคนไทยตอนนี้คือการทุจริต คอรัปชั่น 84.69 เปอร์เซ็นต์ ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีโจรผู้ร้ายชุกชุม 74.00 เปอร์เซ็นต์ ความเป็นอยู่ที่ยากจน มีหนี้สิน 71.05 เปอร์เซ็นต์ ความแตกแยก ขัดแย้งของผู้คน 68.18 เปอร์เซ็นต์ และปัญหาการเมือง 64.99 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในการแก้ปัญหาทุจริต คอรัปชั่นนั้นเห็นว่าต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด79.67 เปอร์เซ็นต์ พัฒนาการศึกษา ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เปอร์เซ็นต์ 76.56 เปอร์เซ็นต์ และมีระบบการตรวจสอบ ช่วยกันสอดส่องดูแล 69.46 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรในการแก้ไขปัญหานั้นประชาชนยังมองว่ามีอุปสรรคอีกหลายอย่างเช่น เศรษฐกิจไม่ดี สังคมเสื่อมโทรม 72.49 เปอร์เซ็นต์ ปัญหาพฤติกรรม จิตสำนึก ความโลภ นิสัยส่วนบุคคล 66.03 เปอร์เซ็นต์ และผู้มีอิทธิพล รวมถึงเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย 65.71 เปอร์เซ็นต์

สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุมนั้นผลสำรวจ บอกว่าเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดกวดขัน บทลงโทษต้องรุนแรง 70.02 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนมีสติ รอบคอบ ระมัดระวัง 65.31 เปอร์เซ็นต์ และพัฒนาเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ 51.12 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเช่น ปัญหาความยากจน สังคมเสื่อมโทรม73.13 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง บทลงโทษไม่รุนแรง 67.22 เปอร์เซ็นต์ และปัญหาคนติดยา ค้ายาเสพติด 52.63 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแนวทางในการแก้แก้ไขปัญหาความจนนั้นผลสำรวจระบุว่ารัฐมีนโยบายช่วยเหลือ จ้างงาน ลดภาษี 70.33 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนต้องประหยัด วางแผนการใช้จ่าย 62.12 เปอร์เซ็นต์ ปราบปรามเงินกู้นอกระบบ 59.35 เปอร์เซ็นต์ แต่อุปสรรคที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ยากคือ สภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ทำมาหากินลำบาก 71.77 เปอร์เซ็นต์ การถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกโกง 66.75 เปอร์เซ็นต์ พฤติกรรมส่วนบุคคล ความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย 63.72 เปอร์เซ็นต์

ส่วนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคมนั้นผลสำรวจ ระบุว่าทุกคนต้องให้อภัย หันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกัน 69.70 เปอร์เซ็นต์ มีคนกลาง เจรจาพูดคุย รับฟังซึ่งกันและกัน61.24 เปอร์เซ็นต์ ปลูกฝังค่านิยมที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ 53.75 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาคือ เรื่องทัศนคติ ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน 74.40 ถือทิฐิ เห็นแก่พวกพ้อง ไม่รับฟังความเห็น 59.81 เปอร์เซ็นต์ ผู้ ไม่หวังดี ยุยง ปล่อยข่าว สร้างกระแส 52.95 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับเรื่องการเมืองที่ผลสำรวจพบว่าการแก้ปัญหาจะต้องเสริมสร้างความปรองดอง หันหน้าเข้าหากัน 81.34 เปอร์เซ็นต์ มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย 77.35 เปอร์เซ็นต์ นักการเมืองต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เห็นแก่ส่วนรวม63.88 เปอร์เซ็นต์ อุปสรรค นักการเมืองขาดจิตสำนึก เห็นแก่ผลประโยชน์ 82.54 เปอร์เซ็นต์ นักการเมืองเป็นผู้ มีอิทธิพล มีพรรคพวก เส้นสาย 80.22 เปอร์เซ็นต์ การทุจริตคอรัปชั่น ซื้อสิทธิขายเสียง 65.39 เปอร์เซ็นต์